3 ประเทศที่อากาศบริสุทธิ์ที่สุดใน 2024
ในปัจจุบันการท่องเทียวเชิงธรรมชาติเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนต่างเหนื่อยล้าจากการทำงาน หรือการใช้ชีวิตในชุมชนเมืองที่มีแต่มลพิษ ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางเสียง หรืออากาศ วันนี้เราจึงมาแนะนำประเทศน่าเที่ยวซึ่งเป็นประเทศที่ถือว่าเป็นประเทศที่มีอากาศบริสุทธิ์ในปี 2024 นี้ ซึ่งดูได้จาก ค่า AQI หรือค่า ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index) เป็นการรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศในภาพรวมที่ประกอบด้วยมลพิษทางอากาศ 6 ชนิด ได้แก่
- ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10)
- ก๊าซโอโซน (O3)
- ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO)
- ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2)
- ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)
- ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 5 ไมครอน (PM2.5)
ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำประเทศที่มีอากาสบริสุทธิ์ทั้งหมด 3 ประเทศ
- ประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand)
เมือง: โอ๊คแลนด์
ค่า AQI: 43 (ดี)
ลักษณะภูมิประเทศ : โอ๊คแลนด์ ตั้งอยู่บนคอคอด ระหว่างอ่าวที่เป็นท่าเรือธรรมชาติ 2 แห่ง คืออ่าวไวเตมาตา (Waitemata Harbour) และอ่าวมานูเคา (Manukau Harbour) เป็นเมืองที่แวดล้อมด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ 50 เกาะ และมีภูมิทัศน์ที่สวยงามเนื่องจากขนาบข้างด้วยทะเลทั้งสองด้าน พื้นที่ตั้งเมืองเป็นดินแดนภูเขาไฟที่ดับแล้ว จำนวนมากถึง 49 แห่ง
ภูมิประเทศของโอ๊คแลนด์ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาสูงต่ำสลับกับป่าฝนเขียวขจี มีปล่องภูเขาไฟอายุหลายร้อยล้านปีให้พบเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะในอ่าวเฮารากิ (Hauraki Gulf) มีเกาะที่เกิดจากภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว 2 เกาะ คือ เกาะไวเฮเค (Waiheke Island) และเกาะเกรทแบร์ริเออร์ (Great Barrier Island) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโอ๊คแลนด์
โอ๊คแลนด์มีอ่าวจอดเรือชื่อ Westhaven Marina ซึ่งจอดเรือยอชต์ได้มากถึง 1,400 ลำเป็นอ่าวจอดเรือใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ ชาวเมืองโอ๊คแลนด์ชอบแล่นเรือ ออกไปตกปลา เล่นเรือใบ และเที่ยวเกาะกันในวันหยุดและวันสุดสัปดาห์ โอ๊คแลนด์จึงเป็นสวรรค์ของคนที่ชื่ีนชอบกีฬาและกิจกรรมทางน้ำ เมืองนี้จึงได้ฉายาว่า "City of Sails" โดยงานเทศกาลแข่งเรือใบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโอ๊คแลนด์ คือการแข่งแล่นเรือใบ รายการ The America's Cup
การสัญจรในโอ๊คแลนด์ นอกจากจะโดยทางถนนและรถไฟแล้ว จึงพ่วงด้วยเรือเฟอรี่ข้ามฟากอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งเป็นสีสันของเมือง นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อโปรแกรมล่องเรือยอร์ชเพื่อชมทิวทัศน์ของอ่าวได้อีกทางหนึ่ง
- ประเทศสวีเดน (Sweden)
เมือง: สต็อกโฮล์ม
ค่า AQI: 8 (ดี)
ลักษณะภูมิประเทศ : สตอกโฮล์ม(Stockholm) เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรสวีเดน เป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิกตั้งอยู่บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ในยุโรปเหนือ มีเขตแดนทางตะวันตกติดประเทศนอร์เวย์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดประเทศฟินแลนด์ และช่องแคบ สแกเกอร์แรก (Skagerrak) ทางตะวันตกเฉียงใต้ติดช่องแคบแคทีแกต (Kattegat) และทางตะวันออกติดทะเลบอลติก และอ่าวบอทเนีย พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศประกอบด้วยป่าไม้ และภูเขาสูง
กรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm) เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน และยังเป็นนครหลวงอันงดงามที่สุดในสแกนดิเนเวีย จนได้รับขนานนามว่า ความงามบนผิวน้ำ (Beauty on Water) หรือราชินีแห่งทะเลบอลติก ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย 14 เกาะที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก (Baltic Sea) ทะเลสาบมาลาเร็น (Lake Malaren) ทำให้สตอกโฮล์มเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สตอกโฮล์ม ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลทิศตะวันออกของประเทศสวีเดน มีประชากรในเขตเทศบาลสตอกโฮล์ม 774,000 คน ถ้านับเขตที่อยู่อาศัยโดยรอบทั้งหมดจะมีประชากรประมาณ 1.7 ล้านคน
- ประเทศแคนาดา (Canada)
เมือง: โตรอนโต
ค่า AQI: 37 (ดี)
ลักษณะภูมิประเทศ : เมืองโทรอนโตตั้งอยู่ในเขต Ontario ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศแคนาดาเลียบกับทะเลสาป Ontario ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับประเทศอเมริกา ดังนั้นคุณจึงสามารถไปเที่ยวเมืองใกล้เคียงอย่าง New York, Boston หรือ Chicago อากาศจะค่อนข้างหนาวในช่วงฤดูหนาวสำหรับเมืองโทรอนโต ซึ่งอากาศอาจจะลดลงได้
ถึง -6 องศา ในขณะเดียวกัน อากาศอาจจะสูงได้ถึง 27 องศาสำหรับช่วงฤดูร้อน
แลนด์มาร์คของโทรอนโต้ได้แก่ CN Tower ซึ่งโดดเด่นจากแนวทิวทัศน์ของเมือง, The Rogers Centre สนามประจำของทีมเบสบอลประจำเมืองโทรอนโต้ "The Blue Jays", หมู่เกาะโทรอนโต้ซึ่งเรานั่งเรือไปชมได้ไม่ไกลนัก, The Hockey Hall of Fame และ The Royal Ontario Museum.
เป็นยังไงบ้างคะแต่ละประเทศที่เราแนะนำวันนี้เพื่อนๆหลายคนคงเคยไปแล้ว แต่แอดคงอีกนานเลยค่ะ
เเต่เป็นประเทศที่สวยงานเเละน่าเที่ยวมากๆเลยใช่ไหมคะ