เลือดกรุ๊ปใดมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากกว่ากัน
ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อนว่าความสัมพันธ์ระหว่างกรุ๊ปเลือดกับมะเร็งไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบเหตุและผลเพียงความสัมพันธ์เดียว ซึ่งหมายความว่ากรุ๊ปเลือดบางประเภทไม่จำเป็นต้องก่อให้เกิดมะเร็งบางประเภทเสมอไป อย่างไรก็ตาม จากการวิจัยและรวบรวมสถิติหลายปี สามารถเปิดเผยแนวโน้มที่น่าสนใจได้ดังนี้
ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป A มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งบางชนิด ตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป A มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งตับ นี่อาจเกี่ยวข้องกับความจริงที่ว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ป A จะหลั่งกรดในกระเพาะอาหารน้อยและมีความสามารถในการย่อยอาหารได้น้อย นอกจากนี้แอนติเจนบางชนิดในเลือดกรุ๊ป A อาจสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งบางชนิดได้
ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป B มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำที่จะเป็นมะเร็ง แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ป B จะมีภูมิคุ้มกันต่อมะเร็งอย่างสมบูรณ์ ที่จริงแล้ว คนที่มีเลือดกรุ๊ป B ก็อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งปอดและมะเร็งตับอ่อน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับลักษณะทางสรีรวิทยาและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเลือดกรุ๊ป B
ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป O มีแนวโน้มเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเป็นพิเศษ ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป O มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารและตับน้อย แต่มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันและระดับฮอร์โมนของคนเลือดกรุ๊ป O
ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด AB มีแนวโน้มเสี่ยงต่อโรคมะเร็งอย่างครอบคลุม เนื่องจากคนที่มีเลือดกรุ๊ป AB มีลักษณะทั้งเลือดกรุ๊ป A และกรุ๊ป B พวกเขาจึงอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งปอดและมะเร็งลำไส้ แต่เมื่อเทียบกับกรุ๊ปเลือดอื่นๆ พบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญต่อความเสี่ยงของโรคมะเร็งในกลุ่มคนที่มีเลือดกรุ๊ป AB