หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ "น้ำแข็ง" และขนม "จ้ำบ๊ะ" ในประเทศไทย

โพสท์โดย dukedicknarak

          น้ำแข็งเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ที่สั่งมาจากสิงค์โปร์ จะส่งตรงเข้าไปในวัง จนกระทั่งมีการตั้งโรงน้ำแข็งสยามขึ้นมา สิ่งที่นิยมคือ นำน้ำแข็งมาทำให้เป็นเกล็ด อัดเป็นแท่งเสียบไม้ ราดด้วยน้ำหวาน กินกันให้ชื่นใจ ยิ่งในสมัยก่อนนั้น ไม่มีแอร์คอนดิชั่นกันในบ้านมากมายแพร่หลายอย่างในปัจจุบัน การได้กินน้ำแข็งไสนั้นจึงเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆเลยเด้อ

 

         ส่วนขนมจ้ำบ๊ะ (ปัจจุบันน่าจะหากินยากแล้ว แต่กลายเป็น น้ำแข็งไส ใส่ถ้วยพร้อมเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ลูกชิด , ถั่วแดง , ข้าวโพด , เฉาก๊วย , มันต้ม และอื่นๆ อีกมากมาย ) ขนมจ้ำบ๊ะนี้ มีต้นกำเนิดจากชาวจีนในจังหวัดเพชรบุรี คิดค้นจากการนำของกินที่เหลือตอนเช้า คือ ปาท่องโก๋ ไปทอดกรอบแล้วใส่น้ำแข็งไสลงไป เทน้ำหวานสีแดง โดยยังไม่เรียกว่า จ้ำบ๊ะ จนปี พ.ศ. 2490 มีการบริโภคนมข้นหวานอย่างแพร่หลาย จึงมีการราดนมข้นหวานลงไป มีลำดับองค์ประกอบคือ ชั้นฐานประกอบด้วย ปาท่องโก๋ทอด/ขนมปังหัวกะโหลก หั่นเป็นชิ้นพอคำ ต่อมาคือชั้นน้ำแข็งไสในลักษณะพูนคล้ายทรงภูเขาหรือกะลาครอบ และชั้นที่ 3 คือ ชั้นน้ำเชื่อม และชั้นยอด โรยนมข้นหวาน จากนั้นจ้ำบ๊ะมีความแพร่หลายในจังหวัดขอนแก่นราวปี พ.ศ. 2525 จนเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยม ที่มาของชื่อ จ้ำบ๊ะ น่าจะมาจาก น้ำแข็งไสสีขาวที่พูนขึ้นคล้ายหน้าอกของนางระบำจ้ำบ๊ะในขณะนั้นนั่นเอง

 

ภาพนี้นั้นถ่ายเมื่อ ปี ค.ศ.1950 (พ.ศ.๒๔๙๓)

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
dukedicknarak's profile


โพสท์โดย: dukedicknarak
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งเจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุมมิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อสถิติหวย ย้อนหลัง 10 ปี เลขท้าย 2 ตัว งวด 30 ธันวาคมBBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลกบุกจับแล้ว 4 เมียนมา ยึดโดรน 10 ลำมูลค่า 7.5 ล้าน บินป่วนสุวรรณภูมิสอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกรายอาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
กระทู้อื่นๆในบอร์ด อาหาร
ชายวัย 60 ปี กินแต่ "ของต้ม" หวังสุขภาพดี แต่กลับมีปัญหาสมองตื้อและความจำเสื่อมยายทวดวัย 100 ปี เปลี่ยนมาเป็นฟู้ดบล็อกเกอร์ กินอาหารหลากหลาย เช่น ชานมและหม่าล่า พร้อมเผยเคล็ดลับการมีอายุยืนที่ทุกคนทำได้แพทย์ระบบประสาทเตือนว่า 3 อาหารยอดฮิตที่กินบ่อยอาจทำลายสมองและเสี่ยงต่อการสมองเสื่อมโดยไม่รู้ตัวร้านอาหาร ชลธาร กำแพแสน จ.นครปฐม
ตั้งกระทู้ใหม่