มูลค่าของอสังหาฯ และบิทคอยน์ขึ้นอยู่กับอะไร
มูลค่าของอสังหาฯ และบิทคอยน์ขึ้นอยู่กับอะไร
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
![]()
คน สัตว์ สิ่งของล้วนมีค่าที่แน่นอน ทรัพย์สินหนึ่ง ๆ จะมีมูลค่าสูงหรือต่ำเพียงใด ย่อมต้องขึ้นอยู่กับปัจจัย-เงื่อนไขชี้นำบางประการ ทั้งนี้เพราะอสังหาริมทรัพย์ คือตัวแปรตามที่ขึ้นต่ออิทธิพลของปัจจัยภายนอกอื่น ‘กฎ’ ทั้ง 11 ข้อนี้สามารถปรับใช้ได้ทั้งกับคน สัตว์ สิ่งของ หรืออสังหาริมทรัพย์ แล้วบิทคอยน์มีค่าหรือไม่อย่างไร
1. กฎแห่งความคาดหวัง
ค่าของคน สัตว์ สิ่งของเกิดแต่การคาดการณ์ประโยชน์ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต และการนี้มูลค่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็อยู่ที่ประโยชน์หรือการเสียประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง คนที่มีค่า ก็คือคนที่จะยังประโยชน์ (แก่คนที่วัดค่าหรือสังคมโดยรวม) ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ว่าที่คู่ครอง บุตรหลานหรือปูชนียบุคคลก็ตาม
ในกรณีอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าที่ดินแปลงหนึ่งจะเพิ่มค่าขึ้นทันทีที่ผู้เกี่ยวข้อง ‘ได้คิด’ ว่าในอนาคตจะมีถนนตัดผ่าน หรือในทางตรงกันข้าม มูลค่าจะลดลงทันทีที่ทราบ (จาก พรก.เวนคืน) ว่า ที่ดินบริเวณนี้จะต้องถูกเวนคืน เป็นต้น
ในกรณีบิทคอยน์ ความคาดหวังขึ้นอยู่กับการเก็งกำไรล้วนๆ การวิเคราะห์ราคาก็ใช้แต่ Technical เพราะไม่มี Fundamental ให้วิเคราะห์ ก็เลยหาค่าได้ยาก (แต่มีราคา)
2. กฎแห่งความเปลี่ยนแปลง
มูลค่าของสิ่งใด ๆ ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ไม่หยุดนิ่งหรือคงที่ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นการลดหรือเพิ่มค่าก็ได้ ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เศรษฐกิจ สังคมและการเมืองทำให้มูลค่าอสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนแปลงไป เช่น ความผุพัง ภัยธรรมชาติ พฤติกรรม ความต้องการ สถานการณ์ตลาด วัฒนธรรม ล้วนมีผลสำคัญทั้งสิ้น ผู้ประเมินจึงต้องตระหนักถึงหลักแห่งความเปลี่ยนแปลงนี้เสมอ
ในกรณีนี้ Bitcoin ก็มีราคาซื้อขายตามแบบลมเพลมพัด แต่ไม่มีใครที่จะควบคุมราคาได้ ยกเว้น คน 1% ที่ถือครองบิทคอยน์มากถึง 90% พวกนี้จึงปั่นราคาได้ตามต้องการ ส่วนคนเล่นรายเล็กรายน้อยก็คือเหยื่อ หรือแมงเม่านั่นเอง
3. กฎแห่งการแข่งขัน
มูลค่าส่วนเกินหรือประโยชน์ที่คาดหวัง ทำให้เกิดการแข่งขันเพื่อให้ได้มา ได้มี ได้เป็น เช่น ถ้ามีศูนย์การค้าแห่งหนึ่งเปิดในย่านหนึ่งแล้วทำได้ดี ก็จะมีคนคิดจะเปิดขึ้นบ้าง ซึ่งถ้าเปิดขึ้นมาอีก 1 แห่งก็จะแย่งลูกค้ากัน (เพราะจำนวนลูกค้าจะเท่าเดิม เว้นแต่จะมีความต้องการเพิ่มขึ้น) และถ้าทั้งสองแห่งยังขายได้ดีเช่นเดิม ก็จะมีรายใหม่เปิดขึ้นอีก และด้วยคาดว่าหากมีลักษณะคล้ายคลึงกับ 2 รายแรกก็คงไม่อาจได้รับประโยชน์สูงสุดนัก จึงต้องทำให้ดีกว่า ใหญ่กว่า มีกลยุทธ์มากกว่า จึงจะอยู่ได้
ในกรณีของคนก็เช่นกัน มีคำกล่าวว่า ‘คนดีต้องดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เช่นนั้นจะเน่า คนเลวต้องเลวลงไปเรื่อย ๆ ไม่เช่นนั้นจะตาย’ คนดีต้อง (แข่งกัน) ดีขึ้น ถ้าหยุดก็ไม่พัฒนา ก็จะ ‘เน่า’ (เช่น นักบวชบางคนที่เคยทำดี พอทำไม่ดีก็เสื่อม) ในทางตรงกันข้ามคนที่เลว ต้อง (แข่งกัน) เลวลงไปอีก จึงจะอยู่ได้ ถ้าหยุดเลว จะถูกคนที่เลวกว่ากำจัด เช่น หัวหน้าโจรเมื่อไหร่เสื่อมถอย ก็จะมีคนอื่นมาทดแทน
บิทคอยน์คงไม่ต้องแข่งขันกับใครมากนัก คริปโตเคอเรนซีอื่นก็คงมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็ไม่แน่ในอนาคตอาจมีคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากขึ้นโดยเฉพาะเงินดิจิตอลหยวนหรือเงินดิจิตอลอื่นๆ ที่รัฐบาลเป็นประกัน
4. กฎแห่งความสอดคล้อง
มูลค่าของ คน สัตว์ สิ่งของใดจะปรากฏขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีองค์ประกอบที่สอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง สัตว์ที่ปรับตัวไม่ได้ก็สูญพันธุ์ คนที่ไม่พยายามปรับตัวเข้าหาเพื่อนก็จะไม่มีคุณค่าต่อเพื่อน (แต่ไม่จำเป็นต้องปรับตัวเข้าหาเพื่อนเลว ๆ - เพราะนั่นเข้าหลัก ‘คบค้าเสเพล’ ซึ่งคือเหตุแห่งความล้มเหลว)
มูลค่าสูงสุดของอสังหาริมทรัพย์หนึ่งที่พึงประเมินได้ จะต้องมีการพัฒนาที่สอดคล้องกับพื้นที่โดยรอบ เช่น ในกรณีบ้านเดี่ยวในโครงการหนึ่ง ตัวอาคาร ควรจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับอาคารอื่น ๆ ทั้งในด้านรูปแบบ (เช่นถ้าทุกบ้านเป็นทรงโรมัน เราปลูกทรงไทยก็คงไม่ ‘เข้าท่า’) การก่อสร้าง วัสดุ อายุอาคาร เป็นต้น
กรณีนี้บิทคอยน์คงไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเพราะไม่ใช่ทรัพย์สิน
5. กฎแห่งการเกื้อหนุน
องค์ประกอบหนึ่งของทรัพย์สินจะมีมูลค่าเท่าไร วัดได้จากความเกื้อหนุนที่ทำให้ทรัพย์สินนั้นโดยรวมมีค่าเพิ่มขึ้น เช่น การเอาอาคารสำนักงานเก่าแห่งหนึ่ง มา ‘ปรุงแต่ง’ ใหม่ โดยลงทุนปรับปรุงระบบลิฟท์ ระบบปรับอากาศ ทำ ‘หน้ากาก’ ใหม่ มักทำให้มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นสูงกว่าเงินลงทุนนั้น ดังนั้นเงินลงทุนนั้นจึงคุ้มค่า เป็นต้น
ในกรณีของคนก็เช่น ถ้าเราลงทุนทำดีกับใครแล้ว เชื่อว่า (แต่ไม่จำเป็นต้องหวัง) เขาจะตระหนักถึงคุณค่าของเรา ซึ่งเป็นการสร้างมิตรภาพที่ดีงามและเป็นประโยชน์แก่กันในวันหน้า และการ ‘ลงทุน’ คบมิตรแต่แรกนี้ ก็ ‘คุ้ม’ ที่จะทำดี (เสียแต่วันนี้) เสียบ้าง
ข้อนี้บิทคอยน์ก็ไม่มีเพราะถือตนเป็นเงิน แต่ในความเป็นจริงเป็นเงินที่จำกัดจำนวนและคนส่วนน้อยครองไว้ คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาเล่น ก็ล้วนแต่ซื้อขายเศษๆ ของบิทคอยน์
6. ประโยชน์สูงสุดและดีที่สุด
มูลค่าของทรัพย์สิน วัดได้จากประโยชน์สูดสุดและดีที่สุดที่ทรัพย์สินนั้นก่อขึ้นได้ เช่น ที่ดินสีลม ควรจะสร้างอาคารสำนักงานมากกว่าทาวน์เฮาส์ ที่ดินหนองจอกควรสร้างบ้านเดี่ยวมากกว่าศูนย์การค้า ทั้งนี้ประโยชน์สูงสุดและดีที่สุดนี้ต้องสอดคล้องกับภาวะตลาดขณะที่ประเมินค่า ข้อกฎหมาย การเงินและสภาพทางกายภาพ
ในทำนองเดียงกัน จะเอาม้าศึกไปเทียมสีข้าวก็คงไม่เหมาะ จะเอาควายออกรบก็คงไม่ควร (ยกเว้นจำเป็น เช่น ชาวบ้านบางระจัน!) เพราะคุณค่าประโยชน์ใช้สอยต่างกัน เป็นต้น และประโยชน์สูงสุดของคนแต่ละคนก็ต่างกัน เราจึงต้องเข้าใจกฎเกณฑ์นี้และรู้จักใช้คน
โดยที่บิทคอยน์ไม่ใช่ทรัพย์สิน จึงไม่ได้มีคุณสมบัติข้อนี้
7. กฎแห่งความพอดี
อะไรที่ขาดไป ก็ย่อมทำให้ไม่มีคุณค่าทัดเทียมกับสิ่งอื่น (ตามกฎข้อ 4) และอะไรที่เกินไปก็ไม่ได้มีผลต่อมูลค่าเช่นกัน เช่น ห้องชุดราคา 4 แสนบาท แต่ตบแต่งจน ‘เกินเหตุ’ โดยใช้วัสดุเช่นเดียวกับบ้านราคาแพงมาก โดยตบแต่งไปถึง 3 แสนบาท ก็ใช่ว่าห้องชุดนั้นจะขายได้ 7 แสนบาท เพราะการตบแต่งที่เกินพอดีนั่นเอง
เช่นเดียวกัน ‘ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง’ แต่ย่อมไม่ใช่แต่งจน ‘เกินงาม’ หรือหากแต่ง ‘ปอนๆ’ เกินไปก็ไม่มีคุณค่าเท่าที่ควร ดุลยภาพจึงเป็นสิ่งที่ต้องยึดถืออยู่ตลอดเวลา
เช่นกันโดยที่บิทคอยน์ไม่ใช่ทรัพย์สิน จึงไม่ได้มีคุณสมบัติข้อนี้
8. กฎแห่งพลังรวมตัว
การรวมที่ดินสองแปลงเข้าด้วยกัน ราคาจะสูงกว่าราคาของที่ดินแต่ละแปลงรวมกัน เช่น ที่ดินแปลงหน้า1 ไร่ ติดถนนราคา 40 ล้านบาท แปลงหลัง 1 ไร่ ไม่ติดถนน ราคา 20 ล้านบาท แต่ถ้าที่ดินนี้เป็นแปลงเดียวกัน รวม 2 ไร่ ที่ดินแปลงใหม่นี้จะมีราคา 65, 70 หรือ 80 ล้านบาทขึ้นไป (สูงกว่า 40+20 ล้านบาท) หรือกรณีการรวมที่ดินหลายแปลงให้เป็นแปลงใหญ่ ต้นทุนในการรวม (ราคาที่ดินแต่ละแปลงรวมกัน) ย่อมต่ำกว่าราคาที่ดินแปลงใหญ่เสมอทั้งนี้เพราะเกิดศักยภาพเพิ่มขึ้น ที่ดินตาบอดด้านในแปลงเดียวอาจใช้ทำนา แต่พอรวมเป็นแปลงใหญ่ ก็สามารถจัดสรรขายได้ เป็นต้น ภาษาที่ปรับใช้สำหรับชาวบ้านทั่วไปก็คือ ‘สามัคคีคือพลัง’
เช่นกันโดยที่บิทคอยน์ไม่ใช่ทรัพย์สิน จึงไม่ได้มีคุณสมบัติข้อนี้
9. กฎแห่งความผกผัน
‘ถ้าไร้ซึ่งคนเลว ไฉนเลยจะรู้จัก (คุณค่า) ของคนดี’ ในเชิงผกผัน บ้านที่สร้างสวยงามหลังหนึ่ง ที่มีต้นทุนเทียบเคียงกับบ้านของบริษัทแลนด์แอนด์เฮาส์ (โครงการระดับ ‘ลดาวัลย์’) ถ้าไป ‘ผุด’ อยู่ ‘ดง’ โรงงานหรือ ‘ดง’ สลัม ย่อมมีค่าต่ำกว่าบ้านในโครงการลดาวัลย์แน่นอน หรือในทางตรงกันข้ามในแง่บวก บ้านหลังเล็ก ๆ ในโครงการที่ดีย่อมมีคุณค่ากว่าบ้านแบบเดียวกันในหมู่บ้านที่มีคุณภาพต่ำกว่า
เช่นกันโดยที่บิทคอยน์ไม่ใช่ทรัพย์สิน จึงไม่ได้มีคุณสมบัติข้อนี้
10. กฎแห่งการทดแทน
มูลค่าสุดสุดของสิ่งหนึ่ง ๆ มักจะเท่ากับต้นทุนของการหาซื้ออีกสิ่งหนึ่งที่มีคุณค่าเทียบเคียงกันได้มาทดแทน กฎข้อนี้เกี่ยวข้องกับค่าเสื่อม ต้นทุนการผลิต จุดคุ้มทุนในการผลิต โดยเป็นพื้นฐานของการประเมินค่าทรัพย์สินด้วยวิธีต้นทุน
เราอาจเทียบราคาบิทคอยน์กับราคาของเงินตราต่างๆ ได้ แต่บิทคอยน์คงใช้แทนเงินตราทั่วไปไม่ได้ เช่นกรณีประเทศเอลซัลวาดอร์ที่เป็นประเทศแรกที่ยอมรับบิทคอยน์ แต่ในทางปฏิบัติ ประชาชนแทบไม่ได้ใช้บิทคอยน์เลย นักท่องเที่ยวก็ไม่ได้ใช้
11. อุปสงค์และอุปทาน
มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์หนึ่ง ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่มีเสนอขายอยู่ในตลาด กับจำนวนคนจะซื้อที่มีกำลังซื้อและมีความประสงค์จะซื้อ กรณีตัวอย่างหนึ่งก็เช่น ในภาวะอุปสงค์สูง ราคาบ้านหลังสุดท้ายที่ขายได้ในโครงการหนึ่ง จะสูงกว่าราคาบ้านหลังแรกที่ขาย และจะกลับเป็นตรงกันข้ามหากอุปทานสูงกว่า (จึงต้องขาย ‘โละ’ ลดราคา) ดังนั้นไม่เฉพาะแต่ผู้ประกอบการ ผู้ประเมินก็ต้องรู้ ‘หั่งเช้ง’ (สถานการณ์ตลาด) เช่นกัน จึงจะมีการตัดสินใจในมูลค่าที่ถูกต้อง
ในกรณีบิทคอยน์ บางช่วงอาจมีความต้องการสูง มีคนถูกหลอกให้มาเล่นจำนวนมาก จึงทำให้ราคาขึ้น แต่ไม่มี Fundamentals อะไรที่ทำให้ราคาขึ้นนอกจากการเก็งกำไร
ดังนั้น ในการที่เราจะตีค่าหรือประเมินค่าทรัพย์สินใด เราจึงต้องพิจารณาให้ดีว่า ทรัพย์สินนั้นมีความสอดคล้องกับปัจจัยหรือ ‘กฎ’ ข้างต้นอะไรบ้าง เพื่อให้มูลค่าที่ประเมินได้ ไม่เกิดความผิดพลาดสร้างความเสียหายแก่เราในฐานะนักลงทุน คนซื้อบ้าน ผู้ร่วมทุน หรือแม้กระทั่งผู้รับมรดก เป็นต้น อย่างไรก็ตามโดยที่บิทคอยน์ไม่ใช่ทรัพย๋สิน ไม่ใช่เงินตราที่เชื่อถือได้ จึงอาจมีมูลค่าจำกัด (มีแต่ราคา)
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ชาวเน็ตฮือฮา!! พ่อแม่หน้าจีนแต่ลูกออกมากลับหน้าฝรั่ง
กลุ่มแรงงานแถลงประณามบริษัทสั่งปิดงาน ทำผิดอนุสัญญา ต้องสั่งแก้เปิดงานทันที เรียกร้องบริษัทเปิดผลประกอบการกำไร5พันล้าน ย้ำต้องแจกโบนัสตามสิทธิ เพราะทำงานหนัก
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
เขมรพังเรื่อยๆ ไทยปิดด่าน ทำเอาชาวเขมรโมโห เผานาทิ้ง เนื่องจากขายข้าวไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย



