เหตุประธานาธิบดีอิหร่านจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่3!?
ล่าสุดจากข่าวเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ที่ประธานาธิบดีของอิหร่านโดยสารตกท่ามกลางหมอกทึบ ตอนนี้การค้นหาผ่านไปแล้วหลายชั่วโมงแต่ก็ยังไม่พบวี่แววของประธานาธิบดีอิหร่าน บนเครื่องบินลำเดียวกันนั้นยังมีรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านโดยสารไปด้วย
ภาพจากสำนักข่าวอัลจาซีรา ทีมค้นหาในภารกิจกู้ชีพตอนนี้มีมากกว่า 60 ทีมแล้ว
ภาพจากสำนักข่าวอัลจาซีรา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน ฮอสเซน อามิรับดอลลาห์เฮียน
เรามาดูปฏิกิริยาของแต่ละประเทศดีกว่าว่าแสดงท่าทีอย่างไรกับเหตุการณ์นี้บ้าง
ตุรกี
มีการถ่ายทอดสดภารกิจกู้ชีพประธานาธิบดีอิหร่านผ่านโดรน และแชร์ข้อมูลพิกัดกับอิหร่านในการช่วยเหลือ มีรายงานว่าโดรนของตุรกีตรวจพบ "แหล่งความร้อน"โดยสำนักข่าวAnadolu รายงานว่า โดรน Akinci ซึ่งได้ส่งไปยังอิหร่าน ได้ตรวจพบ "แหล่งความร้อน" ซึ่งคาดว่าจะเป็นซากเฮลิคอปเตอร์ที่บรรทุกประธานาธิบดีอิหร่าน
"หากแรอีซี(ประธานาธิบดีอิหร่าน)เสียชีวิต โลกจะปลอดภัยยิ่งขึ้น"
สมาชิกรัฐสภาสหรัฐริค สก็อต(Rick Scott) สมาชิกรัฐสภาคนสำคัญของพรรครีพับลิกันดูเหมือนจะยินดีกับอุบัติเหตุของประธานาธิบดีอิหร่าน
"เขาไม่ได้รับความรักหรือความเคารพ และไม่มีใครคิดถึงเขา" สก็อตกล่าวถึงประธานาธิบดีอิหร่านในโพสต์โซเชียลมีเดีย "หากเขาจากไป ผมหวังจริงๆ ว่าชาวอิหร่านจะมีโอกาสยึดประเทศของตนกลับคืนจากเผด็จการกระหายเลือด"
ความคิดเห็นของเขานั้นแตกต่างจากเจ้าหน้าที่ต่างชาติและประเทศต่างๆ มากมายที่แสดงความกังวลต่อความปลอดภัยของประธานาธิบดีอิหร่าน รวมถึงพันธมิตรของสหรัฐฯ หลายประเทศในตะวันออกกลาง
อิสราเอล
อ้างอิงจากสำนักข่าว The Jerusalem Post ได้มีการลงข่าวผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียที่ทำมีมรูปภาพและโพสต์ข้อความล้อเลียนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับประธานาธิบดีอิหร่าน และแสดงท่าทียินดีกับอุบัติเหตุครั้งนี้
นอกจากนี้ยังมีชการ์ตูนล้อเลียนและการเสียดสีจากกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านสาธารณรัฐอิสลาม ซึ่งแสดงความหวังแนวประชดประชันว่าประธานาธิบดีอิหร่านจะไม่รอดชีวิต เช่น ผู้ใช้social mediaที่โพสต์วิดีโอของผู้หญิงสองคนซ้อนทับในขณะที่เต้นเพลงชื่อ "เฮลิคอปเตอร์" เหนือซากเฮลิคอปเตอร์ในป่า
อิหร่าน
สำหรับท่าทีของชาวอิหร่านที่มีต่อข่าวนี้มีกลุ่มคนที่สวดภาวนาให้ประธานาธิบดีของพวกเขาปลอดภัยจากรายงานถ่ายทอดสดและทีมค้นหากำลังทำงานอย่างเต็มที่ท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ โดยมีทีมค้นหาจากประเทศอื่นมาร่วมปฏิบัติการด้วย
รัสเซีย
รัสเซียส่งผู้เชี่ยวชาญกู้ภัย 47 นายไปร่วมปฏิบัติการกู้ชีพประธานาธิบดีอิหร่า โดยกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียได้แถลงการณ์ว่า รัสเซียกำลังดำเนินการส่งผู้เชี่ยวชาญกู้ภัย 47 นายและเฮลิคอปเตอร์หนึ่งลำเพื่อช่วยเหลือในการค้นหา และมีการขนอุปกรณ์พิเศษที่สนามบิน Zhukovsky ของรัสเซียเพื่อเดินทางไปยังเมือง Tabriz ของอิหร่าน
จะเห็นได้ว่าท่าทีของประเทศมหาอำนาจแต่ละประเทศต่อเหตุการณ์ครั้งนี้มีความแตกต่างกันคนละขั้วอยู่ หากผู้นำอิหร่านเสียชีวิตและพบว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นผลจากการถูกลอบสังหารเกรงว่าอาจจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ได้เช่นเดียวกับสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ชนวนเหตุเกิดจากผู้นำระดับสูงของประเทศมหาอำนาจในขณะนั้นถูกลอบสังหาร โดยสาเหตุในการเกิดสงครามโลกครั้งที่1 เชื่อว่ามาจากการลอบปลงพระชนม์ อาร์ชดยุค ฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ แห่งออสเตรีย ด้วยฝีมือของนักศึกษาชาวบอสเนียเชื้อสายเซอร์ป ชื่อ กาวริโล ปรินซิป ที่ซาราเจโวซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นบอสเนีย
สำหรับประธานาธิบดีอิหร่านที่สูญหายไปในขณะนี้หรือ นาย เอบรอฮีม แรอีซี เป็นนักกฎหมายและนักการเมืองที่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญอย่างประธานสำนักงานสอบสวนกลาง อัยการสูงสุด และประธานศาลสูงสุด เป็นประธานาธิบดีคนที่ 8 ของอิหร่าน
แรอีซีเกิดที่เมืองแมชแฮดซึ่งถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอิหร่าน บิดาของเขาซึ่งเป็นผู้นำศาสนาเสียชีวิตขณะที่เขามีอายุห้าขวบ แรอีซีเข้าศึกษาโรงเรียนศาสนาที่เมืองโกมเมื่อมีอายุ15 ต่อมาได้เข้าร่วมในการปฏิวัติอิสลามเพื่อโค่นล้มระบอบกษัตริย์และสถาปนาระบอบสาธารณรัฐ
แรอีซีจบการศึกษาสูงสุดระดับปริญญาเอกสาขากฎหมายเอกชนจากมหาวิทยาลัยโมแทแฮรีในกรุงเตหะราน เริ่มทำงานในฐานะอัยการตั้งแต่ปี 1981 และได้ย้ายเข้ามาในตำแหน่งรองอัยการกรุงเตหะรานในปี 1985 ขณะที่อายุ 25 ปี จากนั้นแรอีซีก็เริ่มได้รับความสนใจจากอายะตุลลอฮ์รูฮุลลอฮ์ โคมัยนีในปี 1988 ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเองเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในคณะผู้พิพากษาจำนวนสี่คนที่ทำการตัดสินคดีของนักโทษการเมือง
ต่อมาเขาได้ดำรงตำแหน่งประธานศาลสูงสุดในช่วงปี 2019–2021 จากนั้นก็ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2021 และชนะด้วยคะแนนเสียง 62% ของผู้มาใช้สิทธิ์

















