เปิดแฟ้มคดีดังในอดีต จ้างวานฆ่า ศยามล แผนสังหารสุดโหดที่สะเทือนทั้งประเทศ
บทนำ: คดีจ้างวานฆ่าสุดสะเทือนใจ
ในประวัติศาสตร์ของสังคมไทย คดีจ้างวานฆ่าเป็นหนึ่งในคดีที่สร้างความหวาดกลัวและสะเทือนใจให้กับประชาชนมากที่สุด เรื่องราวของแม่ผัวที่จ้างวานฆ่าลูกสะใภ้เป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงความโหดร้ายและอำมหิตของมนุษย์ เราจะพาคุณไปเจาะลึกคดีนี้ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงการลงโทษผู้กระทำผิด
จุดเริ่มต้นของคดี
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2536 เมื่อเสียงร้องไห้ของเด็กหญิงวัย 2 ขวบดังออกมาจากรถเก๋งนิสสัน ซันนี่ สีขาว ที่จอดทิ้งริมถนนทางเข้าบ้านหนองปลาไหล ตำรวจและประชาชนพบศพของหญิงสาว ชื่อ "ศยามล ลาภก่อเกียรติ" นอนตายอยู่บนเบาะติดกับที่นั่งคนขับ ศพมีบาดแผลถูกแทงเข้าที่ลิ้นปี่รวม 3 แผลและรัดคอด้วย
ประวัติของศยามล
ศยามล ลาภก่อเกียรติ เป็นอดีตภรรยาของ นพ.บัณฑิต โฆษิตชัยวัฒน์ แพทย์โรงพยาบาลหัวหิน ทั้งคู่ได้เลิกรากันมา 2 ปีแล้ว ก่อนพบจุดจบ นางศยามลได้ขับรถออกจากบ้านมาพร้อมกับลูกสาว ตั้งแต่คืนวันที่ 28 กันยายน คืนนั้นมีผู้พบเห็นชาย 3 คนอยู่ในรถผู้ตาย จึงคาดว่าจะเกิดเหตุร้าย
เบาะแสจากเด็กน้อย
จากการสอบถามหลานสาววัย 2 ขวบ เด็กหญิงบอกว่า "ต๋า" ซึ่งอาจหมายถึง "ป๋า" ซึ่งเธอมักเรียก นพ.บัณฑิต ว่า "ป๋า" เมื่อทราบข้อมูลนี้ ตำรวจก็เริ่มตรวจสอบและสืบสวน โดยพบหลักฐานสำคัญ 1 ชิ้น คือ "บันทึกของศยามล" ในบันทึกนั้นศยามลเล่าถึงความเจ็บปวดและความร้าวรานจากความสัมพันธ์กับอดีตสามี
บันทึกรักของศยามล
ในบันทึกของศยามล เธอได้บรรยายถึงความร้าวรานของชีวิตที่เกิดขึ้น จากความผิดหวังในตัวสามี เธอเล่าเรื่องความรักที่เริ่มต้นจากการยัดเยียดบทบาทเจ้าของตัวเธอ ทั้งที่สามีมีหญิงที่หมายปองอยู่แล้ว การบีบคั้นและความกดดันจนเธอต้องยอมรับความรักและจดทะเบียนสมรสกับเขา
การสืบสวนและการจับกุม
เจ้าหน้าที่สืบสวนพบหลักฐานใหม่ คือ น้ำอสุจิที่ถูกฉีดใส่ศพเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ในวันที่ 15 ตุลาคม 2536 เจ้าหน้าที่ได้บุกจับกุม ส.ต.อ.แผ่ว ภู่เต็ง ผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน นพ.บัณฑิตก็เก็บตัวเงียบ จนกระทั่งวันที่ 20 ตุลาคม 2536 เจ้าหน้าที่บุกจับกุม นพ.บัณฑิต ที่ห้องพักแพทย์โรงพยาบาลหัวหิน ในข้อหาจ้างวานฆ่า
การตัดสินคดี
กระบวนการสอบสวนดำเนินไปอย่างเข้มข้น โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ครบ 5 คน ประกอบด้วย นายสมหมาย สังข์เคลือบ นายสมหมาย เนียมศรี นายสาธิต มีเย็น นายบรรจบ นิลห้อย และ ส.ต.ต.แผ่ว ภู่เต็ง ในวันที่ 22 ธันวาคม 2537 ศาลชั้นต้นสั่งประหาร นพ.บัณฑิต ข้อหาจ้างวานฆ่า และจำคุกตลอดชีวิตผู้ร่วมก่อเหตุ
ความสะเทือนใจของเด็กน้อย
เมื่อศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในวันที่ 23 กันยายน 2539 เด็กหญิงอิงอิง ซึ่งเป็นลูกของศยามล ได้กล่าวว่า
“อิงอิงไม่รู้สึกอะไรเลยเพราะคนทำดีได้ดี คนทำชั่วต้องได้ชั่ว เปาบุ้นจิ้นแห่งศาลไคฟงสอนไว้อย่างนี้ อิงอิงชอบเป้าบุ้นจิ้นเพราะสอนให้คนทำดี และต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยมาม้า (ศยามล) ของอิงอิงด้วย”
บทสรุป
คดีจ้างวานฆ่าศยามลเป็นตัวอย่างของความอำมหิตและโหดร้ายของมนุษย์ การสืบสวนและการตัดสินคดีนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้คนในสังคมระวังและป้องกันการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต แม้ว่าคดีนี้ได้จบลงไปแล้วแต่ก็ยังไม่หายไปจากความทรงจำ เรื่องราวของศยามลได้ถูกนำมา สร้างเป็นภาพยนตร์ ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ถึงเรื่องราวเหล่านี้ที่เคยเกิดขึ้นในดีต เพื่อเป็นบทเรียนที่สำคัญในการรักษาความยุติธรรมในสังคม คดีนี้ยังคงเป็นเรื่องที่สะเทือนใจจนมาถึงทุกวันนี้ แล้วเจอกันใหม่ในกระทู้หน้าครับ
อ้างอิงจาก: thairath