เจ้านางจอมขมังเวทย์แห่งเชียงตุง
นครเชียงตุง..นครแห่งขุนเขาที่งดงามซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางภูผาและที่นี่คืออีกหนึ่งตำนานที่งดงามและมีเรื่องเล่ามากมาย..เวลาที่เราพูดถึงเจ้านางแน่นอนที่ที่เราจะนึกถึงก็คือเชียงตุงขึ้นมาเป็นอันดับแรกในสมอง..ความงดงามแห่งบ้านเรือนความงดงามแห่งวิถีชีวิตและความงดงามแห่งวัฒนธรรมก่อเกิดขึ้นมาเป็นเรื่องราวขึ้นมากมาย...ก่อนที่เชียงตุงจะต้องการเป็นหนึ่งในรัฐของพม่าครั้งหนึ่งเชียงตุงเคยมีสัมพันธไมตรีอันดีงามกับอาณาจักรสยาม..และเรื่องราวของราชสำนักของเชียงตุงก็เป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะเรื่องราวของเจ้านางผู้มากไปด้วยความงามและคำร่ำลือถึงความเป็นจอมขมังเวทย์
เจ้านางบัวสวรรค์เป็นธิดาในเจ้าก้อนแก้วอินแถลงเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุงหรือที่เรียกอย่างลำลองว่าเจ้าฟ้าเฒ่าและเจ้านางจันฟอง เจ้านางบัวสวรรค์เป็นที่โปรดปรานของเจ้าฟ้าและทุกคนในหอหลวงเพราะว่ามีหน้าตาหมดจดงดงาม
บรรดาธิดาเจ้าขุนส่าและเจ้าแว่นแก้วแห่งเมืองล๊อกจ๊อกยังกล่าวชมว่าเจ้าบัวสรรค์นั้นงดงามที่สุด
ในสมัยนั้นชีวิตในหอหลวงเมืองเชียงตุงรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด เจ้านายชายหญิงในราชสำนักได้รับการศึกษาเป็นอย่างดี ในขณะที่เจ้านายทางหัวเมืองล้านนายังคงนั่งช้างนั่งเกวียนแต่เจ้านางบัวสวรรค์มักขับรถไปพักผ่อนที่ดอยเหมยซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่เปรี้ยวและนำสมัยมาก มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งบรรดาเจ้านางไปพักผ่อนกันที่ดอยเหมย มีเจ้านางองค์หนึ่งถูกผีเข้า เจ้านางบัวสรรค์ต้องขับรถมารับเจ้าฟ้าเฒ่าที่หอหลวงเพื่อไปไล่ผี
เจ้านางบัวสวรรค์สืบทอดคาถาอาคมจากเจ้าฟ้าเฒ่ามาทั้งหมดและครองตัวเป็นโสดมาตลอดชีวิต หรืออีกสาเหตุหนึ่งคือเจ้านางเพียบพร้อมไปด้วยรูปและทรัพย์สมบัติจึงไม่มีชายใดที่เหมาะสมเป็นคู่ครอง เจ้านางบัวสวรรค์มีสิ่งของราคาแพงใช้ อาทิเช่น ซิ่นไหมคำปิง ที่เจ้านางสุคันธาเล่าว่า
“ เจ้าพี่บัวสวรรค์นั้นเป็นคนสวย หุ่นดี คงมีซิ่นไหมคำปิงอยู่หลายผืนกระมัง..... .เจ้าปี้บัวสวรรค์เปิ้นฮ่างงาม ของเปิ้นมีนักก้าหา..."
เมื่อเจ้ากองไทพี่ชายร่วมมารดาของเจ้านางบัวสวรรค์ขึ้นเป็นเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุง ในวันที่เกิดเหตุการณ์ลอบปลงพระชนม์เจ้ากองไท เจ้านางเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและเห็นหน้าคนร้าย แต่ทว่าเจ้านางก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นใครเเละความลับนี้ก็ตายไปพร้อมกับเจ้านางบัวสวรรค์นั่นเอง
เจ้านางบัวสวรรค์เดินทางมาบางกอกอยู่หลายครั้ง เมื่อหอหลวงเชียงตุงล่มสลาย เจ้านางอยากจะมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่กับพี่น้อง แต่ด้วยเหตุผลบางประการเจ้านางบัวสวรรค์จึงต้องอยู่ที่เมืองเชียงตุงจนกระทั่งถึงแก่กรรมที่หอใหม่เมืองเชียงตุง
...เจ้านางเป็นผู้ถือกุญแจหีบสมบัติท้องพระคลังหลวง และดูแลการเงินส่วนพระองค์ของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง ผู้เป็นราชบิดา บางคนเรียกว่า “เจ้านางเศรษฐี” เพราะนอกจากจะได้รับมรดกของเจ้าย่าทั้งหมดแล้ว ยังได้รับถ่ายทอดเทคนิคการเจรจาการค้าพร้อมกับถูกมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลการเงินส่วนพระองค์ ของเจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง รวมถึงเป็นผู้ถือกุญแจท้องพระคลังอีกด้วย
เจ้านางเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถพูดได้คล่องแคล่วถึง 4 ภาษาคือ ภาษาไทเขิน พม่า ไทย และอังกฤษ
ได้รับสืบทอดคาถาอาคมจากเจ้าฟ้าเฒ่า(เจ้าฟ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง ผู้เป็นพระบิดา)มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่ง บรรดาเจ้านางไปพักผ่อนกันที่ดอยเหมย มีเจ้านางองค์หนึ่งถูกผีเข้า.. เจ้านางบัวสรรค์ต้องขับรถมารับเจ้าฟ้าเฒ่าที่หอคำเพื่อมาไล่ผี… กล่าวกันว่าเจ้านางบัวสวรรค์ได้รับสืบทอดคาถาอาคมจากเจ้าฟ้าเฒ่ามาทั้งหมด (ปกติจะถ่ายทอดให้ฝ่ายชาย) เจ้านางยังเคยแสดงวิชาให้เห็นประจักษ์ ในคราวช่วยเจ้าฟ้าขุนศึกมังรายจากการคุมตัวของทหารพม่าที่นครย่างกุ้ง
เจ้าขุนศึกได้รับโทรเลขจากย่างกุ้งให้ไปประชุมมีกำหนดสองวัน จึงรับคำเชิญไปโดยเครื่องบิน ออกจากเชียงตุงในตอนเช้า เวลาสิบโมงและเมื่อไปถึง ก็เจอทหารพม่ามาพาตัวไปกักกันไว้ และไม่ให้ใครทราบว่าอยู่ที่ใด
คหบดีคนเชียงตุงที่ไปค้าขายที่ย่างกุ้ง ได้แอบส่งโทรเลขมายัง เจ้านางบัวสวรรค์ว่าเจ้าขุนศึกถูกกักขังโดยทหารพม่าไม่ทราบว่า ไปที่ใด ขอให้เจ้านางขึ้นไปด่วน และพักที่บ้านของเขา
เมื่อเจ้านางทราบเรื่อง คืนนั้นเจ้านางก็นำบริวารหญิง ชายมาที่โถง เจ้านางบัวสวรรค์เลือกเด็กสาวที่ขวัญอ่อนที่สุดมาปิดตาให้สนิทและให้หันหน้าไปยังเมืองย่างกุ้ง และท่องคาถาที่ได้รับการถ่ายทอดจากเจ้าพ่อ และบอกให้เด็กมองเข้าไปในเมืองย่างกุ้ง ถ้าเห็นแล้วให้บอก
เมื่อเด็กเห็นแล้วก็บอกว่า เห็นเมืองย่างกุ้งแล้วเจ้านางบัวสวรรค์ก็สั่งให้มองเข้าไปในเมืองย่างกุ้ง และให้มองหาดูว่าเจ้ายอดศึกเป็นเช่นไร อยู่ ณ ที่ใด เด็กตอบว่าเห็นเจ้าขุนศึกอยู่ในบ้าน จากนั้นเจ้านางบัวสวรรค์ก็ถามว่า เจ้าฟ้าขุนศึกเป็นอย่างไร เด็กก็ตอบว่า เจ้าอยู่ในห้องเพียงผู้เดียว ไม่ได้รับอันตรายใดๆ
เมื่อทราบเช่นนั้น วันรุ่งขึ้นเจ้านางบัวสวรรค์ก็ได้ออกเดินทางไป ย่างกุ้ง และสั่งการจัดทำพิธีบูชาที่หอหลวง โดยให้หม่อมธาดา ภริยาเจ้าขุนศึก ทำพิธี 11 วันโดยทำของบูชา ไปถวายตามจุด ที่เจ้านางบัวสวรรค์บอกไว้ติดต่อกันทำอย่างนี้ด้วยจิตบริสุทธิ์ และครบถูกวิธีเจ้าขุนศึกจะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระทันทีในช่วงวันทำพิธี เจ้าแม่นางบุญยวงได้มานั่งเป็นประธานสั่งการ บริวาร อย่างละเอียด
ในวันสุดท้ายของพิธีบูชาเป็นการส่งเคราะห์นพเกล้า เอารูปเจ้าฟ้า และ เสื้อผ้าใส่ในพิธีนี้ด้วย ปรากฎ ผลบุญบัลดาลให้เจ้าฟ้าขุนศึก ได้รับการปล่อยตัวกลับเชียงตุง พร้อมเจ้านางบัวสวรรค์ ครบสิบเอ็ดวันพอดี……… หลังจากนั้นเจ้าขุนศึก ก็อพยพมาอยู่เชียงใหม่ และไม่กลับไป เชียงตุง อีกเลย
เด็กสาวขวัญอ่อน จะมองเห็นเมืองย่างกุ้งได้อย่างไร ในคืนวันนั้นช่างเป็นความลึกลับ ชวนฉงนในอาคมคาถาของเจ้านางบัวสวรรค์ เจ้านางบัวสวรรค์ผู้รักหวงแหนนครเชียงตุง และ ประทับในหอใหม่ จนวินาทีสุดท้าย หีบศพเจ้านางอยู่ในห้องรับแขกชั้นบน หน้ามุขหอใหม่ เมื่อสิ้นเจ้าบัวสวรรค์แล้ว หอหลวง และ หอใหม่ ก็ถูกทหารพม่ารื้อ ไม่มีเหลืออีกต่อไป
โดยปัจจุบันรัฐบาลพม่าได้นำหอหลวงเชียงตุงมาปรับปรุงเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงตุงและกำลังมีการจำลองหอหลวงเชียงตุงขึ้นบริเวณใกล้กับหนองตุงในปัจจุบันนี้
อ้างอิงจาก: ย้อนอดีตด้วยภาพ, หอหลวงเชียงตุง