ช่วยแผ่นดินไหวเนปาล7:โบดานาธ
นั่งผึ่งพุงที่ระเบียงข้างห้องครัว สนทนาสัพเพเหระ พักเหนื่อย คลายกล้ามเนื้อ ลมหนาวโชย...ก่อนนอนเราเริ่มคุยเรื่องแผนงานการเดินทางและเรื่องงาน ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเหนื่อยขนาดนี้ แล้วเราจะมีแรงไปทำงานช่วยคนเนปาลเหรอ...เป็นคำถามที่คิดอยู่ในใจตั้งแต่เมื่อวาน... ณ ตอนนี้ไม่ใช่แค่ใช้เวลาปรับตัวและสำรวจรอบๆกาฐมาณฑุเท่านั้น แต่เรายังต้องรอดูสถานการณ์น้ำมันและการขนส่งทั้งใกล้และไกลเมืองด้วย ก่อนนอนเลยประชุมคุยเรื่องนี้กัน ทั้งสามคนลงความเห็นว่า ลุยกาฐมาณฑุพรุ่งนี้อีกหนึ่งวัน และวันต่อไปขอพักหนึ่งวันเต็มๆ ก่อนออกไปลุยงานที่หมู่บ้าน Nalang เขตเมือง Dhadling และเมืองโพคารา...
ผิดคาด...ตอนแรกนึกว่าพรุ่งนี้ทุกคนจะขอพักชาร์จพลังให้กล้ามเนื้อขากันก่อน เพราะตั้งแต่มานี่ นอกจากตอนนอนแล้ว พวกเรายังไม่ได้พักกันแบบเต็มๆเลย บวกกับสภาวะระดับความสูง ความกดอากาศ อุณหภูมิ และสภาพอากาศที่ปนด้วยฝุ่นเยอะมาก ร่างกายจึงต้องการการพักและปรับตัวอย่างมาก...คิดไม่ผิดที่พาพวกเค้ามา เห็นพูดกันว่าเหนื่อยแล้วพักก็หายครับพี่ เดี๋ยวจะได้ลุยงานกันยาว...โอเคครับ...ตามนั้นครับ ราตรีสวัสดิ์...
ข้อตกลงเมื่อคืนเลยเป็นที่มาของการที่เราต้องตื่นตั้งแต่ตีห้ากินอาหารเช้าของพ่อครัวเจ้าประจำ เพื่อรีบออกไปแย่งที่นั่งในรถเมล์ให้ได้ ตอนนี้พวกเราเริ่มชิน (หรือต้องชิน) กับการเดินออกไปขึ้นรถที่ถนนสายใหญ่ทางเข้าหมู่บ้านโน่น พยายามคิดถึงวันพรุ่งนี้เข้าไว้ว่า จะได้พักร่างกันซะที ค่อยเติมพลังให้กับสองขาของพวกเราได้เยอะเลย เด็กๆทั้งสามก็คงคิดเหมือนกัน...
โบดานาธ คือเป้าหมายแรกในวันนี้ อีกภารกิจหนึ่งที่ต้องทำที่นี่ คือการไปเยี่ยมวัดเซเซนและโรงเรียนสอนวาดภาพทังก้าที่อยู่ใกล้กัน คราวแล้วมีบุญได้พบกับหลวงปู่และคุณแม่ชีคนไทย พานำเข้าไปเยี่ยมชมและได้สนธนากับพระอาจารย์ครูใหญ่ของที่นี่...โบดานาถ...เป็นที่ที่ผูกพันมากเป็นพิเศษ ด้วยองค์เจดีย์ฐานทรงกลมและมียอดลดหลั่นกรวยเหลี่ยมสีทองอร่าม มีสัญลักษณ์ด้วงตาแห่งธรรม (Buddha Eyes) อันเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเนปาล ครั้งแรกที่ได้มาเห็นด้วยตาของตัวเองนั้นรู้สึกเลยว่าดวงตาคู่นี้ศักดิ์สิทธิ์มาก มีพลังอะไรบางอย่างอยู่ภายใน จ้องมองดูทั้งสี่ด้านยังไงก็ไม่เบื่อ รู้สึกดีและสงบนิ่งเหลือเกิน
คราวแล้วที่มาอยู่เนปาลหลายเดือน เป็นต้องแว๊บมาแอบนั่งดื่มชาที่นี่บ่อยๆ ขลุกอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันโดยไม่สนโลกเลย ทั้งบรรยากาศก็ทิเบ๊ต ทิเบต...ชาวทิเบตเดินหมุนกงล้อสลับกับนมัสการองค์เจดีย์ซึ่งเชื่อว่าเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าด้วยการไหว้แบบอัษฎางค์ประดิษฐ์ สีหน้าและแววตาของพุทธศาสนิกชนชาวทิเบตบ่งบอกถึงความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า สัมผัสรับรู้ได้อย่างจัดเจน...รู้สึกใกล้ชิดเข้าใจและมีความรู้สึกร่วมไปด้วยทุกครั้ง บางวันคนเยอะมากจนต้องเบียดกัน...ย่านนี้เลยเป็นอีกย่านหนึ่งของกลุ่มคนทิเบตอพยพที่เนปาล
**ข้อความทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียน
*ติดตามเรื่องราวทริปและงานเขียนอื่นได้ที่ https://tenlavenders.blogspot.com/
และเว็บไซต์ส่วนตัว https://tenlavenders.softr.app/