ขุนโจรที่รัก (ระเบียงไม้กับแสงจันทร์)
นิยายเรื่อง ขุนโจรที่รัก (นามปากกา มาศอุไร) นิยายแนวโรมานซ์
วางจำหน่าย ในรูปแบบนิยายออนไลน์ (ebook)
แพลตฟอร์มที่วางจำหน่าย : Meb ธัญวลัย นายอินทร์ Ookbee
สามารถ เข้าอ่านเนื้อหา ฉบับเต็มได้ตาม แพลตฟอร์มนิยายชั้นนำทั่วไป อาทิเช่น...
( Dek-d , readAwrite , ธัญวลัย , Hongsamut , fictionlog )
ถ้าไม่อยากเสียเวลารออ่านนานๆเชิญโหลดซื้อ ebook มาอ่านกันตรงนี้เลยนะคะ
*ลิงค์สำหรับดาวน์โหลด Ebook ฉบับเต็ม ขุนโจรที่รัก ได้ที่ (Meb) ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ* -
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTA5NTcwOSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjIyOTI1NyI7fQ
*สามารถเข้าอ่านนิยาย ขุนโจรที่รัก ฉบับเต็มได้ที่ (ธัญวลัย) ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ -
https://www.tunwalai.com/story/692684
*แฟนเพจ: กนกรส* https://www.facebook.com/กนกรส-1742298989361370/
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/1536423
(ระเบียงไม้กับแสงจันทร์)
คำแก้วนั่งน่าเศร้าอยู่ข้างเศรษฐีหม่าน หลังจากแกได้รับจดหมายตอบกลับจากคนของหมู่บ้านสีดอกถึงข่าวคราวของบุตรสาวคนโต กว่าเศรษฐีหม่านจะทราบข่าว ก็ปาเข้าไปเป็นอาทิตย์นู่น โดยที่ตัวแกในฐานะพ่อทำอะไรไม่ได้เลย...นอกจากนั่งรอเพียงวิธีเดียว เพราะไม่มีใครหน้าไหน กล้าเฉียดเข้าใกล้หมู่บ้านต้องห้ามแห่งนี้ ต่อให้แกใช้เงินทองมากมาย ก็ไม่มีใครยอมเสี่ยงตายเข้าใกล้หมู่บ้านสีดอกอยู่ดี...
เศรษฐีถอนหายใจ ยามนึกถึงกิตติศัพท์ของหมู่บ้านต้องห้ามแห่งนี้...
หมู่บ้านสีดอก มันเป็นหมู่บ้านต้องห้าม เลื่องลือกันปากต่อปากมานานนัก...ห้ามผู้ใดทะเล่อทะล่าเข้าไปในเขตพื้นที่ของหมู่บ้าน ถ้าหากยังไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้ากลุ่มโจรเสียก่อน
ดูเหมือนคำร่ำลือดังกล่าวจะเป็นเรื่องจริงเสียด้วย
เมื่อไอ้เศรษฐีบุญมาเกลอเก่าของเขา ดันเสือกหาเรื่องตาย มันระดมคนหนุ่มนิสัยละโมบได้จำนวนหนึ่ง หมายเข้าปล้นหมู่บ้านสีดอก เป็นคนธรรมดาอยู่ดีๆไม่ชอบดันเสือกทะลึ่งอยากจะเป็นโจร แถมโจรปลอมลงมือปล้นโจรจริงเสียด้วย ผลลัพธ์ที่ได้น่ะเหรอ...เศรษฐีหม่านถึงกับส่ายหัว
ปรากฏว่าทุกคนตายเรียบไม่รอดชีวิตกลับมาสักคนเดียว...
แกยังจำความสยดสยองตอนนั้นได้ติดตา มันเป็นภาพน่ากลัวจนขนหัวลุก
ก็เพราะว่าทุกคนที่เข้าปล้นในวันนั้น เหลือกลับมาเพียงศีรษะกับดวงตาที่เหลือกถลน ถูกเอามาโยนทิ้งไว้หน้าหมู่บ้านราหู สร้างความตื่นตระหนกตกใจแก่คนทั้งหมู่บ้าน จนเก็บเอามาเล่าขานกันปากต่อปากจนถึงทุกวันนี้...
เศรษฐีหม่านเคยเจอหน้ามากอยามาราวสองครั้ง การเจอกันทุกครั้งมิใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นเพราะตัวของเศรษฐีหม่านนี่เองแหละ...คอยสอดส่องคนของมากอยา แล้ววางอุบายทำทีเป็นบังเอิญมาเจอ เพราะแกหวังอยากใช้ชื่อเสียงของไอ้ขุนโจรนั่นช่วยขยับขยายรากฐานการทำมาหากินให้เลื่องลือยิ่งขึ้นกว่าเดิม
และก็เป็นตัวเศรษฐีหม่านนี่แหละ ออกปากเชื้อเชิญให้ไอ้ขุนโจรผู้เหี้ยมโหดมาทำความรู้จักกับเขาถึงบ้าน ใครจะรู้ว่าความคิดละโมบเพียงหนเดียวนั้นแท้ๆ กลับนำพาความสูญเสียครั้งใหญ่โตมาสู่ชีวิตของคนเป็นพ่อ...
ทำให้เศรษฐีหม่านต้องสูญเสียบุตรสาวอันเป็นที่รักไปโดยไม่ทันตั้งตัว ถึงข้อความในจดหมายคำหวานยืนยันว่ายังอยู่ดีมีสุข และขอไม่ให้พ่อเป็นกังวล หากหัวอกคนเป็นพ่อมันก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี...
“พี่คำหวานเป็นอย่างไรบ้างจ๊ะพ่อ”
“ก็คงอยู่สุขสบายตามประสาเมียโจร”
คำแก้วเงยหน้ามองบิดาตาปริบ เข้าใจความหมายในคำตัดพ้อที่ท่านพูด เพราะรายละเอียดที่พี่คำหวานเขียนมาในจดหมาย บอกให้พ่อไม่ต้องเป็นห่วงตอนนี้ตนเองตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านสีดอกกับผัวโจร ไม่ขอกลับหมู่บ้านราหูอีกตลอดชีวิต
“พ่อจะยอมหรือจ๊ะ พี่ขุนโจรอะไรนั่นจะรักพี่หวานจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“แล้วเอ็งจะให้พ่อทำยังไง ในเมื่อพี่สาวเอ็งมันตกเป็นเมียของไอ้มากอยาไปแล้วแบบนั้น เอากลับมาใส่ตะกร้าล้างน้ำ ก็คงไม่มีใครเขาเอา...และที่แน่ๆ ไอ้มากอยามันจะยอมปล่อยพี่สาวเอ็งกลับมาหรือเปล่า...”
“แต่แก้วเป็นห่วงพี่คำหวาน”
“พ่อก็ห่วง ห่วงจนใจจะขาดอยู่นี่ไง...ที่พี่สาวเอ็งต้องไปตกระกำลำบาก มันเป็นเพราะพ่อคนเดียวแท้ๆ...”
คนเป็นพ่อคร่ำครวญ ใบหน้าอวบอูมบิดเบี้ยวยามเมื่อมีน้ำใสๆไหลอาบ คำแก้วผวาเข้ากอดพ่อ ปลุกปลอบท่านให้คลายจากความเศร้าเสียใจ สายตาหวานอมเศร้าเปล่งประกายพราวระยับ กลีบปากสวยยกสูง กลบริ้วรอยของความโศกเศร้าต่อหน้าผู้ให้กำเนิดเมื่อสักครู่จนหมดสิ้น...
--------------------------------------------
คำแก้วรีบตลบผ้านุ่งของเธอลงคลุมสิ่งล่อตาล่อใจ เจ้าตัวขยับถอยห่างจากร่างบึกบึน มันมีกล้ามสีทองแดงเป็นมัดสวย ใบหน้ารกรุงรังด้วยหนวดเครา ตอนนี้มันกำลังยืนหอบหายใจถี่ระรัว คร่อมร่างเธอเอาไว้ติดกับโคนต้นไม้ใหญ่หลังทางเข้าหมู่บ้านราหู...
คำแก้วรู้สึกสะอิดสะเอียนต่อความกักขฬะของไอ้หนุ่มจากบ้านขุนโจร แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ในเวลานี้เธอไม่มีทางเลือกอื่น ทั้งที่ก่อนหน้าเธอเคยเสนอเงินก้อนใหญ่ให้มันแท้ๆ แต่มันกลับไม่ต้องการ แต่กลับขอแลกเปลี่ยนเป็นการร่วมหลับนอนกับคำแก้วสักครั้ง...
คำแก้วต้องการให้มันช่วยทำงานสำคัญให้ เลยจำยอมฝืนทนให้มันเสพสมผ่านทางร่างกาย ด้วยถือเป็นการจ่ายค่าจ้างล่วงหน้า แถมยังได้เปลี่ยนรสชาติใหม่ๆ ตอบสนองอารมณ์ซ่อนเร้นของคำแก้วไปในคราเดียวกัน
ถ้าคำแก้วไม่ยอมฝืนใจปล่อยกายให้มันเชยชม งานใหญ่ที่คำแก้วเฝ้ารอคอยก็คงไม่สำเร็จเสียที หอกข้างแคร่ชิ้นสำคัญก็จะยังเดินเชิดหน้ารบกวนสายตาของคำแก้ว...และคำแก้วคงต้องยอมก้มหัวให้มันคอยโขกสับอยู่ร่ำไป...
สีสมานรูดลำดุ้นก่อนจะสะบัดทำความสะอาด ลูกสมุนของขุนโจรผู้เหี้ยมโหดยังไม่คิดเก็บมันเข้ากางเกง อารมณ์พิศวาสยังไม่มอดดับลงง่ายๆหรอกในเวลานี้ ก็อีคำแก้วมันสวย หุ่นมันก็น่าฟัดให้แหลกลาญคามือ ผิวพรรณขาวผุดผาด ใบหน้าหวานราวตาลเฉาะ ร่องสาวของมันยังคับแน่น สอดเสือกดุ้นเข้าใส่แตะละครั้ง ทั้งนุ่มทั้งลื่นจนเขาไม่อยากให้เสร็จง่ายๆ แต่สีสมานก็มีความอดทนไม่มากพอ ไม่อาจต่อต้านอารมณ์รุนแรงที่ถาโถมเข้าใส่จนต้องยอมปลดปล่อยน้ำเชื่อออกมาอยู่ดี ถึงจะกินสมุนไพรอึดของไอ้มะยอมาก่อนหน้านี้ก็ตาม ยังไงสีสมานก็ต้องยอมหลั่งเมล็ดสายพรรณอยู่วันยังค่ำอยู่ดี...
คิดๆไปแล้ว เขานี่แหม่งโคตรโชคดีชะมัด...อุตส่าห์ยังได้ลิ้มลองเนื้อหงส์รสชาตินุ่มลิ้นกับเขาสักครั้ง ไม่ต้องคอยเที่ยวหากินกับพวกเนื้อห่านหยาบกระด้างอย่างอีพวกสาวๆในบ้านของอีคำหร้า บ้านที่ให้ความสุขแด่บรรดาผู้ชายหนุ่มมากตัณหาอย่างพวกตน...
“อย่าเพิ่มรีบกลับเลย ขอให้ข้าเอาเอ็งต่ออีกสักน้ำไม่ได้หรือไงวะ ข้ายังไงไม่หายอยากสักเท่าไรเลย อยากเอาเอ็งอีกหลายครั้งด้วยซ้ำ”
สีสมานออดอ้อนเสียงหวานไปพร้อมกับมือหยาบลูบไล้บนผิวแก้มนวล นัยน์ตาดำเจ้าเล่ห์หรี่รอคอยคำตอบ เห็นท่าทางเรียบร้อยของมัน ตอนแรกยังหลงคิดหนักว่าคงต้องเสียเวลาสอนงาน พอเอาเข้าจริงอีนี่มันทำเอาเขาแปลกใจ เผลอตัวส่งเสียงครางเสียจนเสียงแหบแห้ง
อีกทั้งยังเป็นฝ่ายรุกสลับกับเป็นฝ่ายรับได้อย่างถึงใจ
เอาง่ายๆ อีนี่มันรู้จักต่อกรกับเขาได้ทุกกระบวนท่า พอเขาลุกขึ้นนั่งมันก็คลานขึ้นมาขย่มเขาราวกับเป็นแม่ม้าพันธ์คึก...โดยไม่ต้องสั่งสักคำ
ขย่มเขาที...เล่นเอาหัวหอกตัวดีมันรู้สึกปวดแสบปวดร้อน ร่ำๆว่าน้ำเขาจะแตกให้ได้ในบัดเดียวนั้นด้วยซ้ำ
ใครมันจะคาดคิดกันละว่า...ผู้หญิงทั้งสวยทั้งเรียบร้อยราวกับผ้าผับไว้ จะร่านร้อนถึงอกถึงใจ ตอบสนองอารมณ์ใคร่ของผู้ชายได้ถึงอกถึงใจไม่ต่างกับพวกสาวๆบ้านอีคำหร้า... แต่ก็น่าเสียดายชะมัด มันให้เขาเสพสุขได้เพียงครั้งเดียว...ของสดใหม่ขนาดนี้ ใครมันจะหายอยากกันล่ะวะ...
คนถูกอ้อนขอส่ายหัวดิก คำแก้วเงยหน้าส่งยิ้มหวานหยดเป็นการคลี่คลายสถานการณ์ชวนอาเจียนในเวลานี้...เพราะสำหรับคำแก้วกับไอ้โจรหน้าหื่น เพียงครั้งเดียวมันก็เกินจะรับประทานไหว ขืนให้มันทำต่อ คำแก้วคงได้อกแตกตายแน่ๆ ต่อให้มันมีท่อนซุงมหึมาแต่คำแก้วไม่ชอบผู้ชายหน้าตาสกปรก คำแก้วชอบผู้ชายหน้าตาสะอาดสะอ้านแล้วก็แต่งตัวดี แต่ไอ้นี่มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่คำแก้วชอบราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ
“ไม่ได้แล้วจ้ะพี่จ๋า ก็ไหนเราตกลงกันว่าแค่ครั้งเดียวเองไง พี่จะผิดคำพูดกับฉันรึ...” คำแก้วจีบปากจีบคอ ฉอเลาะด้วยคำอ่อนหวาน ดันร่างหนาให้ถอยห่างอย่างมีจริตจะกร้าน มืออีกข้างยังช่วยกันกลัดรังดุมเสื้อเป็นพัลวัน
“แล้วเอ็งอยากให้ข้าทำอะไรเพิ่มอีกไหมล่ะ นอกจากเอาภาพของพี่สาวเอ็งไปให้เพื่อนๆข้าดู”
“พี่ทำให้ฉันได้แน่หรือ?” สาวนิสัยหน้าไหว้หลังหลอกช้อนสายตาแล้วเอ่ยถาม
“ก็ลองว่ามาก่อน ได้หรือไม่ได้เดี๋ยวก็รู้กัน”
กระดุมเม็ดสุดท้ายถูกปล่อยทิ้งค้าง มือบอบบางวกกลับขึ้นมารั้งมันออกจนนมตั้งเต้าพุ่งทะยานตัวออกมาอีกคำรบ ดวงตากลมหวานเชื่อมเยิ้ม เจ้าตัวจงใจแอ่นร่างอ่อนเข้าหาลำกายแข็งแกร่ง สัมผัสอย่างบางเบายั่วเย้าด้วยปลายนิ้วหมุนวนอยู่บริเวณรอบฐานหัวนมสีดำคล้ำ
สีหน้าสีสมานสว่างวาบ
“ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพี่หรอก งานที่ฉันอยากให้พี่ทำให้เพิ่ม...”
คำแก้วจูบปากหยักที่มีกลิ่นแปลกน่าพะอืดพะอม
หากคำแก้วก็จำยอมฝืนใจสอดปลายลิ้นเล็กแหย่เข้าหยอกเอินภายในโพรงปากนั่น เรียกเสียงครวญครางของสีสมาน เขาหลับตารับความสุขล้ำ แต่ก็ให้ความรู้สึกรวดร้าวตรงปลายหัวรบจนตอนนี้สีสมานอยากจับมันมุดเข้าถ้ำสาวเสียให้ได้...
“อืม...อืม...อ๊า...อ๊า”
สีสมานหลุดเสียงครางระโหย กลีบปากร้อนชื้นของอีสาวบ้านราหูกำลังขบเม้มไปตามผิวกายเขา ลงต่ำไปเรื่อยๆอย่างไม่นึกรังเกียจ แต่จริงๆแล้วคำแก้วสุดที่จะฝืนใจเลยทีเดียว...
“เอ็งนี่มันของเด็ดจริงๆให้ตาย ทั้งสาวแล้วก็สวยกว่าคนพี่ เอ็งก็ดีกว่าทุกอย่าง แล้วไยเอ็งจะต้องคิดกำจัดมันด้วยล่ะหึ?...”
คนถูกถามชะงักไปนิด แล้วเคลื่อนไหวกลีบปากต่อ...
ความเสียวทำให้ลูกสมุนขุนโจรหยุดสงสัย เปลี่ยนเป็นเอนแผ่นหลังพิงเข้าหาลำต้นของต้นไม้ใหญ่ ลำขาแกร่งทั้งสองกางออกกว้าง ปล่อยให้ลูกตุ่มสองฝาแฝดห้อยโตงเตง...ตอนนี้กึ่งกลางลำโด่นั้นกำลังแข็งปัง และมันกำลังถูกมือนุ่มดึงไปรูดด้วยจังหวะไม่ออมแรง ผิวหนังขยับปลอกเปิด ส่วนหัวแดงแจ๋ร่านร้อน
สีสมานห่อปากร้องซีด เสียดเสียวจนต้องรีบคว้ามือตะปบลงกับเต้านุ่ม ทั้งบีบ ทั้งขยำ เคล้นคลึงจนหัวจะงอยบวมเป่ง เรียกเสียงครางแผ่วเบาในลำคออีสาวบ้านราหู
“เบามือให้ฉันหน่อยสิจ๊ะพี่จ๋า”
“อยากให้ข้าเบามือจริงหรืออีคำแก้ว”
“ถ้าพี่จะกรุณาฉัน...”
“ข้าจะกรุณาเอ็งให้มากๆ ให้ถึงใจ ก็แล้วกัน”
สีสมานดันหัวไหล่มนนั่งลงต่ำ คำแก้วเลียกลีบปากเพ่งสายตามองขนาดของอาวุธไอ้ลูกสมุนขุนโจรด้วยความพึงพอใจ
เอาเถอะ...เธอจะเห็นแก่อาวุธร้ายประจำตัวของมันก็แล้วกัน เพราะอย่างน้อยๆ ขอเพียงได้กำจัดอีพี่สาวตัวดีออกไปจากชีวิตได้อย่างถาวรมันก็คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม...
แล้วหัวหอกก็ถูกครอบด้วยริมฝีปากทั้งดุ้น เจ้าตัวโก่งคอสลับสับเปลี่ยนทั้งดูดทั้งเลียจนน้ำลายเอ่อล้น สีสมานตัวสั่นเทิ้ม เขาขยุ้มเส้นผมอ่อนนุ่มจนข้อนิ้วเกร็งขนัด ตัวเขาแทบระเบิดแต่เขาจะไม่ยอมปลดปล่อยมันออกมาในตอนนี้แน่ๆ ยังไงเขาต้องยืดระยะเวลาเล่นสนุกกับอีกสาวผู้ดีคนนี้ออกไปเท่าที่เขาจะทนรับไหว...
----------------------------------------
คำหวานนอนเป็นไข้อยู่ราวสองวัน ร่างกายคำหวานถึงได้ฟื้นตัวกลับมาแข็งแรงตามเดิม คำหวานได้รับการดูแลเอาใจใส่จากไอ้คนใจทราม คนที่มันรังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิงไร้ทางสู้ แต่ไปๆมาๆจากที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ มันกลับเป็นตัวเธอที่คอยจะร่ำร้องมองหาแต่เขาอยู่เรื่อยเลย...
‘นั่นแกจะไปไหน’ คำหวานส่งเสียงถามพยายามยันร่างอ่อนเพลียขึ้นนั่ง เรือนร่างที่ตอนนี้สวมเพียงผ้าถุงผืนเดียวเป็นกระโจมอกไว้เกือบล้มพังพาบ ดีที่มากอยาปรี่เข้ามารับไว้เสียก่อน ดวงตาทั้งคู่สบกันอย่างลึกซึ้ง
‘แล้วเมื่อกี้แกจะทิ้งฉันไปไหนล่ะ’ ถามเสียงติดแง่งอนโดยไม่รู้ตัว
‘ก็จะไปเอายามาให้ เอ็งนอนรอข้าตรงนี้ก่อน ไม่ต้องลุกขึ้นนั่ง’
‘ก็ฉันหิวน้ำ...’
‘งั้นรอข้าเดี๋ยว’
มากอยาทำท่าจะลุกขึ้นเดินมาหยิบกระบอกน้ำดื่มที่เขาแขวนเอาไว้ตรงข้างฝาบ้าน วินาทีนั้นเองขุนโจรมีอันต้องล้มลงบนร่างกลมกลึง ใบหน้าหล่อดุถึงกับเหวอเมื่อถูกดึงให้เสียหลักล้มคว่ำเข้าหาความอวบอิ่มของวัยสาวสะพรั่ง เลือดในตัวเขาชักเริ่มร้อนฉ่า
‘ฉัน...เอ่อ...ไม่ได้อยากดื่มน้ำนั่นสักหน่อย’
เสียงหวานอ้อมแอ้มพูด ดวงตาแววหวานเอาแต่คอยหลบซ่อนจากความรู้สึกกระดากอายต่อสิ่งที่ตัวเองปรารถนาราวกับเป็นผู้หญิงในบ้านของอีคำหร้า…
ส่องโสเภณีในหมู่บ้านที่พ่อหม่านของคำหวานมักชอบแวะเข้าไปเที่ยวเล่นสม่ำเสมอ มาพักหลังๆพออายุของพ่อหม่านเยอะขึ้น เลยเปลี่ยนเป็นนานๆครั้งถึงจะเข้าไปเที่ยวสักที แต่พ่อหม่านก็ยังมีอีหนูเล็กๆ แอบซ่อนหูซ่อนตาคำหวานไว้หลายหลัง คำหวานรู้แต่คำหวานเบื่อ คำหวานเลยทำเป็นไม่สนใจ
‘โธ่!เอ็งอยากดูดน้ำจากแท่งของข้านี่เอง’ มากอยาหัวเราะเสียงลั่น เขาก้มหน้าส่งสายตาล้อเลียนอีสาวบ้านราหู
‘นี่แกอย่ามาล้อฉันเล่นนะ ไอ้คนบ้า’
คำหวานทำหน้ายู่ทุบกำปั้นลงบนแผ่นหลังกว้าง ขุนโจรหนุ่มหยุดหัวเราะ เปลี่ยนเป็นกดริมฝีปากเข้าหาแก้มนุ่มอย่างนึกมันเขี้ยวแทน
‘วันหลังถ้าอยากให้ข้าเอาก็บอกกันตรงๆ ข้าพร้อมทำให้เอ็งอยู่แล้ว’
‘ก็ฉันไม่ใช่ผู้หญิงในส่องโสเภณี ถึงจะได้หน้าหนาหน้าทนพูดขอในเรื่องสัปดนได้โดยไม่กระดากอายนี่’
มากอยาหัวเราะออกมาอีกครั้ง เขากอดร่างนุ่มไว้แนบอก
‘เอ็งมันสวยกว่าอีพวกนั้นอยู่แล้วละ เอ็งสบายใจได้’ คำชมนั้นทำเอาใบหน้าสวยงอหงิก คำหวานไม่รู้ตัวสักนิดเธอกำลังหึงหวงคนที่ตัวเองออกปากว่าเกลียดแสนเกลียดอยู่
‘ที่แกพูดแบบนี้หมายความว่าไง...แสดงว่าแกเคยไปเที่ยวหาความสุขมาใช่หรือไม่’
‘เอ็งกำลังหึงข้าอยู่นะ รู้ตัวหรือเปล่า’
‘ฉันไม่ได้หึง...’ใบหน้าแสนงามสะบัดหนี ยิ่งทำให้มากอยายิ้มกริ่ม
‘ไม่หึงก็ไม่หึง เอ็งอย่ามัวมาชวนข้าทะเลาะอยู่เลย มันเสียเวลา’
มากอยาทอดเสียงอ่อน ดันใบหน้าคนขี้งอนมาใกล้แล้วบรรจงจูบงอนง้ออยู่ชั่วครู่ก่อนขุนโจรจะเกลือกใบหน้าเข้าหาซอกคอหอมกรุ่น
มือไม้...ก่อนหน้าคอยประคับประคองร่างแน่งน้อยอย่างทะนุถนอม เปลี่ยนมาป้วนเปี้ยนไม่ห่างยอดประทุมงาม บีบเคล้นเล่นอย่างสนุกมือ หัวจะงอยสีหวานเองกำลังตั้งชูชันล่อตาล้อใจ ก่อนมือหยาบจะเลื่อนลับหายลงสู้กลีบสาวอวบอูม บดบี้ติ่งเสียวเน้นๆทุกจังหวะ กรีดปลายนิ้วเรียวยาวลงกับรอยแยกเนื้อหวาน แต่ไม่ยอมผลุบเข้าหาภายในโพรงสวรรค์
เลยสร้างความทรมานแก่เจ้าตัวที่เอาแต่ส่งเสียงร้องครวญคราง
‘อะ...อ๊า...อ๊า...อ๊า...อืม’
ผ้าถุงผืนบางถูกปลดจนร่นลงมากองตรงบริเวณหน้าท้องแบนราบ ผิวกายของทั้งคู่จึงได้สัมผัสแนบแน่นกันยิ่งกว่าเก่า
ดวงตางามวูบไหวฉายแววแห่งความสุขสมหวัง กลีบปากนุ่มเคลื่อนตัวเข้าหากลีบปากร้อนระอุ พิษไข้ที่เพิ่งเริ่มจะบรรเทาเบาบางมาไม่กี่ชั่วโมง มาตอนนี้พาลจะยิ่งทำให้อุณหภูมิกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง หากทว่าคำหวานกลับไม่ได้สนใจไยดี...ได้มากเท่ากับอารมณ์และความต้องการของตัวคำหวานเอง
คำหวานอยากให้เขาทำเหมือนที่ทำมาด้วยกันหลายวัน...
มือนุ่มลูบไล้ลงต่ำก่อนกอบกุมเข้าหาลำเอ็นเท่าข้อมือเด็ก รูดสาวจนมันขยับขยายตั้งลำสู้ฝ่ามือ กางเกงผ้าจึงถูกสลัดออกจนพ้นสะโพกตึงแน่น โชว์แก้มก้นขาวเพราะไม่ค่อยถูกแสงแดดมากเท่ากับอวัยวะส่วนอื่น
‘โอ้ว! ซีดดดดด’
มากอยาครางเสียงระโหยผ่านในลำคอ ผิวแก้มสองข้างแดงก่ำเกร็งขนัด ก่อนจะโก้งโค้งตัวขึ้น ปล่อยให้มือนุ่มได้ทำงานได้อย่างถนัดถนี่ แม้แต่สองไข่คู่แฝดก็ถูกมือนุ่มบดคลึงเล่นชนิดไม่มีการออมแรง
เล่นเอาน้ำมากอยาแทบพุ่งด้วยแรงบีบขยำที่หนักหน่วงถึงใจ...
ร่องสาวขับเอาน้ำขาวขุ่นฉ่ำวาวจนเจ้าตัวรู้สึกปวดร้าว คำหวานไม่อยากรั้งรอเวลาให้เนิ่นนาน เจ้าหล่อนจึงแอ่นร่างระแน้อ้อนแอ้นสอดเสียบเข้าหาปลายดุ้นใหญ่คล้ายกับดอกเห็ดยามมันเบ่งบานจนเต็มที่เสียเอง
สวบ...
จังหวะสอดเสียบนั้นทำเอาร่างงามสั่นสะท้าน เหงื่อแตกชุ่มโชก ผิวกายขาวลออซับเป็นสีชมพูน่ามอง
‘อู้ยยยย...ซีดดดดด ข้าเจ็บ’ คำหวานห่อปากร้องครวญคราง ต่อให้ร่องสาวเธอผ่านการใช้งานมาบ้างแล้ว หากทุกครั้งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าปลายดุ้นจะดันให้ถึงสุดปลายโคน
มากอยาเองเขาก็หรี่ตาคมมองเมียที่ตัวยังไม่ยอมรับอย่างนึกเห็นใจ ใบหน้าหวานนั้นบิดเบี้ยวเหยเก เขาจึงโน้มใบหน้าคมเข้มเข้าหา มอบจูบแสนหวานหมายช่วยคล้ายความทรมาน...ให้เจ้าตัวหายอาการอึดอัด
หรือบรรเทาเบาบางลงบ้างก็ยังดี
บางทีมากอยาก็นึกสงสารคำหวาน...กับการที่เจ้าหล่อนต้องมาคอยลองรับความใหญ่โตเกินมนุษย์ธรรมดา กลีบหวานแดงแจ๋ปลอกปลิ้นไปตามแรงขยับ ยิ่งตอนมีแท่งร้อนเสียบคาเอาไว้...เห็นแล้วพาจะทำให้ขนลุกซู่
คำหวานต้องร่อนเอวคอดก่อนจะดันลำตัวเข้าหาอีกครั้ง โดยไม่คิดรั้งรอให้ผัวหมาดๆจ้วงแทงเจ้าสิ่งนั้นเข้าสวนกลับ เธออยาก เธอเร่าร้อน ทุรนทุราย ยิ่งรู้สึกเหมือนอุณหภูมิภายในตัวคำหวานมันจะเพิ่มปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ อารมณ์ใคร่ของคำหวานก็พลอยจะรุนแรงขึ้นตามลำดับด้วย
การที่คำหวานเป็นเช่นนี้นั้น...เหตุเพราะมันเกิดจากพิษของดอกเกสรดอกไม้ชนิดหนึ่ง มันให้ผลข้างเคียงคือกระตุ้นต่อมกำหนัดให้ทำงานเข้มข้นขึ้น รูเล็กเยิ้มด้วยน้ำทิพย์รสเลิศสัมผัสถูกผนังเนื้ออ่อน มันจมหายเข้าสู่ห้วงหฤหรรษ์จนสุดปลายโคนได้สำเร็จ
มากอยาแหงนใบหน้าคมส่งเสียงคำราม เขาถูกร่องสาวบีบรัดจนยากจะขยับเคลื่อนไหว จำต้องนิ่งแช่ค้างเอาไว้ในแอ่งหลืบคับแน่น พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เจ้าตัวก็ขยับปีกโบยบินราวกับผีเสื้อแสนสวย...
มันเต็มไปด้วยอารมณ์ตื่นเพลิดราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด
‘อู้ว!...ซีดดดดดด’
ตับ ตับ ตับ ตับ แรงขย่มสะโพกรุนแรงด้วยจังหวะบ้าคลั่ง อารมณ์เร่าร้อนสอดประสานราวกับคลื่นพายุ ร่างสาวถูกจับพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่หลายท่วงทำนอง ลืมเลือนไปด้วยซ้ำตอนนี้คำหวานกำลังเจ็บป่วยอยู่
จนกระทั่งน้ำคำหวานแตกไปหลายที ร่างของขุนโจรก็ยังขับเคลื่อนไม่มีหยุดพัก มือใหญ่ฟอนเฟ้นอกอวบ ก่อนมากอยาจะรีบชักเจ้าดุ้นดำทมิฬออกมาพำนักนอกโพรงสาว รีบนำมันมาส่งเข้ากลีบปากอิ่มที่เจ้าตัวเผยอรอคอยอย่างรู้งาน
เกิดลาวาร้อนฉีดพุ่งเข้าปากจนล้นเอ่อ คำหวานกวาดเลียทุกหยดด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย เธอยิ้ม สื่อสายตาเลื่อนลอย...
พอให้หายจากอาการคอแห้งลงได้หน่อยแต่ก็ยังไม่อิ่ม...
คนเผลอนึกถึงเรื่องราวซ่านสยิวแก้มร้อนผ่าว แอบส่งค้อนให้คนที่เป็นสาเหตุให้เธอต้องนอนซมต่ออีกราวหนึ่งวันหลังจากถูกเขาป้อนน้ำจนล้นกระเพาะเลยละมั้งวันนั้น...
วันนี้ร่างกายคำหวานไม่อ่อนเพลียอีกแล้ว หากถึงร่างกายจะเป็นปกติดี ทว่ามันติดตรงหัวใจเจ้ากรรมของคำหวานนี่สิ มันดันรู้สึกแปลกๆกับไอ้ขุนโจรตัวแสบ ไอ้คนที่พรากเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องของคำหวานไปอย่างหน้าด้านๆ...
ดวงตาหวานจับจ้องไปยังผัวหมาดๆ
เขานั่งหันหลังอยู่หน้าเตาถ่าน มือไม้คอยหยิบจับเครื่องทำครัวอย่างคล่องแคล่ว บนเตามีหม้อดำปี๋ตั้งไว้ มีควันลอยกรุ่นด้วยน้ำในหม้อแกงกำลังเดือดจัด โชยกลิ่นหอมของอาหารไปทั่วทั้งเรือนไม้ ทำเอาท้องไส้คำหวานก็ชักร้องประท้วง
หญิงสาวจึงตัดสินใจค่อยๆเดินมาชะโงกหน้ามอง ปลายปีกจมูกเล็กเคลื่อนไหวพะเยิบพะยาบด้วยกลิ่นหอมชวนให้น้ำลายสอ
“นั่นแกกำลังทำอยู่น่ะ? กลิ่นหอมเชียว”
“แล้วเอ็งเห็นว่าข้ากำลังอาบน้ำอยู่หรือไง...ก็เห็นๆอยู่ว่าข้ากำลังนั่งอยู่หน้าเตาไฟ”
หัวหน้าเหล่าขุนโจรผู้เหี้ยมโหดเอี้ยวใบหน้ารกรุงรังมาตอบ ดวงตาเขาคมวาววับดุดันราวกับเป็นดวงตาของสุนัขจิ้งจอกจับจ้องมายังผู้สาวที่ตัวเองฉุดคร่าเขามาจากอกบิดา...แล้วให้ต้องสะดุดกับร่องอกขาวอวบที่ดันโผล่พ้นชายเสื้อคอกว้างออกมาให้เห็นรำไร
คำหวานส่งค้อนควัก แล้วนั่งยองลงขนาบข้าง...
“ฉันถามดีๆนะ ทำไมต้องกวนประสาทกันอยู่เรื่อย”
“แล้วเอ็งถามข้าทำไม หรือว่าอยากได้ยาต้มสมุนไพรของข้าอีกสักหม้อ” มากอยาวางกะลามะพร้าวที่มีน้ำสีขุ่นไว้ข้างเตา หันตัวเองมาเผชิญหน้ากับหญิงสาว คว้าหมับเข้าให้กับเต้าสล้าง...
“นี่...แกจะทะลึ่งใหญ่แล้วนะไอ้โจรบ้า” คำหวานแหวเสียงแว้ดเข้าให้ คนถามดีๆแต่ดันทะลึ่งมาจับนมเธอเล่น
มากอยายังทำหน้าด้าน ด้วยการขยำนมต่ออีกสองสามทีแล้วเขาก็ฉุดร่างงามขึ้นมานั่งบนตักมันเสียดื้อๆ
“อุ๊ย!...” คำหวานร้องลั่น ตาเหลือกลานเพราะตรงนี้เป็นเชิงเรือนที่ต่อเติมออกมาโดยไม่มีข้างฝาปิดมิดชิด ใครเดินผ่านไปมาก็คงเห็น คำหวานจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ข้าคอแห้ง หิวนม ขอนมเอ็งกินหน่อยสิ”
คนหน้าด้านจู่ๆมาขอกินนมก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา
มากอยากระชากเสื้อคอกลมตัวโคร่ง หลุดปลิวผ่านศีรษะทุย ปลิวร่วงหล่นบนพื้นไม้กระดานสีน้ำตาลเข้ม จนคำหวานเหลือเพียงผ้านุ่งสวมใส่ปกปิดไว้เพียงส่วนล่างเท่านั้น ส่วนด้านบนน่ะหรือ...เปิดโล่งโจ้งท้าลมท้าแดดมันเสียงอย่างงั้นไป
มากอยารีบดันร่างงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์เข้ามาเบียดชิด คำหวานหมดหนทางร้องประท้วง ร่างงามของคำหวานถูกอัดแน่นเข้าหาหน้าอกแข็งแกร่งกำยำของผัว พร้อมกับรั้งท้ายทอยไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ดึงให้เงยหน้ารับจูบอันดูดดื่มของตัวเอง ส่วนมือข้างเหลือก็โป๊ะแหมะเข้าหาเต้านมอวบอิ่มขนาดล้นฝ่ามือ บีบเคล้นด้วยท่าทางเมามันจนหัวจะงอยขมวดตัวเกร็ง...
ชวนทำเอาเลือดลมสาวเจ้าร้อนฉ่า หลงเพลิดไปกับสิ่งเย้าอารมณ์อีกตามเคย...
“ข้าอยากเอาเอ็งตรงนี้” จูบจนพอหายอยาก มากอยาก็พูดเสียงแหบพร่า
“แต่ลูกน้องแกจะผ่านมาเห็นเข้า แล้วเอาไปโพนทะนานะ”
“ไม่มีใครกล้าเดินผ่านมาตรงนี้หรอก ถ้าข้าไม่เรียกหา”
“แน่นะ...เพราะฉันไม่หน้าด้านเหมือนอย่างแก ฉันอายคนเขา”
มากอยาไม่ตอบหากเขากดใบหน้าจูบปากจิ้มลิ้มนั้นจนบวมแดง สอดปลายลิ้นเข้าพัวพันเสียงดัง จ๊วบๆ
“อ๊า....อืม...อืม...” คำหวานปล่อยเสียงครางกระเส่าผ่านลำคอระหง ผ่อนปรนความรู้สึกไปตามอารมณ์หวามลึกที่ผัวโจรมอบให้อย่างถึงพริกถึงขิง
ถึงลึกๆแล้วคำหวานยังรู้สึกอ่อนใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
เพราะยังคลางแคลงใจกับคำบอกกล่าวของผัวโจร เอาจริงๆ ตรงนี้ไม่เหมาะนักหรอกถ้าหากจะมาระเริงรักท่ามกลางแสงจันทร์ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ หัวใจคำหวานเองมันดันเรียกร้อง อยากลองอะไรแปลกใหม่เหมือนกันนี่นา...
ตรงแถวก้นนุ่มสัมผัสได้ถึงความแข็งกระโด๊กราวกับสากกะเบือ มันทิ่มตำเข้าหาเนินเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ ให้ความรู้สึกราวกับร่องสาวเธอถูกบุกทะลวงด้วยไม้อันใหญ่โต หากความจริงเป็นเพียงแค่จินตนาการ ยังไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย แต่ก็คงอีกไม่นานหรอกคำหวานคงสมใจนึก
ผ้าถุงผืนน้อยหลุดร่วงเป็นชิ้นสุดท้าย จนไม่หลงเหลือสิ่งใดติดกายอ่อนนุ่ม มากอยาเองก็เช่นเดียวกัน บนตัวเขาตั้งแต่ท่อนบนยันท่อนล่างก็ปราศจากอาภรณ์สักชิ้น
ร่างกำยำชื้นด้วยเหงื่อมันวาว เน้นให้สรีระใหญ่โตของเขานั้นดูน่าพิศวงงวยงง
คำหวานตาโต ช้อนสายตาหื่นชื่นชมเรือนกายกำยำราวกับยักษ์ตัวใหญ่นี้ของผัวหนุ่ม...ยิ่งเป็นตรงนั้นของเขามันเกินกว่าคำว่า...สุดแสนพิเศษ
คำหวานหลง และปรารถนาต้องการมันเกือบทุกวินาทีนั่นแหละ คำหวานยอมรับ...
ดังนั้นฝ่ามือน้อยเลยลากเลื้อยลงต่ำ ก่อนคว้าหมับเข้าหาสากอันโตแล้วออกแรงบีบนวด เน้นจังหวะอย่างพอเป็นงาน ทำเอาผิวหน้ามากอยาเปลี่ยนเป็นแดงซ่าน ริมฝีปากห่อตัวเปล่งเสียงร้องครางประท้วง
เขาเสียดเสียวจนน้ำเกือบเล็ดไหลแหนะ คำหวานหัวดี เลยเป็นงานเร็ว เขาสอนเพียงไม่กี่ครั้ง เจ้าหล่อนก็มักเอากลับมาเล่นงานเขาได้ตลอด ทำเอาเขาปั่นป่วนไปทั่วทั้งตัว ต่อให้ต้องเคล้นพละกำลังทั้งหมดเพื่อการนี้ มากอยาก็ยอม หรือต่อให้ทำรักกันทั้งวันมากอยาก็ไม่มีถอย...
“อ๊า...เบามือหน่อยสิเมียจ๋า ประเดี๋ยวน้ำข้าได้แตกก่อนกระทุ้งเข้าใส่ในตัวเอ็งพอดี”
“ฉันไม่ใช่เมียแกสักหน่อย ปากพล่อย พูดจาไม่ดี...” สิ้นคำนั้นมากอยาก็ไถลใบหน้าที่รกด้วยหนวดเคราเกลือกกลิ้งอยู่แถวซอกคอหอมกรุ่น
คำหวานหลุดเสียงหัวเราะคิกคักหากก็ยังปฏิเสธโดยไว้ชั้นเชิง
โดยส่วนลึกนั้นคำหวานออกชอบใจที่ไอ้ขุนโจรปากเสียเรียกแทนคำหวานด้วยคำว่าเมีย อาจจะด้วยเขาเผลอหรือจงใจก็ตามแต่ ทว่าคำหวานก็รู้สึกดีอย่างน่าประหลาดใจ
แต่ในเรื่องให้เบามือ ไม่มีทางหรอกยะ...เรื่องอะไรคำหวานจะยอมออมมือให้ มีแต่จะลงน้ำหนักมือให้มากขึ้นน่ะสิไม่ว่า...หลายวันนี้แกทำให้ฉันเจียนบ้าตายมาตั้งหลายครั้งหลายครา พอถึงเวลาก็ต้องเอาคืนให้อย่างสาสมใจ...
คำหวานยิ้มย่อง ไหวปลายนิ้วมือไปทั่วทุกพื้นที่ขนาดใหญ่โต...
และอย่างไม่ต้องให้สอน สาวเจ้าออกแรงอันน้อยนิดผลักร่างใหญ่โตให้นอนหงายลงพื้น อาศัยช่วงจังหวะมากายอมึนงง กระถดบั้นท้ายงอนงามลงด้านล่าง อ้าปากคอบความยิ่งใหญ่จนเต็มคำ น้ำลายกระฉอกเลอะมุมปาก ดุ้นเนื้อเต้นตุบๆอยู่ในโพรงปากนุ่ม มากอยาครางเสียงอืออา
“อืม...อา...เอ็งมันร้ายกาจ”
คำหวานขยับศีรษะขึ้นลง มือนุ่มกอบกุมเจ้าดุ้นเอ็นไว้อย่างหวงแหน เธอขยับขึ้นขยับลงจนเอ็นร้ายกระตุกเป็นจังหวะ ร่างหนากระตุกเกร็ง มือไขว่คว้าหาเต้างามแล้วบีบขยำ ผ่อนอารมณ์ลึกแหลมไม่ให้มันคลุ้มคลั่งหนักยิ่งกว่าที่เป็นอยู่
หญิงสาวกดพลูเนื้อเสียดสีลงกับท่อนขา ใจกลางรวดร้าวจนถึงขีดทนไม่ไหว คำหวานขยับปากเร็วขึ้นแรงขึ้น มากอยาสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
“โอ้ว!คำหวาน”
ขุนโจรเปล่งเสียงออกมาได้แค่นั้นก่อนลาวาร้อนจะพุ่งฉีดเข้าสู่โพรงปากนุ่ม คำหวานเกือบสำลักน้ำขาวขุ่น...ดีที่มากอยารั้งศีรษะงามขึ้นมาบดจูบเสียก่อน
เรือนร่างอรชรทาบทับบนความแข็งแกร่ง สัมผัสเสียดสีจนลำโด่นั้นตั้งชูขึ้นเป็นลำทวนขนาดยาว ลิ้นทั้งสองยังคงรัดรึงกันอย่างซาบซ่าน มากอยาไม่รอให้เว้นจังหวะ เขารวบบั้นท้ายงอนงามดันจนลอยแล้วสวมสอดลงบนแท่งเนื้อแข็งโป๊ก
“โอ๊ย!ฉันจุก...” คำหวานหลับตาปี๋ ดึงริมฝีปากออกห่างจากเรียวปากนุ่มเพื่อร้องประท้วง ทว่ายังไม่ทันได้สูดอากาศหายใจเข้าปอดดี มากอยาก็กระชากเอวคอดกดย้ำเข้าหาด้วยจังหวะรุนแรง เกิดเสียงดัง ตับ ตับ ตับ จนพื้นไม้สั่นสะเทือนไปทั้งหลัง เครื่องครัวขยับเขยื้อนจนกลัวว่ามันจะหกเลอะพื้น
“แกทำฉันแรงเกินไปแล้วไอ้โจรบ้า”
“ช่วยไม่ได้ร่องเอ็งอยากน่าเอาให้สาสมก่อนทำไมล่ะ”
คำหวานค้อนควักรวบรวมแรงกายบดลำตัวเข้าหา แรงเสียดทานต่อกันจึงหนักหน่วงและเร้าอารมณ์ขึ้นราวกับนั่งอยู่บนหุบเหวก่อนจะทิ้งตัวลงมากะทันหัน
เนื้อพลูสีหวานผลิบานยามถูกแท่งร้อนสอดใส่ลึกจนเกิดอาการอ่อนไหวแล้วเปลี่ยนเป็นกระตุกเป็นพักๆ กระตุ้นให้กึ่งกลางร่างขับน้ำฉ่ำวาวไหลเยิ้มลงมาเลอะหว่างขา มากอยาสูดปาก ส่งนัยน์ตาคมกริบจับจ้องใบหน้าสวยหวาน ยามเขากระแทกตัวเข้าใส่จนร่างแน่งน้อยเคลื่อนกระดอนตามจังหวะรัก
มันให้ความรู้สึกเสียวซ่านอย่างรุนแรง...
มากอยาร่วมรักท่านั้นอยู่สักพัก ยังไม่ยอมให้ตัวเองเดินทางจนถึงฝั่งฝันง่ายๆ แต่ก็ยอมเหวี่ยงยัยปากร้ายให้สัมผัสกับอารมณ์หวามลึกขึ้นสูงสุดหลายครั้งหลายครา ก่อนดันแผ่นหลังตัวเองลอยเหนือจากพื้นพร้อมกับร่างน้อยขึ้นนั่ง ออกแรงไม่มากทั้งตัวเขากับคำหวานก็เปลี่ยนท่าเป็นลุกขึ้นยืน บั้นเอวเขายังขยับโยกตามจังหวะละเมียดละไม โดยทางเชื่อมยังคงติดกันแน่นหนึบ
“อ๊า..อ๊ะ...แกจะพาฉันไปไหน?” คำหวานพยายามเค้นเสียงถาม เอี้ยวหน้าบิดเบี้ยวมารอฟังคำตอบ
“ที่ๆเอ็งจะต้องชอบไง”
“อืม...ฉันไม่ได้ชอบ...อืม....” และแล้วเสียงหวานก็มีอันต้องครางยาว...ด้วยร่องสาวเธอถูกกระแทกเข้าหาด้วยจังหวะเร็วกระชั้น
มากอยาอุ้มร่างงามมาจนถึงระเบียงไม้สำเร็จจนได้ เขาวางเจ้าหล่อนลงเชื่องช้า สบดวงตากลมโตอย่างมีความหมาย ก่อนจะ โน้มใบหน้าเข้าหาพร้อมมอบจูบสุดแสนหวานฉ่ำให้จนพอใจ แล้วจับร่างน้อยหมุนเข้าหาระเบียงไม้
“เอ็งรู้ตัวไหมว่าวันนี้เอ็งสวยกว่าดวงจันทร์อีกนะ” คำหวานแหงนเงยใบหน้ามองดวงจันทร์พร้อมสีหน้าคล้อยตาม แล้วหัวใจก็เต้นตึกตัก
บนท้องฟ้ากว้างมองเห็นพระจันทร์เต็มดวง พาทำให้ค่ำคืนนี้แสงจันทร์นวลผ่องกว่าปกติ คำหวานคว้าไม้ระเบียงไว้มั่น ยามเธอถูกสวมสอดเข้าหาอย่างล้ำลึกอีกครั้ง ใบหน้าหวานเหยเก เสียดเสียวจนสมองขาวโพรน มากอยาเองพอกดกายจนถึงปลายโคนได้สำเร็จ เขาก็เริ่มขับเคลื่อนสะโพกแกร่งเนิบช้า
คำหวานรับรู้ได้ถึงจังหวะหวามที่ส่งผ่านมายังด้านหลังนั้นเริ่มจะมีจังหวะเร็วแรงขึ้นอีกระดับ หัวใจเธอชักขยาดกลัว ไม่รู้มากอยาจะจับเธอเล่นพิเรนทร์อะไรขึ้นมาอีก เท่านี้เธอก็รู้สึกอับอายจนตัวแดงเถือก ต่อให้ยอมรับว่ามันตื่นเต้นเร้าใจดี แต่ก็ยังแอบหวั่นกลัวจะถูกคนเห็นอยู่ดีนั่นแหละ
“อะ...อะ...อะ...ถ้ามีลูกสาว คงจะสวยเหมือนแม่”
อยู่ๆมากอยาก็ดันเปรยขึ้นมา เขาโน้มตัวลงต่ำ ขยับกางขาออกกว้างเพื่อเพิ่มแรงส่ง มือหนึ่งคว้าทรงงามที่คล้อยตัวลงขนานกับพื้นมาขยำเล่น ริมฝีปากจูบพรหมเกลือกกลิ้งไปทั่วทั้งแผ่นหลังขาวลออนุ่มราวกับปุยนุ่นอย่างเผลอไผล สูดกลิ่นกายอ่อนละมุนอัดเข้าไว้เต็มปอด
“อืม...ทำไมต้องพูดเยอะ ทำอย่างเดียวไม่ได้หรือไง?”
“แต่ก็ไม่เท่าเอ็งหรอก คำหวาน ปากเอ็งช่างร้ายกาจนัก”
มากอยาค้านด้วยความรู้สึกมันเขี้ยว จงใจลงแรงกระเด้าครั้งสุดท้ายด้วยจังหวะเน้นหนัก ซอกขาเพรียวสั่นสะท้าน ดุ้นเอ็นถูกดึงเกือบสุดปลายลำ ก่อนจะสอดลึกกลับจนสุดทั้งด้าม
“อะ...ซีดดดดด” เสียงหวานครางยาว อิ่มเอมในบทรักถึงพริกถึงขิงจนแทบร้องขอชีวิตกันไปข้าง
มากอยาร่วมรักกับคำหวานอยู่ตรงระเบียงไม้ลากยาวมาจนค่อนคืน
เสร็จสมอารมณ์หมายกันครั้งละนับไม่ถ้วน ก่อนโจรหนุ่มจะอุ้มร่างไร้เรี่ยวแรงมานอนกกกอดกันบนพื้นฟูก ยังไม่วายมากอยาที่อดใจไม่ไหวจับร่างน้อยให้นอนตะแคง พร้อมสวมสอดอาวุธคู่กายเข้าพำนักในแหล่งอุดมสมบูรณ์อีกครั้งและอีกครั้ง
เป็นอันว่าข้าวปลาที่มากอยาทำเตรียมไว้นั้นไหม้จนต้องเททิ้ง อาการไข้ของคำหวานกลับมาอีกครั้ง ดังนั้นรุ่งขึ้นของอีกวันหญิงสาวก็ยังนอนซม ไม่ได้ลุกจากที่นอนลงจากเรือนไปไหนได้อีกเช่นเคย...
************************