ล็อบสเตอร์ จากอาหารราคาถูก สู่สุดยอดอาหารหรู
ในปัจจุบัน กุ้งล็อบสเตอร์กลายเป็นอาหารทะเลสุดหรูหรา หาซื้อง่าย แต่ราคาแพง หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมในอดีต ล็อบสเตอร์ถึงเคยเป็นอาหารราคาถูก หาจับได้ง่ายๆ ทั่วไป บทความนี้จะพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปไขข้อข้องใจ และเรียนรู้เรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับ "ล็อบสเตอร์" อาหารที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเปลี่ยนแปลง
ยุคทองของล็อบสเตอร์: อาหารอุดมสมบูรณ์
ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 17 ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา กุ้งล็อบสเตอร์มีจำนวนมหาศาล ชุกชุมจนชาวพื้นเมืองอเมริกาเรียกว่า "แมลงวันทะเล" ชาวประมงจับล็อบสเตอร์ได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้อวนหรือมือเปล่า
ด้วยความอุดมสมบูรณ์ ล็อบสเตอร์จึงกลายเป็นอาหารหลักของผู้คนในท้องถิ่น both the poor and wealthy. ชาวนาใช้ล็อบสเตอร์เป็นปุ๋ยหมัก นักโทษถูกบังคับให้กินล็อบสเตอร์สามมื้อต่อวันเป็นเวลาหลายเดือน
จากอาหารเหลือเฟือ สู่ของหายาก
อย่างไรก็ตาม ความอุดมสมบูรณ์ของล็อบสเตอร์ค่อยๆ ลดลงจากการล่าอย่างหนัก ประกอบกับมลพิษทางทะเล โรคระบาด และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้จำนวนประชากรล็อบสเตอร์ลดลงอย่างรวดเร็ว
ในช่วงศตวรรษที่ 19 ล็อบสเตอร์เริ่มกลายเป็นอาหารหายาก ราคาพุ่งสูงขึ้น กลายเป็นอาหารสำหรับชนชั้นสูง
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ล็อบสเตอร์มีราคาแพง
-
ความต้องการที่เพิ่มขึ้น: ความนิยมของล็อบสเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้คนทั่วโลกต่างใฝ่ฝันลิ้มลองรสชาติอันโอชะของล็อบสเตอร์
-
การจับที่ยั่งยืน: ปัจจุบันมีการควบคุมการจับล็อบสเตอร์อย่างเข้มงวด เพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศ
-
ต้นทุนการเลี้ยง: การเลี้ยงล็อบสเตอร์ในฟาร์มมีราคาสูง ต้องใช้เวลาและแรงงานมาก
ล็อบสเตอร์: สุดยอดอาหารทะเล
ปัจจุบัน ล็อบสเตอร์กลายเป็นอาหารทะเลสุดพิเศษ หาทานได้ยาก ราคาแพง แต่ด้วยรสชาติที่อร่อย เนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน และคุณค่าทางโภชนาการสูง ล็อบสเตอร์จึงยังคงเป็นที่นิยม
บทสรุป
กุ้งล็อบสเตอร์เคยเป็นอาหารหากินง่ายและราคาถูก แต่ด้วยปัจจัยหลายประการ ล็อบสเตอร์จึงกลายเป็นอาหารสุดหรูหรา หาซื้อง่าย แต่ราคาแพง