มนตราวายสะ ตอนที่ 8 คู่หมั้น (4)
|
+++++++++
“ผมพูดจริง เลิกหวังในตัวผมเถอะ และอย่ามายุ่งกับนกอีก กลับ!” สุบรรณเข้าไปกระชากแขนของหญิงสาวให้ลุกขึ้นเดินตาม
“ไม่ จนกว่าคุณจะไปบอกผู้หญิงคนนั้นว่าอย่ามายุ่งกับคุณอีก” มณฑิดาสั่งทั้งที่ผ่านมาเคยมีครั้งไหนที่สุบรรณยอมทำตามบ้าง
ไม่มี!
และครั้งนี้ก็เช่นกัน
“อย่ามาบ้าให้มันมากนัก”
“ได้ งั้นฉันจะคุยเอง” พูดจบมณฑิดาก็เดินออกจากห้องพร้อมกับร้องเรียกสกุณาเสียงดัง “มาคุยกับฉันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้”
“นี่แหละนะ อ่อยไปทั่ว” พิกุลที่โผล่มาเผือกเรื่องของชาวบ้านเอ่ยเสียงหยัน ก่อนจะยิ้มเยาะเมื่อแก้วตาหันมาถลึงตาใส่แล้วกลับไปทำงานของตัวเอง
และจังหวะที่สุบรรณเดินออกมาแก้วตาจึงตรงดิ่งเข้าไปต่อว่าอย่างไม่พอใจ “นี่มันเวลางานนะคะ ทำไมคุณปล่อยให้เมียคุณมาทำอย่างนี้กับเพื่อนฉันได้”
“เมียบ้าบอที่ไหนละ” สุบรรณปฏิเสธเสียงฉุน แล้วรีบเข้าไปลากมณฑิดาออกไปจากที่นี่ก่อนจะก่อความวุ่นวายมากไปกว่านี้ “กลับไปกับผม ขอโทษด้วยนะครับ” ตอนท้ายเขาหันมาผงกศีรษะให้สกุณาและลูกค้าในคลินิก
“ปล่อยนะ” มณฑิดาตะโกนและดิ้นอย่างแค้นใจ ที่สุบรรณเห็นผู้หญิงคนนั้นสำคัญกว่าเธอที่เป็นว่าที่คู่หมั้น
“พวกคุณมาทำไม”
เสียงถามใครบางคนทำให้มณฑิดาเลิกดิ้นแล้วหันไปมอง ก่อนจะยิ้มเยาะและพูดแขวะ “พวกอีกาชั้นต่ำงั้นเหรอ กลิ่นอายความอัปมงคลคละคลุ้งเชียว”
วายสะปรายตามองหญิงสาวชาวเผ่าพันธุ์อินทรีที่มีท่าทีหยิ่งทระนงว่าตนสูงส่ง แล้วกดยิ้มเยาะพร้อมกับเดินผ่านเลยไปอย่างไม่คิดจะต่อปากต่อคำให้เสียเวลา
“เดี๋ยว จะไปไหน” สุบรรณปล่อยมณฑิดาแล้วก้าวตามวายสะไป
“มันใช่เรื่องที่ผมต้องรายงานคุณเหรอ คุณเอาคนขอคุณกลับไป อย่าให้มายุ่งกับนกอีก ไม่งั้นผมไม่ปล่อยไว้แน่ ผู้หญิงก็ผู้หญิงเถอะ” วายสะมองผู้หญิงที่จ้องเขาอย่างรังเกียจด้วยสายตาที่ไม่ต่างกัน แม้อีกฝ่ายจะสวยไม่มีที่ติ แต่ท่าทีที่แสดงออกต่อผู้อื่นนั้นต่างกับหน้าตาลิบลับ โดยเฉพาะคำพูดที่ตรงข้ามกับการเยินยอตัวเองว่าสูงส่งโดยสิ้นเชิง
“อย่างแกจะทำอะไรฉันได้ ก็แค่พวกอีกาชั้นต่ำทำมาเป็นพูดดี”
“ไม่ต้องเสียเวลาด่าคนอื่นหรอก ระวังคำพูดและการกระทำของตัวเองเถอะ อย่าให้มันต่ำตรงกันข้ามกับความสูงส่งที่แสนจะภูมิใจนักหนา” วายสะพูดแค่นั้นก็เปิดประตูเดินเข้าไปในคลินิกมองหาคนที่เขาต้องการพบทันที
“นี่แกด่าฉันเหรอ ไอ้บ้า อีกาชั้นต่ำ” มณฑิดาโวยวายจะเข้าไปหาเรื่องผู้ชายปากจัดให้ถึงที่สุด แต่สุบรรณก็รั้งเอาไว้พร้อมกับตำหนิเสียงเข้ม
“การกระทำดูแล้วมันต่างจากที่เขาว่าไว้ไหม น่าอายจริงๆ กลับ!”
“ไม่” มณฑิดายังคงปฏิเสธเสียงแข็ง
สุบรรณปรายตามองอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วเดินผละไปที่รถของหญิงสาวที่ จอดอยู่ไม่ห่างจากรถของเขามากนัก แล้วสั่งคนขับรถที่ยืนนิ่งรออยู่เสียงเข้ม “ถ้าไม่อยากเดือดร้อน เอาตัวเจ้านายของพวกนายกลับไป”
“จะทำยังไงล่ะครับ คุณสุบรรณพูดเธอยังไม่ฟังเลย แล้วผมเป็นแค่คนขับรถคุณมณจะฟังเหรอครับ” อีกฝ่ายตอบอย่างหวั่นใจ เพราะรู้ฤทธิ์ของหญิงสาวเป็นอย่างดี
“เรื่องนั้นมันหน้าที่ของพวกนาย ทำยังไงก็ได้” สั่งจบสุบรรณก็เดินไปขึ้นรถของตัวเอง นั่นแหละมณฑิดาถึงรู้ตัวว่าสุบรรณได้หนีกลับไปก่อนแล้ว
“เขาจะกลับทำไมแกไม่รีบมาบอกฉัน ฮ้า!” มณฑิดาตวาดแว้ดใส่คนขับรถอย่างอารมณ์เสีย
“ก็ผมนึกว่าคุณมณยังไม่อยากกลับนี่ครับ” ชายหนุ่มตอบไปตามสัตย์จริง เมื่อครู่ได้ยินเต็มสองรูหูว่าสุบรรณชวนกลับแล้วหญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง แล้วตอนนี้กลับมาโวยวายว่าเขาไม่บอก
“ไม่ได้เรื่อง” พูดจบมณฑิดาก็เดินขึ้นรถปิดประตูดังปัง แล้วลดกระจกโผล่มาตวาดแว้ดคนที่ยืนเซ่อไม่ยอมไปทำหน้าที่ของตัวเอง “ยืนทำซากอะไร กลับ!”
ด้วยความที่โดนสุบรรณขัดใจ ทำให้เมื่อกลับถึงบ้านมณฑิดาก็ตรงดิ่งไปหาคนที่ไม่เคยขัดใจเธอเลยสักครั้งอย่างคนเป็นพ่อทันที
เมื่อจัดการเองไม่ได้คงต้องยืมมือท่าน
“เราจำเป็นต้องลดตัวไปทำอะไรแบบนั้นเลยเหรอ” นริศรตำหนิลูกสาวด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนักหลังจากฟังเรื่องราวที่ถูกนำมาฟ้อง
“เพราะนังคนนั้นสุบรรณถึงปฏิเสธมณมาตลอด ถ้าไม่รีบควบคุมทุกอย่างมันจะสายเกินแก้นะคะ” หญิงสาวให้เหตุผลกับคนเป็นพ่อ
“เราก็ใจเย็น ๆ หน่อยได้ไหม สุดท้ายสุบรรณก็ไปไหนไม่พ้นหรอก เพราะเราคือเต็งหนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีผู้หญิงคนไหนเหมาะสมจะเป็นคู่ชีวิตของผู้นำเท่ากับลูกสาวของพ่ออีกแล้ว” ผู้สูงวัยยกมือลูบศีรษะของลูกสาวอย่างเอ็นดู ไม่ได้พูดเกินจริง ตอนนี้ทุกคนในเผ่าต่างเห็นตรงกันว่าลูกสาวของเขาคือคนที่เพียบพร้อมที่สุด เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แม้อีกฝ่ายจะไม่เต็มใจ แต่คู่ครองของผู้นำย่อมเลือกความเหมาะสมมาก่อนความรัก ซึ่งแน่นอนเขาเชื่อว่า นานไป อีกฝ่ายจะหลงรักในความสมบูรณ์แบบของลูกสาวตนได้ไม่ยาก
“แต่สุบรรณบอกว่าเขาจะไม่รับตำแหน่งนี้น่ะสิคะ คุณพ่อต้องจัดการให้มณนะคะ เพราะมณต้องการทั้งผู้ชายที่เพียบพร้อมในทุกด้าน และด้วยอำนาจของผู้นำ ตระกูลเราจะได้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก” หญิงสาวรีบยกเอาเรื่องของตระกูลขึ้นมาเอ่ยเสริม เพียงเพราะความต้องการของเธอไม่น่าจะเป็นแรงจูงใจให้คนเป็นพ่อกระตือรือร้นในเรื่องนี้มากนัก
“เป็นไปได้ยังไง”
“มณก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ สุบรรณคงพูดให้ลูกใจออกห่าง แต่ฝันไปเถอะ สตรีหมายเลขหนึ่งของเผ่าอินทรีที่ยิ่งใหญ่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากมณฑิดาคนนี้”
“พ่อขอรับรองด้วยเกียรติของพ่อ ลูกจะต้องสมหวัง” คนเป็นพ่อให้คำมั่นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“น่ารักที่สุดในโลกเลยค่ะ” ว่าแล้วมณฑิดาก็โผเข้ากอดคนเป็นพ่ออย่างดีใจ ในเมื่อท่านรับรองอย่างนี้ เธอก็สบายใจไปอีกเปลาะ เพราะที่ผ่านมาท่านไม่เคยทำให้เธอผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว
+++++++++
ตั้งแต่ตอนหน้าเป็นต้นไป ไรท์จะทำการติดเหรียญนะคะ
จึงแจ้งมาเพื่อทราบค่า
ขอบคุณค่ะ
ไหมขวัญ