หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ที่มาของยาอมแก้ไอในตำนาน

เนื้อหาโดย teerap

     ได้เห็นและได้ยินชื่อนี้มาตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆยอมรับว่าไม่กล้ากินเพราะเป็นคนกลัวตะขาบ งั้นมาดูที่มาที่ไปขอยาอมชนิดนี้กันครับ โดยรูปชายบนซองยาแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว คือนาย จุ้ยไซ แซ่ซิ้ม ผู้คิดค้นสูตรยา ชาวจีนที่อพยพมาตั้งรกรากในไทยที่ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนั้นเขามีอาชีพทำสวนและเลี้ยงเป็ดไก่ พอเริ่มมีทุนจึงได้เปิดร้านขายของชำในตลาดบางคล้า และด้วยความที่เคยเป็นเด็กช่วยปรุงยา, ต้มยา ในร้านหมอจีนมาก่อนเมื่อครั้งสมัยอยู่ที่เมืองจีน จึงทำให้มีความรู้ทางด้านยาสมุนไพรและการตรวจจับชีพจร นายจุ้ยไซจึงได้ทดลองทำยาเพื่อใช้กันเองในหมู่ญาติและคนใกล้ชิดในละแวกบ้าน ในช่วงปี 2478 

นายจุ้ยไซย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพ แถวตลาดน้อย เยาวราช ก็ยังคงรับจ้างแบกหามในตอนกลางวัน แต่ด้วยความที่เคยเป็นเด็กช่วยปรุงยาในร้านหมอจีนในประเทศจีนมาก่อน จึงทำให้มีความรู้ในเรื่องของยาสมุนไพรเป็นอย่างดี พอกลางคืนหรือเวลาว่างก็คิดสูตรยาสมุนไพรและทดลองทำยาหลายๆ ชนิด เมื่อเริ่มมีคนชอบก็เลยนำไปฝากขายตามร้านขายยาต่างๆ เพื่อหารายได้เสริมเลี้ยงดูครอบครัว โดยใช้ชื่อ ยาอมแก้ไอซิมเทียนฮ้อ ในช่วงแรกก็มีทั้งร้านที่ยอมนำยาไปขาย และบางร้านก็ไม่ยอมรับ จึงปรับวิธีการขายโดยการจ้างคนไปโฆษณาขายตามหนังกลางแปลง และเริ่มขายตามร้านขายยามากขึ้นเป็นลำดับ ผู้คนจึงเริ่มรู้จัก ที่ขายได้ดีคือยาอมแก้ไอ ของหมอซิมเทียนฮ้อ ซึ่งเป็นชื่อร้านขายยา มีความหมายว่า ลำธารฟ้า 

ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 จุ้ยไซ แซ่ซิ้ม พาครอบครัวหลบไปอยู่ที่พระประแดง และมีความคิดว่าการทำยาขายจะต้องมีเครื่องหมายการค้าที่ทำให้คนจดจำได้ง่าย จึงใช้รูปตะขาบเพราะสังเกตว่าตะขาบนั้นมีลักษณะใหญ่ น่าเกรงขาม และมันก็มีความหมายดีเพราะคนจีนจะมีความคิดว่า เมื่อคนป่วยก็ย่อมจะมีพิษอยู่ในร่างกาย หลักการรักษาจะเป็นการนำพิษไปล้างพิษ ซึ่งมันก็คือระบบเซรุ่มของยาแผนปัจจุบัน และทำไมต้อง 5ตัวนั้นเนื่องมาจากเขามีลูก 10 คนโดยเป็นชาย 5คนและหญิง 5 คนนั่นเอง นับว่าเป็นยาอมแก้ไอในตำนานเลยจริงๆ และจนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้เคยกินมันอยู่ดี

เนื้อหาโดย: teerap
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
teerap's profile


โพสท์โดย: teerap
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: teerap
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกรายไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !กัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุมBBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลกAPC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งมิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อเขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคต
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ท้องเสียควรกินอะไร และควรงดอะไร เพื่อให้อาการดีขึ้นเร็วสารแขวนลอย คืออะไร? อธิบายแบบเข้าใจง่ายใน 2 นาทีปรับลุคแบรนด์ให้ดูคลีนต้นราชสกุลยุคล
ตั้งกระทู้ใหม่