มนตราวายสะ ตอนที่ 11 หิว (คุณ) ต้องได้กิน (3)
+++++++++
เพราะอารมณ์และความรู้สึกรัญจวนใจยังคงค้างทำให้คำสั่งนั้นราวกับเวทมนตร์ สกุณาที่นอนหายใจเหนื่อยหอบอยู่ลุกขึ้นนั่งแล้วผลักร่างสูงลงนอนแทนที่ของตัวเอง แม้ตอนแรกทำเหมือนกล้าแต่พอเห็นความใหญ่โตที่กำลังผงาด ความมั่นใจเมื่อครู่ก็เหมือนจะวิ่งหนีหาย จ้องมองมันแล้วกลืนน้ำลายลงคอ ไม่คิดว่าสิ่งใหญ่โตนี้ จะเคยเข้าไปอยู่ในร่างกายของตัวเอง
ทว่าความอยากรู้อยากลอง อยู่เหนือความกลัวหญิงสาวยื่นมือไปสัมผัสความแข็งขืนขยับขึ้นลงช้า ๆ เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงครางและการขยับสะโพกขึ้นรับของวายสะ นั่นทำให้ความมั่นใจของสกุณากลับมาอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าและกำลังควบคุมเกมนี้อยู่
“นะ...นก...” วายสะครางชื่อของหญิงสาวเสียงแหบพร่าเมื่อเธอใช้ปลายลิ้นหยอกเย้าตัวตนของเขา ก่อนจะค่อย ๆ กลืนกินดูดเม้มขึ้นลงเป็นจังหวะไปในทิศทางเดียวกับมือนุ่มนิ่ม แม้จะเจ็บจากฟันที่ครูดโดนบ้างแต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะความรู้สึกนั้นน้อยนิดมากถ้าเทียบกับความเสียวกระสันที่อีกฝ่ายได้มอบให้ “เร่งจังหวะอีกนิดได้ไหม...ผมจะไม่ไหวแล้ว...”
สั่งอย่างไรก็ได้อย่างนั้น สกุณาเร่งความเร็วพร้อมกับครางอู้อี้เกือบจะตลอดเวลา เพราะชายหนุ่มหยัดสะโพกขึ้นสวนกับทิศทางของเธอทำให้ความใหญ่โตเข้าไปลึกจนถึงคอหอย แม้จะทรมานนิดหน่อย แต่ก็คิดว่าสู้ไหวจึงไม่ได้ผ่อนจังหวะ จนกระทั่งรับรู้ถึงรสชาติขมเฝื่อนในปาก จึงยอมปล่อยมันให้เป็นอิสระและกลืนความแปลกใหม่ที่มีไม่เยอะนั้นลงคอไปพร้อมกับใช้นิ้วโป้งนั้นเช็ดปาก แม้มันจะเป็นแค่ท่าทางธรรมดา แต่เมื่อมันเกิดขึ้นในสถานการณ์และอารมณ์ปรารถนาที่ยังคงคุกรุ่นไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อยของวายสะ จึงเห็นว่าภาพนั้นมันช่างยั่วยวนใจ ตวัดแขนดึงร่างบอบบางนั้นมานอนเกยอยู่บนตัวแล้วประกบจูบปากที่ยังคงมีกลิ่นและรสชาติของตัวเขาอย่างดูดดื่มเร่าร้อน
“หวังว่าคุณคงไม่เคยทำท่าทางแบบนี้กับใครใช่ไหม” วายสะถามพลางใช้นิ้วโป้งไล้ริมฝีปากอิ่มที่เขาเพิ่งครอบครองมันไปเมื่อครู่
“มะ...ไม่ค่ะ...” สกุณาที่ตอนนี้ถูกพลิกกลับลงไปนอนที่โซฟาตอบเสียงขาดเป็นห้วง ๆ หยัดกายขึ้นเมื่อความนุ่มหยุ่นและความเป็นหญิงของเธอถูกปากและมือของวายสะปลุกเร้าอีกครั้ง
“ดี คุณเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น จากนี้และตลอดไป” วายสะจัดการสวมถุงยาง แม้เขาอยากจะมีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวสกุณาไว้กับตัวเองมากแค่ไหน แต่ในตอนที่เขายังจัดการเรื่องสำคัญที่ว่านั้นยังไม่ได้ ทำให้ครั้งนี้เขาต้องป้องกันไว้ก่อน จนกว่าจะสามารถเปลี่ยนกฎบางอย่างของเผ่ากากุลิในดินแดนหิมพานต์ได้
“อะ...อืม...” สกุณาครางพลางจิกนิ้วทั้งสิบลงที่แผ่นหลังของวายสะ เมื่อความใหญ่โตนั้นแทรกเข้ามาในกายของตัวเอง แม้ครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่จากขนาดที่คิดว่าน่าจะใหญ่กว่ามาตรฐาน ทำให้มันยังคงมีความรู้เจ็บปะปนเข้ามาอยู่บ้าง ทั้งนี้มันก็ยังน้อยกว่าความคับแน่นและเสียวซ่าน ที่มันยิ่งเพิ่มทวีคูณหลายเท่าเมื่อเขาขยับสะโพกเป็นจังหวะ “เบาหน่อยได้ไหมคะ...มันจุก...” หญิงสาวร้องขอเสียงขาดเป็นห้วง ๆ ก่อนเธอจะถูกเขาปิดปากแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ไร้เสียงอ้อนวอนมีแต่เสียงครางที่เล็ดลอดออกมาเท่านั้น
“ดีขึ้นไหม...” วายสะที่จับร่างบางนั้นพลิก มือหนึ่งจับบั้นท้ายงามงอนเพื่อกะระยะพร้อมกับลดความดิบเถื่อนของตัวเองลง ส่วนอีกมือกระตุ้นความเสียวซ่านที่ตุ่มไต ริมฝีปากบรรจงจูบไล้ไปตามแนวไขสันหลัง
“อะ...ค่ะ...” สกุณาสั่นสะท้านไปทั้งกายเมื่อความเสียวซ่านจู่โจมมาทุกทิศทาง แม้จะเริ่มรู้สึกว่าจังหวะรักที่นุ่มนวลนั้นค่อย ๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทว่ามันกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลยแม้แต่น้อย ทุกการเคลื่อนไหวมีแต่ความเสียวกระสัน และยิ่งความรู้สึกนั้นถาโถมหนักขึ้นมากเท่าไหร่ กลับเป็นเธอเองที่ขยับรับสวนกับจังหวะของเขา ที่รัวเร็วหนักหน่วงพร้อมกับครางประสานกันระงมกับวายสะ ก่อนทั้งคู่จะเกร็งกระตุกและฟุบลงบนโซฟาอย่างหมดแรง