ทำไมคนออสเตรเลียไม่ชอบกระต่าย
ออสเตรเลียมีสภาพธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หลากหลายสายพันธุ์ และทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์น่ารักและมีเอกลักษณ์มากมายที่นี่ เช่น ตุ่นปากเป็ดและโคอาล่า แต่ไม่ใช่ว่าสัตว์ตัวเล็กของออสเตรเลียทุกตัวจะสามารถเป็นที่รักของผู้คนได้ เมื่อพูดถึงสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ทำให้ชาวออสเตรเลียปวดหัวที่สุด ต้องเป็นกระต่าย เจ้าตัวเล็กขนปุยนั้นไม่ได้น่ารักนักในสายตาของชาวออสเตรเลีย
เดิมทีออสเตรเลียไม่มีกระต่าย การแพร่กระจายของกระต่ายเป็นการขยายสายพันธุ์และเป็นบทเรียนที่หลงเหลือจากประวัติศาสตร์อีกด้วย โดยในปี 1859 โธมัส ออสติน ชาวนาจากประเทศอังกฤษ ขอให้ญาติและเพื่อนๆ นำกระต่าย 24 ตัวจากยุโรปมาให้เขา เพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับวันที่น่าเบื่อของเขา จากนั้นเขาก็นำกระต่ายเหล่านั้นไปไว้ในฟาร์มของเขาและนำไปใช้ในการล่าสัตว์ ออสตินไม่รู้ว่าในเวลานั้นความคิดเรื่องความสนุกสนานชั่วคราวของเขาจะนำไปสู่หายนะทางระบบนิเวศ
ในตอนแรก กระต่ายไม่ได้ก่อปัญหาใดๆ เลย และยังได้รับความโปรดปรานจากคนในท้องถิ่นด้วย เพราะรูปร่างหน้าตาที่น่ารักของพวกมัน แต่ไม่นานหลังจากนั้น ออสตินก็พบว่ามีกระต่ายในฟาร์มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นไม่กี่ปี จำนวนพวกมันก็เพิ่มขึ้นเป็นหมื่นตัวและเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว
ออสเตรเลียมีทุ่งหญ้ามากมายซึ่งกลายเป็นแหล่งให้อาหารแก่กระต่าย ที่นี่ไม่มีสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ เช่น หมาใน เสือ และเสือดาว มีเพียงจิงโจ้และสุนัขป่าบางชนิดเท่านั้น ไม่มีผู้ล่าตามธรรมชาติ ดินร่วนเหมาะมากสำหรับการขุดหลุมและผสมพันธุ์ทำให้กระต่ายมีการแพร่กระจาย
ในปี 1907 กระต่ายในออสเตรเลียได้แพร่หลายไปตามชายฝั่งตะวันออกและตะวันตก และแพร่กระจายไปทั่วออสเตรเลีย ภายในปี 1926 จำนวนกระต่ายในออสเตรเลียพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10 พันล้านตัว จำนวนที่น่าตกใจดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อสภาพแวดล้อมทางนิเวศน์ของออสเตรเลีย
ที่ไหนมีหญ้าและต้นไม้เล็กๆ ที่นั่นก็เป็นแหล่งอาหารสำหรับกระต่าย พวกมันจะแทะและกินพืชเหล่านี้ต่อไป ในช่วงฤดูแล้ง กระต่ายจะปีนขึ้นไปบนต้นไม้เพียงไม่กี่ต้นที่ยังมีชีวิตอยู่และกินตาของมัน ส่งผลให้ป่าและพืชพรรณจำนวนมากสูญพันธุ์ไป กระต่าย 4 ตัวสามารถเปลี่ยนพื้นที่เป็นหญ้าให้กลายเป็นพื้นที่แห้งแล้งได้ สิ่งที่น่าเศร้ายิ่งกว่านั้นคือสัตว์ป่าพื้นเมืองของออสเตรเลียจำนวนมากสูญพันธุ์ เนื่องจากสิ่งแวดล้อมเสียหายและการขาดแคลนอาหาร
เพื่อที่จะหยุดการทำลายล้างอย่างบ้าคลั่งของกระต่าย ชาวออสเตรเลียจึงได้เริ่ม "สงคราม" กับกระต่ายที่กินเวลานานนับศตวรรษ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เพื่อกำจัดกระต่าย รัฐนิวเวลส์ของออสเตรเลียได้เปิดตัวรางวัลด้วยจำนวนเงินสูงถึง 25,000 ปอนด์ สำหรับวิธีการกำจัดกระต่าย ในเวลานั้นมีคนเสนอวิธีใช้แบคทีเรียอหิวาตกโรคในไก่เพื่อกำจัดกระต่าย แต่เนื่องจากโครงสร้างร่างกายของกระต่ายและไก่แตกต่างกัน วิธีนี้จึงไม่ได้ผล
ต่อมา ชาวออสเตรเลียใช้เวลาเจ็ดปีสร้างรั้วเหล็กยาว 3,000 กิโลเมตรเพื่อปกป้องพื้นที่เพาะปลูกอันอุดมสมบูรณ์จากกระต่าย แต่พวกเขาประเมินความสามารถของกระต่ายในการขุดหลุมต่ำไป และผลที่ตามมาก็คือ "กำแพงเมืองจีน" ที่ชาวออสเตรเลียสร้างขึ้นกลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์
กระต่ายสามารถสืบพันธุ์ได้อย่างปลอดภัยเพราะไม่มีศัตรูตามธรรมชาติ ดังนั้นออสเตรเลียจึงนำสุนัขจิ้งจอกซึ่งเป็นศัตรูตามธรรมชาติของกระต่ายจากต่างประเทศเข้ามา ในตอนแรกชาวออสเตรเลียมีความสุขเพราะสุนัขจิ้งจอกสามารถจับกระต่ายได้แต่หลังจากนั้นไม่นาน เนื่องจากกระต่ายวิ่งเร็วเกินไป สุนัขจิ้งจอกจึงหันไปล่าสัตว์ในท้องถิ่น เช่น จิงโจ้ ส่งผลให้สัตว์มากกว่าสิบสายพันธุ์ในออสเตรเลียสูญพันธุ์ ซึ่งกลายเป็นหายนะทางระบบนิเวศครั้งใหม่
ในปี 1950 ออสเตรเลียได้นำไวรัส myxoma มาจากอเมริกาใต้ ไวรัสนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตต่อกระต่ายเท่านั้นและไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์อื่น ๆ แน่นอนว่ามันทำงานได้อย่างรวดเร็ว ในปี 1952 จำนวนกระต่ายในออสเตรเลียลดลง 90% ทำให้ชาวออสเตรเลียถอนหายใจด้วยความโล่งอกในที่สุด แต่ด้วยความสามารถในการสืบพันธุ์ที่น่าทึ่งของกระต่ายและการสืบพันธุ์อย่างต่อเนื่อง พวกมันจึงพัฒนาความต้านทานต่อไวรัส ทำให้ผลของไวรัส myxoma ที่มีต่อกระต่ายก็อ่อนแอลงอย่างมาก และจำนวนกระต่ายก็เริ่มแสดงแนวโน้มการฟื้นตัวซึ่งอีกครั้งหนึ่ง จนกลายเป็นปัญหาสำหรับออสเตรเลีย
ทุกวันนี้กระต่ายก็ยังคงสร้างความปวดหัวให้กับชาวออสเตรเลีย การต่อสู้กับกระต่ายนั้นยังดำเนินอยู่ต่อไปในทวีปมหัศจรรย์ของออสเตรเลีย
วิเคราะห์หวยงวดวันที่ 2 มกราคม 69 โดยใช้ AI..เลขไหนมีสิทธิ์ถูกรางวัล
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
10 พรรณไม้สวยพิษร้าย: ความงดงามที่ต้องแลกด้วยอันตรายถึงชีวิต
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เมื่อตัวแม่ปะทะเจ้าของบริษัท! "ป้ารัตนา" โชว์สกิลสัมภาษณ์งาน ทำเอา "มอส มัดจุก" ถึงกับไปไม่เป็น
เจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
AI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 2 มกราคม 69..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปี
เซียนหวยคึกคัก ม้าสีหมอกปล่อยแนวทางเลขเด็ด งวด 2 มกราคม 2568
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
เปิดใจ "เหมย หมึกเป็นซาซิมิ" นาทีช็อกเห็นภาพบาดตาผ่านกล้องวงจรปิด บทเรียนของความไว้ใจ
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉย
สาวปริศนาปล่อยอึในร้านมินิมาร์ท พนง.เก็บกวาดปล่อยโฮ เพราะต้องตามเช็ด (เหตุเกิดที่ไทย)
วัฒนธรรมของ สัตว์เลื้อยคลาน ที่มันคือกิ้งก่าขนาดใหญ่
นี่หน่ะหรือ ขนมที่ใช้ในพิธีขันหมาก
ศึกเดือดกลางเมืองชล! "ไอซ์ รักชนก" ปะทะคารมกลุ่มแม่ยก "พี่เฮ้ง" ปมแก้รัฐธรรมนูญและตรวจสอบทุจริต
เผยโฉม "Dracula’s Chivito": จานก่อกำเนิดดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลเท่าที่เคยพบ
“ทำไมคนขยันหลายคนยังไม่ประสบความสำเร็จ? ความจริงที่ไม่มีใครบอกคุณ”
ทึ่งทั่วโลก : "ทะเลสาบเพโท" ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แสนสดใสที่มองจากมุมสูงแล้วมีรูปร่างเหมือน "หัวสุนัขจิ้งจอก" ด้วยน๊า
จะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?