ภาษานอกเหนือจากการจะได้เรียนรู้คำศัพท์แล้ว ยังมีการเปรียบเปรยด้วยวิธีการอื่นๆ อย่างเช่น สำนวน เหมือนกัน อย่างในภาษาไทยจะมีสำนวนคำพังเพย ส่วนภาษาอังกฤษเองก็มีสำนวนเช่นกัน จะเป็นการใช้คำศัพท์ง่ายๆ แต่ความหมายนั้นไม่ได้ตรงตัวอย่างที่คิด ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้ 30 สำนวนภาษาอังกฤษ ได้ใช้ในชีวิตประจำวันแน่นอน ซึ่งแต่ละอันก็ไม่ได้ยากเลย ลองจำแล้วนำไปใช้กันได้นะ
1. A piece of cake - ทำอะไรที่รู้สึกง่าย
ตัวอย่าง: The math exam was a piece of cake.
2. A penny for your thoughts - ใช้ถามว่าคนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่
ตัวอย่าง: You look worried. A penny for your thoughts?
3. Hit the nail on the head - ทำอะไรที่มันตรงใจถูกจุด
ตัวอย่าง: Jen really hit the nail on the head with her presentation today.
4. Break a leg - อวยพรขอให้โชคดี
ตัวอย่าง: Break a leg on your audition tomorrow.
5. Barking up the wrong tree - ด่วนตัดสินผิด
ตัวอย่าง: If you think I stole the book, you’re barking up the wrong tree.
6. An arm and a leg - ราคาแพง แพงแบบขายแขนขายขา ภาษาไทยก็ประมาณ ขายไตซื้อ
ตัวอย่าง: This house cost me an arm and a leg.
7. Back to the drawing board - เริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ศูนย์
ตัวอย่าง: The team lost the game. Back to the drawing board.
8. Bite the bullet - อดทนอดกลั้นกับอะไรที่ยากหรือเจ็บปวด
ตัวอย่าง: I had to bite the bullet and take the exam again.
9. Cry over spilt milk - หงุดหงิดกับอะไรที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้
ตัวอย่าง: There’s no sense crying over spilt milk. We need to move on.
10. Cut to the chase - ขอให้เข้าตรงประเด็น
ตัวอย่าง: Let’s cut to the chase and discuss the main issue.
11. Devil’s advocate - แกล้งไม่เห็นด้วย ให้อีกฝ่ายได้คิดอีกมุม
ตัวอย่าง: I’m playing devil’s advocate here, but have you considered the risks involved?
12. Get off someone’s back - ขอให้เลิกเซ้าซี้ในเรื่องๆ หนึ่ง
ตัวอย่าง: I wish my mom would get off my back about studying.
13. Give someone the benefit of the doubt - ให้เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จนกว่าจะพบความผิดจริง
ตัวอย่าง: I don’t think he meant to do it. Let’s give him the benefit of the doubt.
14. Go the extra mile - พยายามอย่างหนักเพื่อความสำเร็จ
ตัวอย่าง: If you want to succeed, you need to go the extra mile.
15. Hang in there - อดทนอดกลั้นเอาไว้
ตัวอย่าง: You can do this. Just hang in there a little longer.
16. Hit the books - ตั้งใจเรียน
ตัวอย่าง: I have a test tomorrow, so I need to hit the books tonight.
17. Jump the gun - กระโตกกระตาก
ตัวอย่าง: Don’t jump the gun. Wait until we have all the facts.
18. Keep your chin up - มองโลกในแง่ดี
ตัวอย่าง: You’ll get through this. Keep your chin up.
19. Make a long story short - สรุปให้สั้นได้ใจความ
ตัวอย่าง: To make a long story short, I lost my phone and had to buy a new one.
20. On the same page - มีความคิดเห็นตรงกัน
ตัวอย่าง: I think we’re on the same page regarding this issue.
21. Piece of work - คนที่ยากจะร่วมงานด้วย
ตัวอย่าง: John is a real piece of work. He’s always complaining.
22. Pull someone’s leg - หยอกล้อคนอื่น
ตัวอย่าง: I’m just pulling your leg. I didn’t really break your phone.
23. Silver lining - เจออะไรที่ดี แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่
ตัวอย่าง: The silver lining to losing my job is that I have more time to spend with my family.
24. Start from scratch - เริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น
ตัวอย่าง: We need to throw out the old project and start from scratch.
25. Time flies when you’re having fun - ความสุขมักผ่านไปไวเสมอ
ตัวอย่าง: I can’t believe it’s already midnight. Time flies when you’re having fun.
26. Turn a blind eye - ปิดตาหนึ่งข้าง ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
ตัวอย่าง: The boss turned a blind eye to the employee’s tardiness.
27. Up in the air - อะไรที่มันยังไม่ชัดเจน
ตัวอย่าง: Whether or not we can travel this year is still up in the air.
28. When pigs fly - อธิบายถึงในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้
ตัวอย่าง: You think the boss will give us a raise? Yeah, when pigs fly.
29. You can’t judge a book by its cover - อย่าตัดสินอะไรจากภายนอก
ตัวอย่าง: Don’t judge him by his appearance. You can’t judge a book by its cover.
30. Your guess is as good as mine - เป็นการบอกว่าเราไม่รู้
ตัวอย่าง: How much does a plane ticket cost to France? Your guess is as good as mine.
จากตัวอย่างสำนวนทั้งหมดนี้ เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่มักจะถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน การใช้สำนวนเพื่อประกอบการสนทนาจะยิ่งทำให้ การสนทนานั้นยิ่งมีความหมายที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ลองนำไปฝึกใช้พูดกันได้ เพื่อที่จะได้มีความลื่นไหลเหมือนกับคนพูดภาษาอังกฤษแท้ๆ