"3 ชนิดไม้เลื้อย"ที่คนนิยมกิน ปลูกครั้งเดียว เก็บกินเก็บขายได้ตลอดชีวิต
หลายคนเมื่อปลูกสร้างบ้านแล้ว ก็มีพื้นที่ใช้สอยที่เหลืออย่างจำกัด เวลาจะปลูกพืชผักสวนครัวไว้เก็บกินก็ลำบากใจว่าจะเปลืองที่ดินหรือไม่หรือสำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลมาก แต่ก็อยากมีผักไว้กินและเก็บขายเมื่อเหลือกิน ฉะนั้นใครที่มีข้อจำกัดแบบนี้ ผู้เขียนจึงอยากแนะนำพืชไม้เลื้อย 3 ชนิดที่นอกจากจะสามารถเก็บกินได้แล้ว ยังสามารถปลูกเป็นไม้ประดับภายในบริเวณบ้านได้อีกด้วย ที่สำคัญยังปลูกง่าย ปลูกครั้งเดียวเก็บกินได้ตลอดชีวิต มีอะไรบ้างนั้น อ่านได้จากสาระดี ๆ ต่อจากนี้เลยครับ
ต้นชนิดที่ 1 “ต้นตำลึง” จัดเป็นไม้เลื้อยที่มีอายุยืนยาวมาก ๆ ปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บกินได้ตลอดชีวิต ซึ่งในการปลูกตำลึงนั้นไม่ยุ่งยาก จะนำเถาหรือลำต้นมาตัดและชำปลูกก็ได้ หรือนำเมล็ดมาเพาะหรือลงปลูกได้เลย สำหรับประโยชน์ของตำลึงนั้น สามารถนำยอดมาทำอาหารได้หลากหลายเมนูทั้งต้ม ผัดหรือแกงร่วมกับผักอื่นได้ ตำลึงนั้นจัดเป็นผักสีเขียวที่มีสารคลอฟิลล์เป็นจำนวนมาก มีสารต้านอนุมูลอิสระสามารถป้องกันมะเร็ง นอกจากนั้นใบและยอดตำลึงนั้นมีกากใยอาหารมาก มีเบต้าแคโรทีน มีวิตามินต่าง ๆ เช่นวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัสและธาตุเหล็กด้วย จัดว่าตำลึงนั้นมีประโยชน์มาก ๆ และจัดเป็นผักไม้เลื้อยที่คนไทยนิยมรับประทานอีกชนิดหนึ่ง ที่สำคัญคือหากปลูกแล้ว ปลูกครั้งเดียวเก็บกิน ขายได้ตลอดชีวิต
ชนิดที่ 2 “ต้นชะอม ผักขาหรือผักร้า” จัดเป็นไม้เถาไม้เลื้อย ที่ปลูกง่ายมาก ๆ ตัดต้นหรือเถาเป็นท่อน ๆ นำมาเสียบบนพื้นดินที่ร่วมซุยที่มีความชื้นก็เกิดได้ไม่ตาย จัดว่าเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่ปลูกง่ายตายยาก แต่คนสมัยก่อนนั้นจะนำเมล็ดของชะอมมาปลูก เพราะถ้านำเมล็ดมาปลูกจะได้ต้นชะอมที่แข็งแรงมีอายุชั่วลูกชั่วหลาน แต่สมัยใหม่นั้นจะนำลำต้นหรอเถามตัดและชำ ซึ่งวิธีนี้ก็ทำให้ชะอมที่ปลูกม่อายุยืนยาวได้ด้วยเช่นกัน แต่ต้องหมั่นดูแลบำรุงดิน สำหรับประโยชน์ของชะอมนั้น นำยอดมาแกง ผัด หรือต้มก็อร่อยไม่แพ้ตำลึง ประโยชน์ทางโภชนาการจะช่วยต้านสารอนุมูลอิสระมีวิตามินสูง ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันโรคท้องผูกและเป็นยาอายุวัฒนะได้ด้วย นอกจากนั้นแล้วการที่ลำต้นชะอมนั้นมีหนาม สามารถปลูกเป็นรั้วป้องกันสัตว์ใหญ่เข้าบ้าน เช่น สัตว์เลี้ยงเพื่อนบ้านและที่สำคัญจัดเป็นรั้วกินได้ด้วย
ชนิดที่ 3 “ต้นขจรหรือดอกขจร” จัดเป็นไม้เลื้อยอีกชนิดหนึ่งที่ปลูกง่ายตายยาก โดยการปลูกนั้นแค่เอาเถาหรือเครือมาตัดเป็นท่อน ๆ ชำหรือปลูกในพื้นที่ที่เตรียมไว้คอยรดน้ำให้ความชื้นจนกว่าจะออกราก หลังจากนั้นก้ไม่ต้องดูแลอะไรมากก็สามารถเกิดได้ สำหรับประโยชน์ของดอกขจรนั้น สามารถทำอาหารได้หลากหลากเมนู ไม่ว่าจะเป็นแกง เป็นผักกับลวกจิ้มน้ำพริกก็อร่อย สามารถเจียวใส่ไข่ ก็จัดเป็นอีกหนึ่งเมนูที่อร่อย โดยสรรพคุณทางอาหาารนั้นสามารถเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงตับ บำรุงเลือด บำรุงฮอร์โมนสุภาพสตรี นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศรีษะและคลื่นใส้อาเจียนได้ด้วย ด้วยดอกหรือยอดขจรนั้นมีรสชมอ่อน ๆ ทำให้ช่วยในการขับถ่ายระบบลำไส้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
ต้องบอกว่าพืชทั้ง 3 ชนิดที่แนะนำนั้น จัดเป็นพืชที่ปลูกง่ายตายยาก ดูแลง่ายไม่ต้องใช้ปุ๋ยยามากมาย ไม่มีโรคและแมลงคอยรบกวนและที่สำคัญปลูกครั้งเดียวเก็บกิน เก็บขายได้ตลอดชีวิตนั่นเอง ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์มาก ๆ สำหรับทุกท่านที่เขามาอ่าน อ่านแล้ว อย่าลืม!!! กดไลท์ กดแชร์ บอกต่อให้กับท่านอื่น ๆ ด้วยนะครับ
เนื้อหาโดย:loylom:อ่านแล้ว อย่าลืม!!! กดไลท์ กดแชร์ ให้กำลังใจด้วยนะครับ