เมเนฮูเน่: คนแคระแห่งแดนอะโลฮ่า
ทั่วโลกของเรามีตำนานของมนุษย์ร่างแคระที่มีพลังวิเศษในนิทานพื้นบ้านมากมาย และตำนานส่วนมากมาจากยุโรป มีการเรียกสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ในหลายๆ ชื่อ ทั้งเอลฟ์ ฮาฟลิ่ง ดวอร์ฟหรือคนแคระ โนม พิกซี่ แฟรี่ เป็นต้น แต่วันนี้ เราจะพาทุกท่านไปยังหมู่เกาะฮาวายนอกชายฝั่งของทะเลแปซิฟิก สถานที่ที่มีบรรยากาศอบอุ่น ผลไม้เขตร้อนรสอร่อย ชายหาดสวยงามน่าเที่ยวและป่าดิบบนภูเขาไฟที่คุกกรุ่น ดูแล้วไม่น่าจะมีบรรยากาศที่เหมาะสมแก่การอาศัยของพวกคนแคระวิเศษในตำนานเท่าไหร่ แต่ถ้าหากผมบอกว่ามี พวกคุณจะเชื่อหรือไม่ ลองกระเถิบเข้ามาใกล้ๆ แล้วไปตามฟังกัน
เมเนฮูเน่ (Menehune) เป็นชื่อเรียกของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กคล้ายมนุษย์ ผิวสีแทนเข้มหรือสีแดง ตัวสูงเพียง 90 ซ.ม.-1.2 เมตรเท่านั้น มักสวมผ้าเตี่ยวหรือว่าไม่มีเลย บางทีก็สวมเสื้อผ้าแปลกๆ ทำจากใบไม้ที่สานขึ้น มีทั้งชายและหญิง โดยเพศชายมีทั้งรูปร่างกำยำ อ้วน และผอม ชาวพื้นเมืองฮาวายเชื่อว่าพวกเมเนฮูเน่อยู่มาก่อนมนุษย์จะเดินทางเข้ามายังเกาะฮาวายเสียอีก เป็นผู้พิทักษ์ดินแดนป่าไม้และแหล่งน้ำ พวกเขารักสงบแต่เวลาต้องต่อสู้จะดุร้ายทันที ว่ากันว่าเมเนฮูเน่เก่งในการทำหัตกรรมและการก่อสร้างจากหิน โดยหากพบกำแพงหิน รูปสลักขนาดเล็กจากหิน หรือบ่อน้ำขนาดใหญ่ในป่าที่ใหญ่เกินลำธาร จะต้องไม่ย่างกรายเข้าไปเป็นอันขาดและให้ความเคารพแก่สถานที่ โดยจะมีการวางผลไม้ เนื้อหมูห่อใส่ใบไม้วางให้เมเนฮูเน่จึงจะพอใจ โดยของที่นิยมนำมาเซ่นไหว้จะมีกล้วยและปลา เพราะว่ากันว่าเมเนฮูเน่ชอบกินของเหล่านี้มาก
ที่มาของตำนานนี้ค่อนข้างคลุมเครือ แต่สามารถแบ่งออกมาได้เป็นสามทษฏี โดยทษฏีแรกกล่าวว่าเมเนฮูเน่น่าจะเป็นชนชาติพันธุ์มนุษย์ปกติที่ตัวเตี้ยกว่าชาวโพลินีเซียฮาวายที่เพิ่งอพยพตามหลัง โดยชนชาติที่ว่านี้อาจจะอพยพจากเกาะมาเรเควส (Mareques Island) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศตาฮิติ ซึ่งทษฏีนี้มาจากกลุ่มคนที่ศึกษาประวัติศาตร์ในปี ค.ศ. 1820 ที่กษัตริย์เคามูอูอาลิ (King Kaumuali) ได้แบ่งเขตปกครองให้แก่ชาติพันธุ์ในเกาะฮาวายเป็นบรรณาการที่ต้องมีการส่งส่วยมายังเกาะโออาฮูที่เป็นเกาะใหญ่ โดยมีชนพื้นเมือง 65 เผ่าที่มีชื่อเรียกว่าเมเนฮูเน่
ทษฏีที่สอง ว่าด้วยเมื่อครั้งอังกฤษและสหรัฐเข้ามายึดเกาะฮาวาย พวกเขาได้เรียกชาวพื้นเมืองบนเกาะฮาวายด้วยการด้อยดูถูกโดยใช้คำพิ้นเมืองอย่างเมเนฮูเน่ เพราะในอีกนัยยะ ศัพท์คำนี้แปลได้ว่า "ผู้ถูกเนรเทศ" หรือ "ผู้มีอารยะด้อยกว่า" ได้อีกด้วย และอาจจะผสมตำนานของโนมหรือดวอร์ฟที่เป็นตำนานท้องถิ่นของอังกฤษไปอีก
โดยหนึ่งในสถานที่ที่มีตำนานของเมเนฮูเน่ ก็คือทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า ทะเลสาบอะเลโคโค (Alekoko Fish Pond) พวกเขาเชื่อว่าเมเนฮูเน่วิดน้ำทะเล ขุดลอกทะเลสาบและล่อปลาจำพวกปลาทูและปลานวลจันทร์จากทะเลเข้ามาในทะเลสาบก่อนจะล้อมปิดด้วยหินและฉาบผนังด้วยหินภูเขาไฟเพื่อใช้เป็นแหล่งเสบียงอาหารให้แก่พวกตน แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญตำนานท้องถิ่นแย้งว่าทะเลสาบนี้จริงๆ เกิดจากฝีมือของมนุษย์ที่ช่วยกันจากหลายๆ หมู่บ้านและเผ่าเข้ามาทำแหล่งอาหารรวมเสียมากกว่า ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมของฮาวายไปแล้ว
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเมเนฮูเน่เป็นเพียงนิทานหรือความจริง แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมของฮาวายมาอย่างช้านาน และได้ทำให้พวกเราได้ทราบถึงความสำคัญของธรรมชาติ การร่วมแรงร่วมใจของชุมชนเพื่อการดำรงชีพ และได้สอนให้ตระหนักถึงการกระทำที่ดูถูกด้อยค่าผู้อื่นว่า สุดท้ายแล้ว เราหรือเขาก็ไม่ต่างกัน มนุษย์ก็คือมนุษย์ไม่ว่าจะแตกต่างกันเพียงใด ทุกคนจึงควรจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติจะดีกว่านะ
https://northamericancryptids.com/menehune/
https://www.worldhistory.org/Menehune/#:~:text=An extensive early history was written by the,census%20of%20Kaua%E2%80%99i%20by%20Kaumuali%E2%80%99i%2C%20the%20ruling%20ali%E2%80%99i
https://www.sciencemag.org/news/2015/10/mysterious-link-emerges-between-native-americans-and-people-half-globe-away
https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0305440315000260