ผจญภัยในวัดร้าง
ผจญภัยในวัดร้าง
เรื่องราวของการผจญภัยในที่ลี้ลับ ที่เสี่ยงอันตรายหรือที่วัดร้างตามสถานที่น่ากลัวนั้นมีให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ ทุกครั้งที่ได้ก้าวขาออกไปสู่การผจญภัยในพื้นที่แบบนี้ บางครั้งก็มีความสนุกและบางครั้งก็ไม่สนุกเหมือนกัน และต่อไปนี้คือการผจญภัยในวัดร้างอันน่ากลัวในยามกลางคืน เราขอเลือกเป็นตอนกลางคืนมันจะเป็นช่วงที่น่ากลัวที่สุด
เมื่อถึงตอนกลางคืนเราเตรียมพร้อมกันที่หน้าวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นวัดร้างขนาดใหญ่แค่ยืนอยู่หน้าวัดก็รู้สึก ขาสั่น มือสั่นขึ้นมาแล้ว บรรยากาศมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน สายตามองดูรอบ ๆ วัดมีแต่ต้นไม้รอบวัด จะว่าไปวัดนี้อยู่กลางป่าก็ไม่ผิด แล้วทำไมวัดนี้ถึงร้างหรือว่ามีผีอยู่ในวัด
ไม่มีผีอะไรทั้งนั้นแค่ช่วงกลางคืนมันน่ากลัวเท่านั้นเอง และวัดนี้อยู่ในป่าลึกด้วยแถมไฟฟ้าก็ไม่มี
หลังจากที่ยืนมองสำรวจบริเวณหน้าทางเข้าวัด เราเห็นข้างกำแพงมีทางเดินเล็ก ๆ จึงหยิบไฟฉายแรงสูงส่องไปที่ตรงนั้น มันเป็นทางเดินจริง ๆ ขอเริ่มจากรอบนอกกำกำแพง ว่าแล้วเดินถือส่องไฟฉายไปดูด้วยความระมัดระวัง พอเดินเข้ามาตามทางด้านข้างกำแพง เดินตามทางไปเรื่อย ๆ แล้วก็ส่องไฟไปทางด้านหน้า มีแต่ใบไม้แห้งเต็มทางเดิน มีเสียงเหมือนสิ่งมีชีวิตบางอย่างอยู่ข้างหน้า เสียงใบไม้แห้งหยุดทันที ในมือถือไฟฉายส่องหาต้นเสียง และที่มาของเสียงนั้นก็คืองู ตอนนี้ยิ่งกลัวกว่าเดิมอีก หยิบไม้ขว้างใส่มันงูเลยเรื่อยหนีไปในความมืด ยืนขาสั่นอยู่แบบนั้นสักพักเเล้วจึงตัดสินในเดินต่อไปอีก พบกำแพงวัดแตกหักช่องประมาณหนึ่งช่วงแขน เดินเข้าไปในวัดจากตรงนี้ ไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วจะมีอะไรรออยู่ ข้ามมาอยู่ในวัดแล้ว สิ่งแรกที่อยู่ตรงหน้าเลย รูปปั้นแขนขาดหัวขาดมีแต่ตัวกับขาขนาดใหญ่เท่าตึกสี่ชั้น รูปปั้นเดินตรงมาที่เราอยู่แล้วยกเท้าขึ้นจะเหยียบเรา สายมองไปที่เท้ากำลังจะเหยียบแล้วกระโดดหลบไปทางขวา จะวิ่งกลับไปทางรอยแตกกำแพงที่เข้ามา แต่ทางนั้นมันกลับไม่มี มันหายไปไหนแล้ว รูปปั้นยังเดินตามมา ตัวเราก็ได้แต่วิ่งหลบ วิ่งไปที่ลานกว้างเจอดาบวางไปหนึ่งเล่มรีบหยิบดาบขึ้นมารอให้รูปปั้นเดินมาแล้วฟันไปที่ขาหนึ่งครั้งขารูปปั้นขาดทันที รูปปั้นล้มลง ในวัดมีของแบบนี้ได้ยังไงกันนะ ติดสินใจเอาดาบนี้ติดตัวไปด้วย เดินสำรวจเข้าไปในศาลา มีถ้ำในศาลา เราส่องไฟฉายไปที่ปากถ้ำนั้น ก็มีค้างคาวบินออกมาหนึ่งตัว รีบก้มหลบด้วยความรวดเร็ว เราเดินเข้าไปในถ้ำนั้นสักพักในถ้ำก็มีแสงนำทางด้วยหินเรืองแสง เดินตามทางเข้าไปเรื่อย ๆ เจอห้องขนาดใหญ่ในนี้มีรูปปั้นฝ่ามือขนาดเท่ามือจริงวางอยู่กลางห้องสำรวจรอบ ๆ แล้วลองหยิบขึ้นมา รูปปั้นฝ่ามือกลายเป็นทองคำและมีแสงออกมาแล้วลอยขึ้นขยายใหญ่ขึ้นเท่าเท่าตัวเรา ฝ่ามือตบลงมาที่เรายืน เราวิ่งหลบชักดาบออกมาเพื่อต้องสู้กับฝ่าทองคำ ในห้องโล่งไม่มีที่หลบฝ่ามือพุ่งเข้าจะตบอย่างเดียวส่วนเราได้วิ่งหลบฝ่ามืออย่างเดียวนึกอะไรไม่ออก ตอนนั้นคิดได้ว่าฝ่ามือต้องเจอเท้าคิดแล้วหันหน้าเข้าสู้ฝ่ามือพุ่งมาตบเข้าที่หน้า เลยจับฝ่ามือฟาดลงพื้น แล้วยกเท้าขึ้นเหยียบฝ่ามือจนแตก ฝ่ากลับกลายเป็นหินตามเดิมและหลังจากนั้นด้านบนห้องก็ค่อย ๆ เปิดออกมาพื้นที่ยืนอยู่ค่อย ๆ ลอยขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงพื้นดินด้านบน สุดท้ายก็มาออกที่หน้าประตูวัดที่เดิมตอนแรก มีเสียงพูดขึ้นว่า เมื่อกี้สิ่งที่เจ้าเจอมันเป็นเพียงภาพลวงตา เจ้ายืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหนเลย หากเจ้ามีจิตใจที่อ่อนแอก็ถูกภาพลวงตาหลอกเอาได้ง่าย ๆ พอเสียงพูดนั้นหายไปก็รีบวิ่งออกจากที่นั้นกลับเข้าที่พักแล้วรีบปิดไฟนอนด้วยความในใจก็งงและกลัวไปพร้อม ๆ กัน
จบแล้วครับ