ช่วยแผ่นดินไหวเนปาล2:เช้าแรกที่เนปาล
เพื่อนเนปาลีมารอที่หน้าอาคารสนามบินได้สักพักหนึ่งแล้ว เราโบกมือให้กันเป็นสัญญาณให้เดินตรงมาได้เลย ดูเพื่อนตกใจเล็กๆที่ได้เจอกับลิงไทย...เจ้าบ้านจัดแจงจับเรานั่งแท็กซี่ ที่ปกติจากสนามบินไปบ้านเพื่อนเต็มที่ไม่เกิน 600 เนปาลีรูปี แต่วันนั้นเพื่อนเจ้าบ้านที่น่ารักรับอาสาดูแลค่าแท็กซี่เองต้องจ่ายถึง 3,000 รูปี!! แต่หนึ่งในลิงสามตัวนั้นต้องซ้อนมอไซด์เพื่อนไปเพราะเราได้แท็กซี่คันค่อนข้างเล็ก
บ้านเพื่อนอยู่ไกลจากใจกลางเมืองประมาณห้ากิโลเมตรชื่อย่าน Balaju เป็นชานเมืองกำลังดี ที่ติดภูเขาด้านหลังและด้านหน้าเป็นเวิ้งวิวทุ่งนาสลับลดหลั่นกัน มีฉากหลังเป็นเทือกเขาสูงและเห็นหิมาลัยลิบๆเป็นยอดอยู่ท้ายสุด....สวยมาก ทุกคนถูกใจ ชอบใจและชื่นใจกับวิวตรงหน้าอยู่หลายนาที เพื่อนให้ห้องพักพวกเราสองห้อง ซึ่งเป็นห้องพักที่ดีที่สุดที่เคยพักมาที่เนปาล ไม่ใช่ความหรูหราสะดวกสบายของเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งแต่อย่างใด เป็นเพราะเป็นบ้านของเพื่อนที่สัมผัสได้ถึงน้ำใจที่มีให้กันอย่างไม่มีเงื่อนไข ใกล้กับธรรมชาติ ใกล้กับวิถีคนเนปาลีจริงๆที่แตกต่างกับย่านทาเมลอย่างลิบลับ เพื่อนพูดเสมอๆตลอดทั้งทริปนี้ร่วมร้อยครั้งน่าจะได้ว่า “My house is your house, don’t think it’ my house….no no it’s your house….anytime.” ...
เราใช้เวลาทั้งบ่ายจนถึงเย็นเดินเท้าตามเพื่อนนำชมบริเวณโดยรอบหมู่บ้าน อากาศดีมากๆ กลิ่นรวงข้าวโชยอ่อนๆ ทุ่งข้าว ทุ่งหญ้า รถโรงเรียน เด็กๆเนปาลี ชาวบ้าน พระอาทิตย์กำลังตกดิน แสงกำลังสวย เดินเล่นรื่นเริงเรื่อยๆ แวะวัด เทวสถาน...จบท้ายที่จุดชมวิวของหมู่บ้านหน้าค่ายทหารกรุข่า (ที่มีชื่อเสียงก้องโลกว่าเป็นทหารที่แข็งแรงอดทนที่สุดชาติหนึ่งในโลก จนกองทัพทหารของหลายประเทศต้องมาซื้อตัว) ก่อนเดินกลับบ้านด้วยอาการเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าพอควร ต่างกับความรู้สึกเป็นเอกฉันท์ของพวกเราว่าวิวหมู่บ้านที่นี่สวยอากาศดี...ประทับใจ แอบดีใจที่ทุกคนมีความสุขกับวันแรกที่นี่
เช้าแรกที่ Balaju เป็นเช้าที่สวยมาก แสงสีทองแรกของวัน หมอกบางคลุมทั่ววิวทุ่งนา รีบออกมาถ่ายรูปชมวิวสูดอากาศดีๆยามเช้า เมื่อคืนเป็นคืนแรกในหลายๆคืนที่ได้นอนหลับสนิทเต็มที่เต็มตาอย่างไม่มีความกังวลเลย เพื่อนยกชามิ้นท์และข้าวผัดไข่อาหารเช้าสุดวิเศษมาเสริฟแต่เช้า เพราะวันนี้แผนของเราคือไปทาเมลเพื่อไปเจอและเยี่ยม Dev เพื่อนเนปาลีคนสนิท เลยจะพาเด็กๆไป Durbar Square วังเดิมเป็นสถานที่แรกที่จะไปชมเพราะสามารถเดินเท้าจากย่านทาเมลไปได้ อีกทั้งจัดการแลกเงินให้เรียบร้อย...ก่อนออกจากบ้าน ดูฮารี่กังวลกับการเดินทางของเรามาก ย้ำและกำชับสายรถเมล์วิธีการเดินทางทั้งไปและกลับมาถึงบ้านอยู่หลายรอบ พูดซ้ำๆเรื่องขาดน้ำมัน รถเมล์น้อย หาแท็กซี่ลำบาก พอจะเข้าใจได้เพราะเมื่อวานเห็นรถเมล์หลายคันที่เป็นรถเมล์มหัศจรรย์ บรรทุกคนได้อย่างกับรถไฟ รถเมล์แดงส้ม กทม.เราชิดซ้ายไปเลย เด็กๆรีบยกกล้องขึ้นถ่ายรูป เพราะมหัศจรรย์จริงๆ....(ไม่ได้รู้ชะตากรรมตัวเองเลย ว่าพวกเราก็จะเป็นอีกสี่ชีวิตที่อัดแน่นอยู่ในนั้นในอีกไม่กี่วันถัดมา!!)
เช้าแรกของเราเหมือนโชคช่วยได้นั่งรถเมล์หน้าบ้านเพื่อนถึงทาเมลเลย เราไปสถานที่นัดหมายกันสายนิดนึงแต่ Dev ก็ยืนรออยู่แล้ว เดินทะลุตลาดจากทาเมลมาเรื่อยๆ ตอนนี้ทุกคนเข้าใจแล้วว่าททำไมต้องพกหน้ากากกันฝุ่นมา ซึ่งเป็นอุปกรณ์สสำคัญมากๆในการดำรงชีวิตอยู่กลางเมืองหลวงแห่งนี้ ทุกที่ทาง ฝุ่น ฝุ่น ฝุ่น....และฝุ่น