"ลิซ่า" กับเพลง RockStar ✨ ถึงเวลาที่เกาหลีต้องได้รับบทเรียน
"ลิซ่า" กับเพลง RockStar ✨ ถึงเวลาที่เกาหลีต้องได้รับบทเรียน เรียกได้ว่ากว่าจะมาถึงจุดๆ นี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เธอต้องผ่านอะไรมาเยอะแยะมากมาย ทั้งนี้เพลงใหม่ดังกล่าวเธอก็ได้สลัดความเป็น K-POP ออกไปหมดจนแทบไม่เหลือ และก็ถึงเวลาที่จะเอาคืนเกาหลีบ้างแล้ว เพราะเป็นที่รู้กันดีกว่า กว่าที่สาวไทยคนนี้จะได้รับการยอมรับในฐานะสมาชิกวง BlackPink และก้าวขึ้นเป็นซุเปอร์สตาร์คนหนึ่งของโลกได้นั้น ตัวเธอเองก็ถูกด้อยค่าอย่างหนักจากเหล่าเนติเซนเกาหลี และพวกแอนตี้ทั้งหลายมาก่อน
ถึงแม้ว่าทาง YG Entertainment จะเซ็นสัญญากลุ่ม BlackPink กับสาวลิซ่าแล้วก็ตาม นั่นก็เพราะสถานการณ์มันบังคับให้ต้องทำ เพราะในตอนนั้นวง BlackPink ก็เป็นรายได้หลักของทางบริษัท และสาวลิซ่าก็มีผลต่อการขึ้นลงของหุ้นบริษัทอย่างมาก และพอมีข่าวสาวลิซ่าไม่ต่อสัญญากับบริษัทก็ทำให้หุ้นดิ่งลงอย่างหนัก จนบรรดาผู้ถือหุ้นทั้งหลายต้องออกมาบีบให้ทางบริษัทจับลิซ่ามาเซ็นสัญญาให้ได้ อีกทั้งทางรัฐบาลของเกาหลีก็กลัวว่าจะสูญเสียรายได้มหาศาลไป ก็เลยเร่งให้ทาง YG ออกมาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยด่วน
ถ้ามองตามความเป็นจริงแล้ว สาวลิซ่าก็ไม่แตกต่างจากรุ่นพี่ในวง 2NE1 เลย เพราะหลังจากที่ไม่ต่อสัญญารายบุคคลกับทางต้นสังกัดเดิม ทางค่ายก็จะไม่คอยผลักดันแถมยังมีการเตะตัดขาอีกต่างหาก ลองสังเกตดูวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ให้ดีๆ ซึ่งเป็นวันที่สาวลิซ่าได้ทำการปล่อยเอ็มวีเพลง RockStar ออกมา ทางค่ายพยายามเอาเกิร์ลกรุ๊ปวงรุ่นน้องอย่าง Baby Monster มาลดกระแสความดังของสาวลิซ่าแถมยังออกมาในเวลาที่ใกล้เคียงกันอีก แบบนี้ถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกับอดีตลูกรักเลย เพราะว่าในสมองของต้นสังกัดเดิมจ้องแต่จะหาผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว ปากก็บอกว่ารักแต่ลับหลังตั้งใจจะมาเอาคืน
เรียกได้ว่าการที่สาวลิซ่าเป็นคนไทยเพียงคนเดียวในค่าย YG ตอนนั้น ก็ต้องถูกกดดันอย่างหนัก พร้อมกับข่าวคราวการถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างมากมาย ทั้งเรื่องผู้จัดการโกงเงิน เรื่องมูลค่าสัญญา ค่าตัว หรือแม้กระทั่งการไปออกตามรายการทีวีต่างๆ และการเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าแบรนด์ดังๆ เธอก็ไม่มีโอกาสเหมือนกับสมาชิกคนอื่นๆ ในวง เหตุผลเพราะเธอเป็นคนไทย ไม่ใช่คนเกาหลี
แม้กระทั่งในช่วงที่ BlackPink เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา แต่แฟนคลับเกาหลีก็ยังคงไม่ยอมรับในความสามารถของสาวไทยคนนี้แต่อย่างใด กลายเป็นว่ายิ่งสาวลิซ่าดังในต่างประเทศมากเท่าไหร่ เธอก็จะถูกจับผิดต่างๆ นานา เพื่อด้อยค่ามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งในเนื้อเพลง RockStar ที่มีท่อนหนึ่งที่บอกว่า "Lisa, can you teach me Japanese?" (ลิซ่า..สอนฉันพูดญี่ปุ่นหน่อย) นั่นก็เป็นเรื่องจริงที่พวกแอนตี้แฟน เคยได้ทำกับเธอมาก่อน แต่ความเป็นจริงแล้วมันเหมือนเป็นการเย้ยหยัน และการดูถูกเธอซ่ะมากกว่า เพราะในตอนนั้นที่ญี่ปุ่นเอง ก็มีนักร้องนักแต่งเพลงที่ชื่อว่า "โอริเบะ ริซะ" ที่ใช้ชื่อในวงการว่าลิซ่าเหมือนกัน ประโยคดังกล่าวจึงเป็นการสื่อความหมายที่ว่า สาวลิซ่า ซึ่งเป็นคนไทยก็ไม่ได้เด่นดังอะไรมากมายนัก ถึงขนาดที่แฟนคลับเองยังจำสับสนกับลิซ่าที่เป็นชาวญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่คนที่พูดนั้นต่างก็รู้ดีว่าเธอเป็นคนไทย
และเมื่อประโยคดังกล่าวถูกรวมเข้ากับเนื้อเพลง RockStar ก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า สาวลิซ่าต้องการที่จะลบภาพจำเดิมๆ ออกไป โดยพยายามทำทุกอย่างที่บรรดาเนติเซนเกาหลี และแอนตี้แฟนไม่ชอบ ไม่อยากเห็น ก็อยากจะเป็นซ่ะอย่างใครจะทำไม เพราะเธอไม่ได้อยู่ในค่ายเกาหลีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคาแรกเตอร์ของความเป็นสาวผิวสีแทน ที่บอกเลยว่าเปรี้ยวจี๊ดแซ่บสุดๆ แถมเนื้อหาของบทเพลง ภาพทั้งหลายในมิวสิควิดีโอ ก็เป็นการประกาศให้บรรดาแฟนคลับที่เคยแอนตี้เธอได้เห็นแล้วว่า นี่แหละคือตัวตนที่แท้จริงของฉัน ที่สำคัญ ต่อจากนี้ไปเธอคือ "ลิซ่า ลลิษา" ซุเปอร์สตาร์ระดับโลกชายไทย ที่ไม่จำเป็นต้องมีนามสกุลห้อยท้ายอย่าง BlackPink อีกต่อไปแล้ว