มันม่วง หรือ มันเทศ ทานอะไรมีประโยชน์กว่ากัน
มันเทศและมันม่วงเป็นมันเหมือนกัน แต่มันม่วงได้รับความนิยมมากกว่า และยังคงนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะหลายคนคิดว่าคุณค่าทางโภชนาการของมันม่วงน่าจะสูงกว่า แต่เรื่องนี้จริงหรือเปล่า? มาดูกัน
มันม่วงมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่ามันเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับมันเทศ มันม่วงมีสารอาหารที่ไม่พบในมันเทศ นั่นก็คือ แอนโทไซยานิน บทบาทของแอนโทไซยานินคือการปกป้องตับ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือดและ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ พูดง่ายๆ ก็คือ มันม่วงสามารถป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดในสมองได้ และความเสี่ยงต่อสุขภาพของคนยุคใหม่ส่วนใหญ่ก็มาจากโรคเหล่านี้ ในเวลาเดียวกัน ปริมาณซีลีเนียมในมันม่วงจะสูงกว่าในมันเทศมาก ส่วนผสมทั้งสองนี้ถือเป็นสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ ดังนั้น มันม่วงจึงมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่า
การรับประทานมันม่วงมากเกินไปก็ทำให้อ้วนไม่ต่างจากมันเทศ เพราะมันม่วงมีแป้งจำนวนมากเช่นเดียวกับมันเทศ มันอบเป็นผลิตภัณฑ์อย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมของมันม่วง ซึ่งมีการบีบอัดปริมาตร การกินมันม่วงหนึ่งชิ้นเทียบเท่ากับการรับประทานมันม่วงสุกโดยตรงครึ่งหนึ่ง หากรับประทานในปริมาณมาก จะทำให้ได้รับแป้งมากเกินไป แป้งจะถูกย่อยสลายเป็นน้ำตาลในร่างกายมนุษย์ น้ำตาลที่มากเกินไปไม่สามารถบริโภคได้หมดและจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันทำให้เกิดโรคอ้วน
ข้อควรระวังในการทานมันม่วง
1.ผู้ที่แพ้มันม่วงไม่ควรรับประทาน
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมันม่วงหากแพ้ เพราะมันม่วงก็อาจกลายเป็นสารก่อภูมิแพ้ได้เช่นกัน การรับประทานมันม่วงอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น ผิวหนังแดงบวม ท้องเสียบ่อย อาหารไม่ย่อย ปวดศีรษะ เจ็บคอ หอบหืด เป็นต้น
- มันม่วงไม่สามารถรับประทานดิบได้
บางคนต้องการความสะดวก จึงมักจะล้างมันและกินมันทั้งดิบๆ ซึ่งการกินมันม่วงดิบเป็นสิ่งที่ผิด ในมันม่วงมีแป้งเป็นจำนวนมาก เมื่อมันเข้าสู่ร่างกายมนุษย์โดยตรง มันจะ... ย่อยยาก เฉพาะเมื่ออุณหภูมิสูงเท่านั้นร่างกายมนุษย์จึงจะดูดซึมและนำไปใช้ได้ ดังนั้น มันม่วงจึงไม่เหมาะสำหรับการรับประทานดิบ
- มันม่วงไม่ควรรับประทานเพียงอย่างเดียว
แม้ว่ามันม่วงจะดี แต่ก็มีสารอาหารที่ค่อนข้างน้อย การรับประทานมันม่วงเพียงอย่างเดียวในแต่ละวันไม่สามารถตอบสนองความต้องการของร่างกายในด้านโปรตีนและสารอาหารอื่น ๆ ได้ และยังอาจนำไปสู่ภาวะทุพโภชนาการในร่างกายมนุษย์ได้ง่าย ดังนั้นเมื่อรับประทานมันม่วง ควรทานร่วมกับอาหารที่มีโปรตีนสูง ซึ่งจะทำให้สารอาหารมีความสมดุลมากขึ้น และช่วยให้ร่างกายดูดซึมและนำสารอาหารไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น