7 เทคนิค แก้อาการตาล้าได้อย่างรวดเร็ว??
อาการตาล้าเนี่ย เป็นอาการที่พบได้บ่อยมากๆ ยิ่งโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันแล้วเนี่ย อาการตาล้าเนี่ยก็มักจะเกิดขึ้นบ่อยมาก เพราะว่าเกิดจากการใช้สมาร์ทโฟน หรือการดูทีวี หรือการอ่านหนังสืออย่างหนัก พวกนี้สามารถส่งเสริมให้เกิดอาการตาล้าได้ เช่น การอ่านหนังสือในที่มืดที่สลัว เราก็ต้องใช้เพ่งลูกกะตา ก็ทําให้เกิดตาล้า หรือบางทีเราออกไปเจอแสงแดดแรงๆ เราต้องแบบเกร็งลูกกะตา แล้วก็เกิดอาการตาล้า หรือบางทีเนี่ยเราจะอ่านหนังสือแต่ว่าอยู่ในรถที่สังสรรค์เนี่ย ร่างกายพยายามที่จะควบคุมให้ลูกตาเราโฟกัส หรือว่ามองให้ได้ชัดเจนเนี่ย กล้ามเนื้อรอบลูกตา ก็เกิดอาการล้า ซึ่งอาการพวกนี้จะแสดงออกได้หลายรูปแบบมากเลย เช่นปวดตา ปวดกระบอกตา แห้งคันตา แสบตา หรือบางคนมีน้ําตาไหล ตาแดง ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด หรือว่าบางทีเนี่ยดวงตาไวต่อแสงมาก เห็นแสงแป๊บเดียว โอ้โหแสบตาแล้วนะคืออาการตาล้าไม่ใช่แค่เมื่อยตา ปวดตาอย่างเดียว และอาการตาล้า ยังกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัว เหนื่อยล้า เวียนศีรษะ บ้านหมุน บางคนเป็นไมเกรน โอ้โหหนักเลย โดยปกติ อาการตาล้าเนี่ยมักไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แต่ถ้าเกิดอาการรุนแรงจนท่านรู้สึกว่าแบบมันทําให้ชีวิตประจําวันท่านมีปัญหาเนี่ย ก็ควรรีบพบแพทย์
สาเหตุของอาการตาหล้าเนี่ยก็คือเกิดจากการใช้สายตาต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน เช่น การอ่านหนังสือนานๆ หรือการขับรถระยะทางไกลเราต้องเพ่งสมาธิมองใช่ไหม ทําให้เกิดตาล้าได้ หรือทํางานหน้าจอคอมพิวเตอร์นะครับใช้สมาร์ทโฟนนะครับอยู่ในที่แสงจ้ามากหรือว่าใช้ในอยู่ในที่มืดมาก ก็เป็นเพราะว่าต้องเพ่งใช่ไหม หรือบางทีเนี่ยงานที่ท่านต้องสัมผัสลมที่พุ่งเข้ามาที่ตาเนี่ยบ่อยๆก็ทําให้เราแบบต้องเกร็งตากะพริบตา มันจะปวดเมื่อยไปทั้งกระบอกตา แล้วก็ยังอาจจะทําให้แบบตาแห้งซึ่งก็เป็นโลกอีก เพราะฉะนั้นเนี่ยอาการตาล้าก็จะเกิดได้หลากหลายมากๆเลย สําหรับผู้ที่สายตาเริ่มสั้นแล้วไม่รู้ตัวเ ก็จะต้องเกร็งลูกตา เพื่อให้มองเห็นได้ชัด ก็จะเกิดอาการตาล้าได้อีก จะเห็นได้ว่าสาเหตุของอาการตาล้ามีมากมายหลายอย่าง และทําให้ชีวิตประจําวันเราแย่ เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเกิดเราสามารถที่จะลดหรือบรรเทาอาการมันได้นั่น จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สําหรับการวินิจฉัยอาการตาล้า ท่านแทบจะวินิจฉัยได้ด้วยตนเองเลย แทบไม่จําเป็นที่จะต้องให้แพทย์ว่าวินิจฉัยว่าท่านเป็นอาการตาล้าเลย เพราะว่าอาการที่เกิดขึ้นเนี่ยก็อาจจะมีปวดกระบอกตามเมื่อยตาปวดหัว หลังจากที่ท่านใช้สายตามากๆ เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเกิดท่านเป็นบ่อยมากเลย อันนี้ก็ต้องพบแพทย์และการรักษาการตาล้าเนี่ยโดยส่วนใหญ่ก็คือ การพักเป็นหลักนั่นเอง และก็ยังมี เช่น หยอดตา ทําให้ตาหายแห้ง คราวนี้เรามาดู 7 วิธีการที่ป้องกันอาการตาล้าของท่านมีอะไรบ้าง
- เทคนิค 20
ทํายังไงครับก็คือ จํากัดเวลาการใช้สายตา อย่างเช่น การอ่านหนังสือ หรือการทํางานนานๆเนี่ย 20 นาที ทุก 20 นาที จะต้องพักสายตา 20 วินาที ทุก 20 นาที จะต้องพักสายตา 20 วินาที และไม่ใช่พักแบบเฉยๆนะ ต้องมองไปไกลอย่างน้อย 20 ฟุต เพื่อให้เราเนี่ยผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตา และรอบกระบอกตา อันนี้ก็คือกด 20 นั่นเอง
- แนะนําให้ท่านกะพริบตาบ่อยๆ
สมมติ ว่าท่านอ่านหนังสือหรือทํางานไปสักพักนึง หรือมองจอคอมพิวเตอร์ กระพริบตารัวๆเลย ทําไมต้องกะพริบตาการกระพริบตาของเรา มันจะเป็นการทําให้เกิดน้ําหล่อเลี้ยงของดวงตาเนี่ย มันออกมาเคลือบตาเรามากขึ้นนะ ซึ่งจะป้องกันตาแห้ง แล้วก็ทําให้เราเนี่ยกล้ามเนื้อรอบตาเนี่ยมีการผ่อนคลายไม่เกร็งตลอดเวลา อันนี้ก็เป็นเทคนิคการป้องกันอาการตาล้า
- หลีกเลี่ยงการใช้สายตาในที่มืดหรือแสงน้อย
การปรับแสงให้เหมาะสมกับการทํางานนั้นๆบางครั้งเนี่ยเราอ่านหนังสือในที่มืดเกินไป ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามเนี่ยเราต้องรู้สึกว่าต้องเพ่ง ควรจะเพิ่มแสงไฟในการอ่านหนังสือ ก็อันนี้สําคัญมากๆเลย ถ้าเกิดในที่ที่แสงสว่างมากๆก็อาจจะแนะนําให้ใส่แว่นตา
- การใช้คอมพิวเตอร์ หรือว่าแล็ปท็อปอะไรต่างๆ
ควรให้สายตา อยู่ห่างจากหน้าจอเนี่ยประมาณ 20 นิ้ว คือประมาณสัก 50 เซ็นต์กว่าๆ ประมาณเท่านี้เป็นอย่างน้อย ก็จะทําให้สายตาเราเนี่ยค่อนข้างสบายนะครับแล้วก็ไม่ปวดเมื่อยคอ ไม่ปวดหลังด้วยนะ การมองใกล้เกินไปบางทีเราก้มอะไรอย่างเงี้ย ทั้งปวดหลัง ปวดคอ ปวดหัว ปวดตา พาไปเป็นออฟฟิศซินโดรมไปเลยอันนี้ลําบาก
- สวมแว่นตาให้เหมาะสมกับการใช้งาน
อย่างแว่นตาสําหรับการอ่านหนังสือ สมมุติท่านสายตายาวใช่ไหม ท่านก็ควรจะต้องใส่แว่นตาสายตายาวไม่ใช่ไปนั่งเก่งอ่านหนังสืออย่างงี้มันจะปวดตา หรือว่าเวลาออกแดดอยู่กลางแสงแดดเนี่ยนะ ก็ควรจะใส่แว่นตากันแดดถ้าเกิดสมมุติว่าท่านทํางานเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์หรือช่างเชื่อมอะไรต่างๆเนี่ย ก็ควรจะใส่ป้องกัน พวกประกายไฟหรือแสงไฟ เพื่อป้องกันอาการปวดล้าจากแสงที่มากเกินไปนะ
- ใช้อุปกรณ์กรองแสงต่างๆ
เช่น อาจจะเป็นแผ่นฟิล์มกรองแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ แผ่นฟิล์มกรองแสงของโทรศัพท์ หรือว่าอาจจะเป็นแว่นตัดแสง เพื่อให้การอ่านของเราเนี่ยสบายตามากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการนั่งหน้าพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ
การนั่งหน้าพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ ที่ทําให้ดวงตาเนี่ยสัมผัสกับลมโดยตรง เพื่อป้องกันอาการตาแห้ง
*นอกจาก 7 ข้อที่กล่าวมานั้นเนี่ย ยังจะมีเรื่องของการรับประทานอาหารเพื่อบํารุงสายตาด้วยครับ เช่น ปลาทะเลไข่ถั่ว ส้ม มะนาว และผักใบเขียว ก็จะช่วยให้สายตาเราดีขึ้น และลดอาการตาล้าได้เป็นอย่างดี*