แบตโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า มีกี่ประเภท ก่อนซื้อมีข้อควรรู้อะไรบ้าง?
แบตโฟล์คลิฟท์มีกี่ประเภทอะไรบ้าง แบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์มีวิธีการเลือกซื้ออย่างไร มีเทคนิคการดูแลแบบไหนให้แบตเตอรี่ใช้ได้นาน หาคำตอบได้ในบทความนี้
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าถือเป็นรถยกที่ได้รับความนิยม เป็นรถยกที่ได้รับการเลือกใช้กันอย่างแพร่หลายในงานอุตสาหกรรม คลังเก็บสินค้า ฯลฯ ซึ่งสิ่งที่มีความสำคัญกับรถยกประเภทนี้เลยก็คือแหล่งพลังงานหลักที่ใช้ในการขับเคลื่อนอย่างแบตโฟล์คลิฟท์ ซึ่งในปัจจุบันได้มีแบตโฟล์คลิฟท์ที่ได้รับความนิยมอยู่ 2 ประเภทคือ แบตตะกั่ว-กรด และแบบแบตลิเธียมไอออน ซึ่งแบตทั้ง 2 ประเภทมีข้อแตกต่างกัน ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำทุกท่านให้รู้จักให้มากขึ้น พร้อมแนะนำวิธีเลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะสม และเคล็ดลับในการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ให้ใช้ยาวนานมากขึ้น
ประเภทของแบตโฟล์คลิฟท์ทั้ง 2 ประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร ?
แบตโฟล์คลิฟท์ (traction battery)ในปัจจุบันมี 2 ประเภทหลักที่ได้รับความนิยมก็คือ แบบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และแบบแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด ซึ่งแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ทั้ง 2 ประเภทจะมีความแตกต่างกัน ทั้งในด้านประสิทธิภาพการใช้งาน มีข้อดี-ข้อเสียที่มีความแตกต่างกัน โดยจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นแบตโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าที่ถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ ใช้ลิเธียมเป็นส่วนประกอบหลัก เป็นแบตเตอรี่่ที่ให้พลังงาน และมีแรงดันไฟฟ้าที่มีความสม่ำเสมอ ทำให้มีประสิทธิภาพสูงเมื่อใช้งานกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าในปัจจุบัน โดยจะมีข้อดี คือ
- เป็นแบตเตอรี่ที่เป็นพลังงานสะอาดไม่ปล่อยมลพิษ
- มีน้ำหนักที่เบา
- มีระบบการชาร์จแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์ที่ง่าย และมีความเร็วสูง ผ่านตู้ชาร์จแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์โดยเฉพาะ
- มีประสิทธิภาพการทำงานที่ยาวนาน
- สามารถเปลี่ยนแบตโฟล์คลิฟท์ได้ง่ายไม่ต้องเสียเวลา
- มีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 3,000 รอบ
ข้อเสีย ข้อจำกัดของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
- มีค่าต้นทุนที่สูงกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่นเล็กน้อย
- เนื่องจากเป็นแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักเบา อาจทำให้ต้องมีการถ่วงน้ำหนักในรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าบางรุ่น
- ต้องมีเครื่องชาร์จโฟล์คลิฟท์ หรือจุดชาร์จแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์แบบลิเธียมไอออนโดยเฉพาะ
แบตเตอรี่ตะกั่วกรด
เป็นแบตเตอรี่แบบดั่งเดิมที่ได้รับความนิยมใช้เป็นแบตโฟล์คลิฟท์มายาวนาน มีประสิทธิภาพการจ่ายพลังงานที่สูง มีความเสถียรภาพที่มาก เหมาะกับงานยกทั้งของหนัก-เบาในโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท โดยจะมีข้อดี คือ
- เป็นแบตเตอรี่ที่เป็นพลังงานสะอาดไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
- มีความเสถียรที่สูง และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ
- มีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 1,000 - 1,500 รอบ
ข้อเสีย ข้อจำกัดของแบตเตอรีตะกั่ว-กรด
- ใช้เวลาการชาร์จที่ยาวนานถึง 7-8 ชั่วโมง และใช้เวลาคูลดาวน์ที่นาน 7-8 ชั่วโมง
- ต้องมีแบตรถโฟคลิฟตะกั่ว-กรดสำรองหลายก้อนหากต้องการใช้งานต่อเนื่อง
- ต้องมีการตรวจเช็กสภาพแบตเตอรี่อยู่เสมอ และต้องมีการเติมสารประกอบบางอย่าง
วิธีเลือกซื้อแบตโฟล์คลิฟท์ให้เหมาะกับการใช้งาน
จะเห็นแบตโฟล์คลิฟท์ทั้ง 2 ประเภท จะมีข้อดี-ข้อเสียที่มีความแตกต่างกัน โดยทั้ง 2 ประเภทจะมีข้อแตกต่างหลัก ๆ ของระยะเวลาในการชาร์จ อายุการใช้งาน ทำให้แบตโฟล์คลิฟท์ทั้ง 2 ประเภท มีราคาต้นทุนที่มีความแตกต่างกัน ทั้งในด้านของต้นทุนตัวแบตเตอรี่โฟล์คลิฟท์ และในด้านของต้นทุนเครื่องชาร์จแบตรถโฟล์ค ลิฟท์
การเลือกซื้อแบตโฟล์คลิฟท์ให้มีความเหมาะสมกับการใช้งาน จึงควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับประเภทของการใช้งาน หากมีความจำเป็นที่จะต้องมีการใช้งานที่ยาวนานใน 1 วันหลายรอบ ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ควรเลือกซื้อแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีราคาต้นทุนที่สูงกว่าแต่ได้เปรียบในด้านความสะดวก แต่ถ้าหากต้องการใช้งานแบบครั้งเดียวควรเลือกแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดเพื่อลดต้นทุน หรือถ้าหากไม่มั่นใจควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในด้านแบตโฟล์คลิฟท์โดยตรง
วิธีการดูแลรักษาแบตโฟล์คลิฟท์
แบตโฟล์คลิฟท์เป็นอุปกรณ์ที่จะต้องมีการดูแลรักษาให้ถูกวิธี เพราะถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายครั้ง และมีราคาต้นทุนตัวแบตเตอรี่ที่สูง โดยจะมีข้อแนะนำ ดังนี้
- หมั่นตรวจเช็กสภาพความพร้อมแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์เสมอทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ เช่น การตรวจสอบระดับน้ำกรด, การไม่ละเว้นการดูสัญญาณเตือน, ทำความสะอาดคราบบทตัวแบต เป็นต้น
- เก็บรักษาแบตเตอรี่ในสถานที่ที่มีความเหมาะสม เช่น มีอุณหภูมิที่ไม่สูง หรือต่ำเกินไป ไม่เก็บในที่สูงที่เสี่ยงต่อการตกกระแทก และเก็บแบตเตอรี่ให้ห่างจากประกายไฟ
- ระวังไม่ให้ขั่วแบตเตอรี่ของแบตโฟล์คลิฟท์สัมผัสกับโลหะชนิดอื่น ๆ เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เสียหาย หรือเกิดอันตรายได้
- ห้ามสัมผัสขั้วของแบตเตอรี่โดยตรงโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้
เคล็ดลับในการยืดอายุการใช้งานของแบตโฟล์คลิฟท์
- ไม่ควรใช้งานแบตโฟล์คลิฟท์จนหมดในครั้งเดียว เพราะจะส่งผลให้อายุการวใช้งานสั้นลงมากกว่าปกติ ควรใช้งานประมาณ 80 % แล้วนำไปชาร์จ
- มีการเติมน้ำกลั่นอย่างถูกวิธี หากเป็นแบตโฟล์คลิฟท์ใหม่ที่มีอายุการใช้งานน้อยกว่า 2 ปี ควรเติมทุก 10 รอบการชาร์จไฟ และหากเป็นแบตโฟล์คลิฟท์เก่าควรเติมทุก 5 รอบการชาร์จไฟ
- ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ด้วยระยะเวลาสั้น ๆ บ่อย เพราะจะส่งผลให้อายุการใช้งานลดลง
- ระวังไม่ให้แบตโฟล์คลิฟท์มีอุณหภูมิที่ร้อนเกินไป ควรมีการพักการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์เป็นช่วง ๆ หรือตรวจสอบสัญญาณเตือนเสมอ
- ไม่ปล่อยให้แบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์คายประจุมากกว่า 80 % เป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ต้องใช้เวลาที่มากกว่า 72 ชั่วโมงในการชาร์จ
สรุป แบตโฟล์คลิฟท์มีความสำคัญขนาดไหน ?
แบตโฟล์คลิฟท์ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า ทั้งในด้านการช่วยลดต้นทุนการใช้พลังงาน ช่วยในด้านของการลดมลพิษ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยการเลือกแบตเตอรี่รถโฟล์คลิฟท์จะต้องมีการเลือกให้มีความเหมาะสมกับการใช้งาน ที่สำคัญจะต้องไม่ลืมที่จะดูแลรักษาแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งานแบตโฟล์คลิฟท์ไม่ให้เสื่อมได้ง่าย ๆ