ทึ่งทั่วโลก : อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
(Yerebatan Sarnici) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของตุรกี ดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติความเป็นมามากกว่าพันปี อุโมงค์เก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งนี้คือสถานที่เก็บน้ำในสมัยโบราณที่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม กับเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างเสากรีกที่ค้ำเรียงรายมากถึง 336 ต้น และเสาเมดูซ่าพร้อมตำนานที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน รวมถึงซากโบราณของพระราชวังใต้ดินแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิลสมัยไบเซนไทน์อีกด้วย
และสำหรับอุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตันนั้น เป็นอ่างเก็บน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่สามารถกักเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6 ในสมัยจักรพรรดิจัสติเนียนที่ 1 แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ อุโมงค์เก็บน้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ใกล้วิหารเซนต์โซเฟีย ถือเป็นอุโมงค์เก็บน้ำใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองอิสตันบูล มีความกว้างประมาณ 64.6 เมตร ยาว 138 เมตร สูง 9 เมตร ค้ำยันด้วยเสาหินอ่อนแบบกรีก 336 ต้น มีทั้งแบบเรียบและประดับด้วยหัวเสาแบบคอรินเธียน โดยแบ่งออกเป็น 12 แถว แถวละ 28 ต้น แต่ละต้นห่างกัน 4.9 เมตร ซึ่งสันนิษฐานว่าเสาหินอ่อนขนาดใหญ่ใต้ดินนี้มาจากโครงสร้างโบราณ อาจเป็นมหาวิหารในอุโมงค์เก็บน้ำ
อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตันเคยถูกใช้เป็นแหล่งเก็บน้ำหลักของกรุงคอนสแตนติโนเปิล (อิสตันบูลในปัจจุบัน) มาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ก่อนที่จะถูกค้นพบโดยบังเอิญในปี ค.ศ. 1545 โดยนักวิจัยชาวฝรั่งเศส Peter Gylius ขณะที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับซากปรักหักพังและโบราณสถานของยุคไบแซนไทน์ โดยทางการตุรกีก็ได้เข้ามาปรับปรุงบูรณะครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1985 และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมครั้งแรกในวันที่ 9 กันยายน ปี ค.ศ. 1987 จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองอิสตันบูล โดยบรรยากาศภายในอุโมงค์นั้นจะเงียบสงบ ลึกลับ และน่าค้นหา มีการจัดแสดงแสงสีเสียงที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับอุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตันแห่งนี้
และท่ามกลางเสากรีกขนาดใหญ่ 336 ต้นที่ค้ำเรียงรายเป็นทิวแถว จะมีเสาที่โดดเด่นงดงามสะดุดตาต่างจากเสาอื่นๆ ที่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจเป็นพิเศษนั่นคือ เสาหยดน้ำตา (The Column of Tears) และ เสาเมดูซ่า (Medusa) โดยเสาหยดน้ำตา จะเป็นเสาหินอ่อนที่มีลายแกะสลักเป็นรูปหยดน้ำตา ตามความเชื่อที่ว่าหยดน้ำตาจากดวงตาของเหล่าทาสนับร้อยที่เสียชีวิตขณะก่อสร้างอุโมงค์เก็บน้ำแห่งนี้ ส่วนเสาเมดูซ่ามีจำนวน 2 ต้น คือเสาเมดูซ่าแบบกลับหัว และเสาเมดูซ่าแบบตะแคงขวา โดยมีความเชื่อกรีกโบราณที่ว่า “เมดูซ่า” เป็นปีศาจเพศหญิงในโลกใต้ดินที่มีเส้นผมเป็นงู หากใครที่สบตาของเธอจะถูกสาปให้เป็นหินทันที ทั้งนี้ เชื่อกันว่าประติมากรรมแกะสลักศีรษะของเมดูซ่าถูกประดับไว้แบบกลับหัวหรือตะแคง เพื่อเป็นการแก้เคล็ดและให้ปกป้องสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญอย่างอุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ทหารเขมรใช้สไนเปอร์ลอบยิง "ผบ.ทร." รอดหวุดหวิด กระสุนพลาดถูกรถยนต์
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
"ฮุน เซน" เมินเก็บศพทหารเขมร ปล่อยทิ้งขึ้นอืดตามแนวชายแดน กลิ่นคละคลุ้ง
ดร.เขมร หาว่าไทยจะบุกลาวกับเมียนมาเป็นรายต่อไป
เด็กพลัดตกท่อลึก ผ่านไปเป็นชม. กว่าจะมีคนมาช่วย
ปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นาย
ดร.เขมร หาว่าไทยจะบุกลาวกับเมียนมาเป็นรายต่อไป
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้าน
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก






