หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

" 5 สายพันธุ์กล้วยไม้ " นิยมปลูกไทย

โพสท์โดย ote1986

ดอกไม้นับเป็นพืชที่ผู้คนนิยมปลูกกันเป็นอย่างมา ทั้งปลูกเพื่อยกเป็นธุรกิจและปลูกเพราะความรักความชื่นชอบ อีกทั้งปลูกเพื่อเป็นการประดับตกแต่งบ้าน และบ้างสายพันธุ์นอกจากมีสีสันรูปทรงที่งดงามแล้วยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย

วันนี้เรานำ " กล้วยไม้ " มาแนะนำกัน นอกจากความสวยงามแล้วบ้างสายพันธุ์ยังมีกลิ่นหอมสร้างความสดชื่นให้แก่บ้านเรื่อนและผู้ปลูกอีกด้วย

กล้วยไม้ หรือ เอื้อง เป็นพืชดอกที่มีความหลากหลายมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง โดยมีประมาณ 899 สกุล และมีประมาณ 27,000 ชนิดที่มีการยอมรับ[2][3] คิดเป็น 6–11% ของพืชมีเมล็ด[4] มีการค้นพบราว ๆ 800 ชนิดทุก ๆ ปี มีสกุลใหญ่ ๆ คือ Bulbophyllum (2,000 ชนิด), Epidendrum (1,500 ชนิด), Dendrobium (1,400 ชนิด) และ Pleurothallis (1,000 ชนิด) สายพันธุ์ของกล้วยไม้ที่ขึ้นและเติบโตในป่าเรียกว่า กล้วยไม้ป่า

กล้วยไม้จัดอยู่ในกลุ่มพืชใบเลี้ยงเดี่ยว อยู่ในวงศ์กล้วยไม้ (Orchidaceae) สามารถแบ่งตามลักษณะการเติบโตได้ดังนี้

กล้วยไม้อากาศ (Epiphyte) คือ กล้วยไม้ที่เกาะหรืออิงอาศัยอยู่บนต้นไม้อื่น โดยมีรากเกาะอยู่กับกิ่งไม้หรือลำต้น
กล้วยไม้ดิน (Terrestrial) คือ กล้วยไม้ที่ขึ้นอยู่ตามพื้นดินที่ปกคลุมด้วยอินทรีย์วัตถุ

กล้วยไม้เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ในวงศ์ Orchidaceae เป็นไม้ตัดดอกยอดนิยม เนื่องจากมีลักษณะดอกและสีสันลวดลายสวยงาม เป็นไม้ตัดดอกที่มีอายุการใช้งานได้นาน กล้วยไม้เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญของไทย เพราะเป็นไม้ส่งออกขายต่างประเทศทำรายได้เข้า ประเทศปีละหลายร้อยล้านบาท มีการปลูกเลี้ยงอย่างครบวงจร ตั้งแต่การผสมเกสร เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เลี้ยงลูกกล้วยไม้ เลี้ยงต้นกล้วยไม้จน กระทั่งให้ดอก ตัดดอกบรรจุหีบห่อและส่งออกเอง

แหล่งกำเนิดกล้วยไม้ป่า
แก้
แหล่งกำเนิดกล้วยไม้ป่าที่สำคัญของโลกมี 2 แหล่งใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ ลาตินอเมริกา กับเอเชียแปซิฟิค สำหรับในลาตินอเมริกาเป็น อาณาบริเวณอเมริกากลางติดต่อกับเขตเหนือของอเมริกาใต้ ส่วนแหล่งกำเนิดกล้วยไม้ป่าในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค จากการค้นพบประเทศไทยมีพันธุ์กล้วยไม้ป่าเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการเจริญงอกงามของ กล้วยไม้มาก และกล้วยไม้ป่าที่ในพบในภูมิภาคแถบนี้มีลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง แตกต่างจากกล้วยไม้ในภูมิภาคลาตินอเมริกา

การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ในประเทศไทย
จากการสำรวจในอดีตพบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีกล้วยไม้อยู่ในป่าธรรมชาติ ไม่ต่ำกว่า 1000 ชนิด ทั้งประเภทที่พบอยู่บนต้นไม้ บนพื้นผิวของภูเขาและบนพื้นดิน สรุปได้ว่าสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของประเทศไทยเอื้ออำนวยแก่การเจริญงอกงาม ของกล้วยไม้เป็นอย่างมาก ในอดีตชาวชนบทของไทย โดยเฉพาะในแหล่งที่เคยมีกล้วยไม้ป่าอุดมสมบูรณ์ ได้นำกล้วยไม้ป่ามาปลูกเลี้ยงโดยเลียนแบบธรรมชาติ โดยนำกล้วยไม้มาปลูกไว้กับต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ใกล้ ๆ บ้านเรือน การเลี้ยงกล้วยไม้เริ่มเปลี่ยนมาเป็นการปลูกเลี้ยงอย่างจริงจังโดยชาวตะวันตกผู้หนึ่ง ที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย เห็นว่าสภาพแวดล้อมของประเทศไทยเหมาะสมสำหรับการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ จึงได้สร้างเรือนกล้วยไม้อย่างง่าย ๆ และนำเอากล้วยไม้ป่าจากเขตร้อนของอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดกล้วยไม้ป่าแหล่งใหญ่แหล่งหนึ่งของโลก ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากกล้วยไม้ในเอเชียและเอเซียแปซิฟิค โดยนำมาปลูกเลี้ยงเป็นงานอดิเรกในขณะเดียวกันก็มีเจ้านายชั้นสูงและบรรดา ข้าราชการที่ใกล้ชิด ให้ความสนใจเลี้ยงกล้วยไม้เป็นงานอดิเรกเช่นกัน นอกจากนั้นก็ยังมีกลุ่มบุคคลสูงอายุซึ่งเลี้ยงกล้วยไม้เพื่อความสุขทางใจ การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ อย่างไรก็ตามการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ยังคงจำกัดอยู่ในวงแคบ คือ ในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้มีเงินในยุคนั้น และเป็นการปลูกเลี้ยงที่นิยมกล้วยไม้พันธุ์ต่างประเทศ ส่วนกล้วยไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในป่าของประเทศไทยจะนิยมและยกย่องเฉพาะพันธุ์ ที่หายากและมีราคาแพง
หลังการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในปี พ.ศ. 2475 สภาพการเลี้ยงก็ยังคงจำกัดอยู่ในวงแคบเช่นเดิม แต่ผลงานเกี่ยวกับการผสมพันธุ์กล้วยไม้ในต่างประเทศเริ่มมีอิทธิพลกระตุ้น ให้ผู้เกี่ยวข้องกับวงการกล้วยไม้ในประเทศไทยสนใจกล้วยไม้ลูกผสมมากขึ้น มีการสั่งกล้วยไม้ลูกผสมจากประเทศในทวีปยุโรป สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เพื่อนำเข้ามาปลูกเลี้ยงในประเทศไทย การพัฒนาการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ เป็นไปอย่างจริงจัง เมื่อประมาณปีพ.ศ. 2493 โดยได้มีการวิจัย นับตั้งแต่การรวบรวมปลูกในระดับพื้นฐาน ต่อมาในปีพ.ศ. 2497 ได้เริ่มเปิดการฝึกอบรมการเลี้ยงกล้วยไม้ให้แก่ประชาชนผู้สนใจทั่วไป และมีการจัดตั้งชมรมกล้วยไม้ขึ้นในปีพ.ศ. 2498 ซึ่งต่อมาได้รับการสถาปนาเป็นสมาคมกล้วยไม้เมื่อปีพ.ศ. 2500 และในปีเดียวกันนี้ ได้เริ่มมีการนำเอาความรู้ในเรื่องกล้วยไม้และแนวความคิดในการพัฒนาวงการ กล้วยไม้ออกเผยแพร่ทั้งทางโทรทัศน์และวิทยุ และมีการผลิตเอกสารสิ่งพิมพ์เผยแพร่ ทำให้วงการกล้วยไม้ของประเทศไทย ขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งมีการจัดตั้งสมาคมและสโมสรเกี่ยวกับกล้วยไม้ขึ้นในภาคและจังหวัด ต่าง ๆ ในปี พ.ศ. 2501 ได้มีการเปิดการสอนวิชากล้วยไม้ขึ้นในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นครั้งแรก เพื่อผลิตนักวิชาการและพัฒนางานวิจัยกล้วยไม้ของประเทศ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ไม่ได้จำกัดอยู่ภายในวง แคบอีกต่อไป จากการส่งเสริมดังกล่าว ทำให้มีการนำเข้ากล้วยไม้ลูกผสมจากต่างประเทศ เช่น จากฮาวายและสิงคโปร์จำนวนมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ที่มีความรู้หันมารวบรวมพันธุ์ผสมและเพาะพันธุ์จากพ่อแม่พันธุ์ใน ประเทศ ทั้งที่เป็นพ่อแม่พันธุ์จากป่า และลูกผสมที่สั่งเข้ามาแล้วในอดีต ปีพ.ศ. 2506 วงการกล้วยไม้ของไทยได้เริ่มมีแผนในการขยายข่ายงานออกไปประสานกับวงการกล้วย ไม้สากล เพื่อยกระดับวงการกล้วยไม้ในประเทศให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ ปีพ.ศ. 2509 เริ่มการทำสวนกล้วยไม้ตัดดอกอย่างจริงจัง เมื่อไทยเริ่มส่งออกกล้วยไม้ไปสู่ตลาดต่างประเทศในยุโรปตะวันตก เช่น สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน เนเธอร์แลนด์ และอิตาลี ต่อมาจึงขยายตลาดไปสู่ประเทศญี่ปุ่น แคนาดา และบางรัฐของสหรัฐอเมริกา.

วงศ์ย่อยต่าง ๆ ของกล้วยไม้ ได้แก่
Apostasioideae Rchb. f. เป็นกลุ่มไม้ที่เติบโตบนพื้นดินในป่า มี 2 สกุล คือ Apostasia และ Neuwiedia
Cypripedioideae Lindley เป็นกลุ่มไม้ที่เกิดบนพื้นดิน โขดหิน และบนซากอินทรีย์วัตถุ มี 4 สกุล คือ Cypripedium, Paphiopedilum (สกุลรองเท้านารี) , Phragmipedium และ Selenipedium
Spiranthoideae Dressler ไม่พบกล้วยไม้ไทย และลูกผสมไทยที่เกิดในวงศ์ย่อยนี้
Orchidoideae ไม่พบในไทย
Epidendroideae วงศ์ย่อยนี้มีความหลากหลายด้านที่อยู่อาศัย และรูปร่างลักษณะ มีหลายสกุลในวงศ์นี้ที่พบ และนิยมปลูกในประเทศไทย ได้แก่ สกุล Vanilla สกุลต่าง ๆ ในกลุ่มแคทลียา สกุลหวาย และ สกุลสิงโตกลอกตา

พืชในวงศ์กล้วยไม้นั้นสามารถพบได้ทั่วโลก มีถิ่นอาศัยในหลาย ๆ ภูมิประเทศยกเว้นทะเลทรายและธารน้ำแข็ง โดยส่วนมากจะพบในเขตร้อนของโลก คือทวีปเอเชีย, ทวีปอเมริกาใต้ และทวีปอเมริกากลาง นอกจากนั้นยังพบเหนือวงกลมอาร์กติก, ตอนใต้ของปาตาโกเนีย และบนเกาะแมคควารี ใกล้กับทวีปแอนตาร์กติกา

การกระจายพันธุ์โดยสังเขปมีดังนี้:
ทวีปอเมริกาเขตร้อน: 250–270 สกุล
ทวีปเอเชียเขตร้อน: 260–300 สกุล
ทวีปแอฟริกาเขตร้อน: 230–270 สกุล
โอเชียเนีย: 50–70 สกุล
ทวีปยุโรปและทวีปเอเชียเขตอบอุ่น: 40–60 สกุล
ทวีปอเมริกาเหนือ: 20–25 สกุล

กล้วยไม้ที่ยมปลูกในประเทศไทย
ดอกกล้วยไม้ไทยยอดฮิต 5 สายพันธุ์

คัทลียา (Cattleya) ...
วิธีการปลูกแคทลียา
การปลูกนั้นจะส่งผลต่อการเจริญเติบต่อของแคทลียา ควรที่จะทำความเข้าใจในความต้องการของกล้วยไม้ชนิดนั้นๆ หรือถึงแม้จะเป็นกล้วยไม้ประเภทเดียวกัน ก็ยังมีความต้องการไม่เหมือนกัน จึงต้องปรับแปลงวิธีการปลูกให้เหมาะสม

ภาชนะปลูก
ประเทศไทยเราที่เห็นนิยมมากๆ ก็จะมีอยู่ 2 อย่างคือ กระถางดินเผา กับกระถางพลาสติก ส่วนพวกขอนไม้ หรือเครื่องปลูกต่างๆ นั้นไม่ค่อยนิยมสำหรับแคทลียาซักเท่าไหร่

กระถางดินเผา - กระถางดินเผาก็มีหลายขนาดด้วยกัน แล้วแต่ขนาดของแคทลียาด้วย โดยมากนิยมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 นิ้ว ส่วนความสูง ไม่ควรสูงมากสำหรับแคทที่ใช้เครื่องปลูกด้วยถ่าน หรือวัสดุปลูกที่แห้งๆ กักความชื้นได้น้อย ขนาดที่เหมาะสมควรสูงราวๆ 2-4 นิ้วก็เพียงพอ
กระถางพลาสติก - อันนี้เป็นที่นิยมมาก ในกลุ่มของกล้วยไม้เศรษฐกิจ เพราะขนส่งง่าย ราคาไม่แพง และมีหลายขนาดให้เลือก แต่ก็เก็บความชื้นได้น้อย ควรหาเครื่องปลูกที่เหมาะสมด้วย ส่วนตัวแล้วคิดว่ากาบมะพร้าวเกมาะสมที่สุด

วัสดุปลูก
วัสดุที่ใส่ลงไปในภาชนะที่ใช้ปลูกกล้วยไม้ เป็นที่เก็บอาหาร เก็บความชื้น หรือปุ๋ยของกล้วยไม้ และเพื่อให้รากของกล้วยไม้เกาะ ลำต้นจะได้ตั้งอยู่ได้ เครื่องปลูกที่เหมาะสมกับลักษณะการเจริญเติบโตของรากกล้วยไม้จะทำให้กล้วยไม้เจริญเติบโตได้ดีและแข็งแรง เครื่องปลูกที่นิยมใช้มีดังนี้

ออสมันด้า - เป็นส่วนรากของเฟิร์นบางชนิด ลักษณะเป็นเส้นดำๆ ออสมันด้าสามารถกักความชื้นได้ดีปานกลาง เครื่องปลูกนี้เป็นที่นิยมมากในประเทศไต้หวัน และไทยก็เช่นกัน แต่ก็เริ่มลดความนิยมลงไปเรื่อยๆด้วย ข้อเสียคือ มักจะเป็นราได้ง่าย ก่อนใช้ให้นำไปแช่ยากันรา หรือต้มเสียก่อน

กาบมะพร้าว - เครื่องปลูกชนิดนี้เป็นที่นิยมในไทยมากๆ ราคาถูก เหมาะสำหรับการปลูกเพื่อการค้าขาย เพราะกาบมพะร้าวจะเสื่อมเร็ว กาบมะพร้าวสามารถกักความชื้นได้ดี แต่ถ้าไม่ระวังก็อาจจะเกิดราขึ้นได้ง่ายด้วย ต้องรดยากันเชื้อราตลอดระหว่างการปลูกเลี้ยง กาบมะพร้าวเหมาะมากที่จะใช้กับวัสดุปลูกอย่าง กระถางพลาสติก เพราะจะทำให้ระบายความชื้นได้ดีไปแฉะเกินไป ก่อนนำมาใช้ให้แช่น้ำไว้ 1 หรือ 2 วัน ให้น้ำซึมซับไปได้ทั่ว

ถ่าน - ในความเห็นส่วนตัว คิดว่าถ่านเป็นเครื่องปลูกที่เหมาะที่สุดในการปลูกเลี้ยงแคทลียา ในสภาพแวดล้อมของไทย เพราะมีอายุการใช้งานยาวนาน กักความชื้นได้พอสมควร ภาชนะปลูกที่เหมาะสม คงเป็นกระถางดินเผา ถ้าเป็นพลาสติกก็จะแห้งเกินไป ถ่านขนาดที่เหมาะสมควรจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย 1 นิ้ว เพื่อจะให้รากกล้วยไม้เกาะได้ดี และกระจายไปได้ทั่วกระถาง (ไม่ควรใช้เศษๆถ่านที่เล็กกว่านี้ เพราะจะกระเด็นหล่นหมดเมื่อรดน้ำ และทำให้รักษาความชื้อได้ไม่ดีด้วย) ก่อนนำมาใช้ ให้นำไปแช่น้ำซัก 1 อาทิตย์ เพื่อขจัดเศษๆผงถ่าน และลดความเป็นด่างด้วย)

เศษอิฐ หรือเศษกระถางดินเผา - คุณสมบัติจะคล้ายๆกับถ่าน แต่จะกัก และระบายความชื้นได้ดีกว่าถ่าน ควรใช้กับกระถางดินเผา

สแฟกนั่มมอส - เป็นเฟิร์นชนิดนึงที่ตายแล้ว เป็นเส้นๆ ซึ่งผ่านการอบฆ่าเชื้อมาแล้ว เครื่องปลูกชนิดนี้กำลังเป็นที่นิยม เพราะสามารถกักความชื้อได้ดีมาก แคทลียาจะแตกรากเร็วมาก เหมาะสำหรับปลูกแคทลียาแบบในโรงเรือนปิด คือสามารถควบคุมน้ำได้ เพราะถ้าฝนตกจะทำให้แฉะเกิน และจะมีการเน่าตามมา แต่ผู้เขียนทดลองปลูกกับไม้ size นิ้วแล้วไม่มีปัญหา สามารถใช้ได้ ส่วนข้อเสียที่เด่นๆเลยก็คือ.... มันแพงอะ..

วิธีการปลูก
การออกขวดแคทลียา
เริ่มจากเตรียมถ่างน้ำตื้นๆ ใส่น้ำเอาไว้ จากนั้นดูว่ากล้วยไม้ในขวดเติมโตได้ขนาดเหมาะสม ถ้าใช้ได้ให้นำขวดมาทุบบริเวณส่วนของก้นขวด ก่อนทุบให้เขย่าๆ ให้กล้วยไม้ดันมาที่หัวขวด ซึ่งบริเวณที่จะทุบกล้วยไม้จะได้ไม่ช้ำ แล้วค่อยๆเทกล้วยไม้ออกมาใส่ในอ่างที่เตรียมไว้ แล้วค่อยๆแยกวุ้นออกจากรากกล้วยไม้ ควรระวังไม่ให้รากกล้วยไม้ช้ำ หรือหลุด จากนั้นก็อาจจะนำไปแช่ยากันราต่อ หรือใส่ยากันเชื้อราลงไปเลยในขั้นตอนแยกวุ้นออก

การปลูกกล้วยไม้ขนาดเล็ก
ภาชนะปลูกที่เหมาะสมกับขนาด คงเป็นกระถางดินเผาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 นิ้ว การปลูกโดยการนำวัสดุปลูกมาพันรอบๆ รากกล้วยไม้ให้อยู่ตรงกลาง ระวังอย่าให้ช้ำเกินไป และกะจำนวนวัสดุปลูกให้ใส่ลงไปในภาชนะปลูกได้พอดี โดยที่กล้วยไม้ไม่ขยับหลุดออกมาได้ จากนั้นก็ยัดลงไปในกระถางดินเผา

การปลูกกล้วยไม้ขนาดใหญ่
สำหรับกระถางที่ใช้วัสดุปลูกเป็นกาบมะพร้าว ให้ทำแบบเดียวกับวิถีของการปลูกกล้วยไม้ขนาดเล็ก เพียงแต่จะต้องแน่ใจว่า ลำกล้วยไม้ที่แยกขยายมามีรากติดมาด้วยเล็กน้อย เพื่อจะได้เอาไว้หนีบกับกาบมะพร้าว หรือจะไม่ต้องมีรากก็ได้ แต่ต้องมัดลำกล้วยไม้ติดกับลวดแขวนด้วย ส่วนตำแหน่งที่วาง ควรจะให้ลำหน้าสุดอยู่บริเวณตรงกลาง เพื่อจะได้ไม่แตกหน่อ ออกไปนอกกระถางเร็วถ้าเอาลำหน้าไว้ริมๆ และบริเวณส่วนโคนไม่ควรจมลงไปในกาบมะพร้าว ควรจะวางให้ห่างซักเล็กน้อย หรือวางทับลงไป
สำหรับกระถางดินเผาที่เหมาะใช้กับวัสดุปลูกเป็นพวกถ่าน เศษอิฐ หรือเครื่องปลูกผสมอื่นๆ นำกระถางมาเตรียมใส่ลวดแขวนให้เรียบร้อย จากนั้นให้เอากาบมะพร้าวสับรองก้นกระถางซัก 0.5-1 นิ้ว เพื่อเพิ่มความชื้น แต่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง หรือฝนตกบ่อย อย่างภาคเหนือ และใต้ ไม่จำเป็นต้องใช้กาบมะพร้าวสับก็ได้ จากนั้นก็นำถ่านขนาดพอเหมาะ(เส้นถ่านศูนย์กลาง 1 นิ้วขึ้นไป) ใส่ๆลงไปในกระถาง โดยเหลือพื้นที่ไว้ซัก 0.5 หรือ 1 นิ้วบริเวณขอบกระถาง จากนั้นก็วางตำแหน่งลำหน้าให้ดี คือให้อยู่บริเวณตรงกลางกระถาง และใช้ลวดยึดลำกล้วยไม้ไว้กับลวดแขวน ส่วนบริเวณโคนลำสามารถวางติดกับวัสดุปลูกได้เลย

หวาย หรือ เดนโดรเบียม (Dendrobium) ...

วิธีดูแลและการปลูกกล้วยไม้หวายให้ได้ใบ ดอก สวย
วิธีดูแลนั้นไม่ได้ยากจนเกินไป แต่ก็มีรายละเอียดต่าง ๆ ให้ต้องใส่ใจและศึกษากันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ต้องกังวลใจไปว่าจะยากจนเกินไป เพราะเชื่อได้เลยว่าใคร ๆ ก็สามารถปลูกและดูแลกล้วยไม้พันธุ์นี้ได้อย่างแน่นอน

ภาชนะสำหรับปลูก
สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มปลูกกล้วยไม้หวายสิ่งแรกที่ควรจะเตรียมหาซื้อไว้ก็คงจะหนีไม่พ้นภาชนะสำหรับการปลูก ซึ่งภาชนะสำหรับการปลูกกล้วยไม้พันธุ์นี้นั้นควรเป็นกระถางทรงปากกว้าง และมีการเจาะรูที่ก้นกระถางและรอบ ๆ กระถาง ซึ่งเป็นลักษณะที่เหมาะสำหรับกล้วยไม้ที่มีระบบรากแบบกึ่งอากาศ โดยรูรอบกระถางเหล่านี้จะทำให้รากรอบ ๆ ต้นสามารถโผล่ออกมาโดนอากาศได้มากขึ้น ส่วนจะใช้เป็นกระถางแบบวางบนพื้นหรือเป็นกระถางชนิดแขวนก็สามารถเลือกได้ตามความต้องการว่าจะจัดเรียงอย่างไรหรือต้องการตกแต่งบ้านแบบไหนนั่นเอง ส่วนชนิดของกระถางนั้น แบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ดังนี้

กระถางดินเผา
มักจะมีน้ำหนักที่มากกว่ากระถางพลาสติก ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการจัดวางบนพื้น โต๊ะ หรือพื้นที่ต่าง ๆ และไม่ควรใช้แขวนห้อยบนคานต่าง ๆ เพื่อประดับตกแต่ง เพราะอาจจะทำให้คานเกิดความเสียหายหากรับน้ำหนักมาก ๆ ไม่ได้ หรือหากติดตั้งไม่แน่นหนาก็อาจจะทำให้ตกลงมาแตกและอาจสร้างความเสียหายหรืออาจทำให้เกิดอันตรายกับคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านได้ แต่กระถางดินเผานั้นก็มีข้อดีที่สำคัญอยู่ข้อหนึ่ง นั่นก็คือสามารถระบายอากาศได้ดีทำให้กาบมะพร้าวไม้ชื้นมากจนเกินไปและช่วยให้ไม่เกิดเชื้อราที่รากอีกด้วย
กระถางพลาสติก เหมาะอย่างมากที่จะใช้แขวนบนคาน ราวระเบียงต่าง ๆ หรือบนกิ่งต้นไม้ เนื่องจากเป็นกระถางที่มีน้ำหนักเบา ขนย้ายได้ง่าย ดังนั้นจะแขวนเอาไว้ที่ระเบียงแล้วย้ายไปที่กิ่งไม้ในวันต่อมา ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้แรงมาก นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรง ทนทาน และไม่ต้องกลัวว่าจะเสื่อมสภาพหรือมีรอยแตกร้าวเช่นเดียวกับกระถางดินเผาอีกด้วย
ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหากล้วยไม้หวายมาตกแต่งภายในบ้าน ที่ทำงาน หรือคอนโดมิเนียม ก็อย่าลืมเลือกกระถางให้เหมาะกับการใช้งาน เพื่อที่จะได้มีกระถางที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและเหมาะสมกับพื้นที่ต่าง ๆ ได้มากที่สุดนั่นเอง
เครื่องปลูกกล้วยไม้หวายหลังจากเลือกภาชนะสำหรับใส่กันไปเรียบร้อยแล้ว คราวนี้มาลองทำความรู้กับเครื่องปลูกหรือวัสดุที่เอาไว้ใช้ปลูกสำหรับกล้วยไม้หวายกันบ้าง ว่าจริง ๆ แล้วการปลูกกล้วยไม้สายพันธุ์นี้นั้นควรจะมีเครื่องปลูกอะไร และเครื่องปลูกเหล่านั้นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อที่จะได้เลือกให้เหมาะกับการปลูกได้อย่างมากที่สุดนั่นเอง

กาบมะพร้าว, ถ่านไม้ และออสมันด้า

1. กาบมะพร้าว ถือเป็นเครื่องปลูกชนิดแรกที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะมีความเหมาะสมอย่างมากสำหรับการปลูกกล้วยไม้หวายแล้ว ยังสามารถหาซื้อได้ง่ายและมีราคาไม่แพงอีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่อยากจะปลูกกล้วยไม้ชนิดนี้หลาย ๆ ต้น แต่กลัวว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปลูกมากเกินไป ก็สามารถเลือกใช้กาบมะพร้าวเป็นทางเลือกในการใช้เป็นเครื่องปลูกได้ นอกจากนี้แล้วกาบมะพร้าวยังเป็นเครื่องปลูกที่สามารถอุ้มน้ำได้ดี ใครที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลหรือรดน้ำต้นกล้วยไม้บ่อย ๆ ก็สามารถเลือกใช้กาบมะพร้าวเป็นเครื่องปลูกได้เช่นเดียวกัน

2. ถ่านไม้ ยังคงเป็นอีกหนึ่งเครื่องปลูกที่มีราคาถูกและหาซื้อได้ง่ายเช่นเดียวกันกับกาบมะพร้าว นอกจากนี้ยังทนทาน ไม่ผุพังง่ายและยังช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในอากาศได้อีกด้วย ดังนั้นใครที่กำลังมองหาไม้ดอกไม้ประดับไว้ตกแต่งห้องน้ำที่ช่วยทั้งเรื่องความสวยงามและยังสามารถช่วยดูดซับกลิ่นอับต่าง ๆ ได้ด้วย การปลูกด้วยเครื่องปลูกประเภทถ่านน่าจะถือว่าตอบโจทย์ได้อย่างดีเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องปลูกประเภทถ่านนั้นก็ยังมีข้อเสียอยู่นั่นก็คือ มักเกิดเชื้อราได้ง่าย ดังนั้นเมื่อใช้ถ่านเป็นเครื่องปลูกแล้ว ควรหมั่นสังเกตลักษณะของถ่านบ่อย ๆ ว่ามีเชื้อราเกิดขึ้นหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อต้นไม้ของเรานั่นเอง

3. ออสมันด้า
ถือเป็นหนึ่งในเครื่องปลูกกล้วยไม้ที่ผู้ชื่นชอบกล้วยไม้นั้นน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับใครที่อยากปลูกแต่ยังไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย ก็คงกำลังสงสัยอยู่ว่าเครื่องปลูกอย่างออสมันด้านี้คืออะไร ออสมันด้านั้นเป็นเครื่องปลูกที่ทำมาจากรากของเฟิร์น ซึ่งจะมีลักษณะเป็นเส้นยาว ๆ สีน้ำตาลจนถึงสีดำ โดยออสมันด้านี้มีข้อดีก็คือสามารถถ่ายเทอากาศและระบายน้ำได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงเหมาะอย่างมากในการใช้ปลูกกล้วยไม้ที่มีระบบรากแบบกึ่งอากาศอย่างกล้วยไม้หวาย ส่วนในเรื่องของข้อเสียนั้นก็คือเครื่องปลูกอย่างออสมันด้านี้มีราคาที่แพงกว่าถ่าน หรือกาบมะพร้าว อย่างไรก็ตามอายุการใช้งานของออสมันด้าก็มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนานกว่าทั้งถ่านและกาบมะพร้าว โดยสามารถใช้ได้นาน 2 - 3 ปีเลยทีเดียว ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการใช้เครื่องปลูกอย่างออสมันด้าก็อย่าลืมที่จะสังเกตตะไคร้น้ำหรือเชื้อราต่าง ๆ ที่อาจขึ้นบนเครื่องปลูกชนิดนี้ได้เช่นเดียวกัน

การปลูกกล้วยไม้หวาย
การปลูกกล้วยไม้หวายนั้น ส่วนใหญ่มักมีการใช้เครื่องปลูกต่าง ๆ วางเป็นลำดับชั้นกันไป เพื่อให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของต้นกล้วยไม้มากที่สุดนั้นเอง โดยลำดับแรกในการปลูกนั้น ผู้ปลูกควรเลือกกระถางที่เหมาะสมกับการใช้งานและเหมาะกับขนาดของต้นกล้วยไม้ โดยหากเป็นกล้วยไม้ที่มีขนาดเล็กอาจะเลือกกระถางที่มีขนาดความสูงประมาณ 4 - 6 นิ้ว เพื่อไม่ให้ลำต้นของกล้วยไม้จมอยู่ในเครื่องปลูกมากจนเกินไป แต่สำหรับกล้วยไม้ที่มีลำต้นใหญ่มากขึ้นก็อาจจะต้องซื้อกระถางที่มีขนาด 8 - 10 นิ้วตามลำดับ โดยเมื่อเลือกกระถางได้แล้วลำดับต่อไปผู้ปลูกควรใช้ถ่านรองไว้ที่บริเวณก้นกระถาง เนื่องจากถ่านนั้นจะสามารถระบายน้ำหรือความอับชื้นต่าง ๆ ได้โดยง่าย ซึ่งจะช่วยให้ตัวรากหรือลำต้นไม่เน่าเปื่อยนั่นเอง โดยในส่วนต่อมาสำหรับใครที่มีงบน้อยอาจะใช้กาบมะพร้าวโรยในเต็มกระถางจากนั้นใช้นิ้วจิ้มตรงกลางเพื่อให้มีรู โดยกะให้ใหญ่กว่าขนาดของลำต้นของต้นกล้วยไม้เล็กน้อย เพื่อที่จะได้สามารถนำต้นกล้วยไม้ลงในกระถางได้ แต่สำหรับใครที่อาจจะมีงบประมาณมากขึ้นมาหน่อยและอยากที่จะใช้เครื่องปลูกอย่างออสมันด้าก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยใช้วิธีเดียวกับการใช้กาบมะพร้าว โดยเมื่อนำกล้วยไม้หวายลงกระถางเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็สามารถใช้ออสมันด้าหรือกาบมะพร้าวถมทับส่วนที่เหลือของรูปให้แน่น เท่านั้นก็ถือว่าเสร็จขั้นตอนการปลูกเป็นที่เรียบร้อย

ข้อควรระวังในการปลูกกล้วยไม้หวาย
แน่นอนว่าวิธีดูไม่ได้ยากอย่างที่คิดก็จริง แต่ก็ยังต้องมีข้อควรระวังที่ควรศึกษาไว้อยู่บ้าง เพื่อให้เราสามารถปลูกต้นกล้วยไม้สายพันธุ์นี้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์นั่นเอง

1. ไม่ควรปลูกกล้วยไม้หนาแน่นเกินไป
เนื่องจากอาจจะทำให้กล้วยไม้ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ดีและอาจมีการรดน้ำไม้ทั่วถึง ดังนั้นสำหรับใครที่อยากเห็นดอกของกล้วยไม้เรียงช่อสวยงาม ก็ควรที่จะปลูกกล้วยไม้หนึ่งต้นต่อหนึ่งกระถางเท่านั้น โดยอาจใช้วิธีปลูกหลาย ๆ กระถางแทนการนำกล้วยไม้ทั้งหมดมายัดรวมไว้ในกระถางเดียว เพราะนอกจากจะทำให้กล้วยไม้ไม่สามารถเติบโตได้เติมที่แล้ว ยังอาจทำให้รากเน่าหรือไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการงอกของราก ซึ่งอาจส่งผลให้กล้วยไม้ชนิดนี้ตายลงในที่สุด
2. ไม่ควรรดน้ำบ่อยครั้งจนเกินไป
เนื่องจากจะทำให้เครื่องปลูกต่าง ๆ มีความชื้นอยู่ตลอดเวลาและอาจทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของเชื้อราตามมาได้
3. โรคและแมลง
แม้ว่ากล้วยไม้หวายจะเป็นไม้ดอกไม้ประดับที่มีความทนทานทั้งทนร้อนทนฝนได้อย่างดี แต่ศัตรูอีกอย่างหนึ่งของกล้วยไม้ชนิดนี้ที่หลีกเลี่ยงได้ยากนั่นก็คือโรคและแมลงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคเน่าดำ โนคดอกสนิม โรคใบปื้นเหลือง หรือปัญหาเพลี้ยไฟ และไรแดงต่าง ๆ ซึ่งปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้โดยตัวผู้ปลูกเอง โดยการใส่ใจสังเกตและทำความสะอาดกระถางและเครื่องปลูกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

รองเท้านารี (VenusSlipper,Paphiopedilum) ...

สูตรวัสดุปลูกเลี้ยงกล้วยไม้รองเท้านารีให้งาม
กล้วยไม้รองเท้านารี (Lady Slipper) นักพฤกษศาสตร์ได้จำแนกไว้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มแรก เป็นประเภทที่ขึ้นอยู่ตามพื้นดินที่มีเศษซากใบไม้ผุทับถมกันอยู่ ตัวอย่าง รองเท้านารีคางกบ
กลุ่มที่สอง เป็นประเภทอิงอาศัยอยู่ตามร่มเงาบนคาคบต้นไม้ ตัวอย่าง รองเท้านารีอินทนนท์
และกลุ่มที่สาม เจริญเติบโตอยู่ตามหน้าผาหินปูน ที่มีเศษซากพืชติดค้างทับถมกัน แทรกอยู่ตามรอยแยกของผาหิน ตัวอย่าง รองเท้านารีคางกบ
กลุ่มที่สอง เป็นประเภทอิงอาศัยอยู่ตามร่มเงาบนคาคบต้นไม้ ตัวอย่าง รองเท้านารีอินทนนท์

และกลุ่มที่สาม เจริญเติบโตอยู่ตามหน้าผาหินปูน ที่มีเศษซากพืชติดค้างทับถมกัน แทรกอยู่ตามรอยแยกของผาหิน ตัวอย่าง รองเท้านารีเหลืองตรัง ดังนั้น การเตรียมวัสดุปลูกเลี้ยงกล้วยไม้รองเท้านารีแต่ละชนิดจึงแตกต่างกันไปตามกลุ่ม หรือชนิดที่จำแนกไว้ข้างต้น ทั้งนี้ วัสดุปลูกกล้วยไม้รองเท้านารี ต้องทำเป็น 2 ชั้น ตามความสูงของกระถาง หรือภาชนะปลูก หากใช้กระถางดินเผาที่มีรูรอบข้าง ข้อดีคือ สามารถรักษาความชื้นได้ดี แต่มีข้อเสียที่มีน้ำหนักมากและราคาแพง กระถางพลาสติก ข้อดีคือ หาง่ายและน้ำหนักเบา
ข้อเสีย ความสามารถการระเหยน้ำเกิดขึ้นได้น้อย และ กระเช้า หรือกระถางไม้ เหมาะสำหรับกลุ่มอิงอาศัยอยู่ตามคาคบไม้ ส่วนผสมของวัสดุปลูกที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มกล้วยไม้
กลุ่มอาศัยตามพื้นดิน ให้ใส่วัสดุเป็น 2 ชั้น ตามที่อธิบายมาแล้ว ชั้นล่างใส่วัสดุปลูก ปริมาณ 2 ใน 3 ส่วน ตามความสูงของกระถาง วัสดุปลูกประกอบด้วยโฟมหักเป็นชิ้นเล็กๆ กระถางดินเผาแตก และอิฐหัก อัตรา 1 : 1 : 1 ส่วนบนของกระถาง ใช้ปริมาณ 1 ใน 3 ของกระถาง หรือภาชนะปลูก มีกาบมะพร้าวสับ ใบก้ามปูหมัก และพีทมอสในอัตราส่วน 2 : 2 : 1 วัสดุปลูกทุกชิ้นต้องคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนใส่ลงใน

ภาชนะปลูก
กลุ่มอิงอาศัยตามคาคบไม้ ปฏิบัติเช่นเดียวกับกลุ่มแรก วัสดุปลูกด้านล่างของกระถาง ใช้ส่วนผสมของรากเฟิร์นออสมันด้า เปลือกต้นสน และโฟมหักเป็นชิ้นเล็กๆ อัตราส่วนผสม 1 : 1 : 1 วัสดุปลูกส่วนบนมีกาบมะพร้าวสับ และเปลือกถั่ว อัตรา 1 : 1 และ กลุ่มที่สาม อาศัยอยู่ตามซอกหินตามหน้าผาหินปูน วัสดุปลูกด้านล่างใช้ส่วนผสมของหินภูเขาไฟ ถ่านไม้ และกระถางแตก อัตรา 1 : 1 : 1 ส่วนบนใช้กาบมะพร้าวสับ ใบก้ามปูหมัก และเปลือกถั่ว อัตรา 1 : 1 : 1

แวนด้า (Vanda) ...

วิธีดูแลกล้วยไม้ สกุลแวนด้า เลี้ยงยังไงให้ออกดอกสวย

ต้นไม้ ดอกไม้ ทั้งหลาย ก็ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตอีกประเภทหนึ่ง การเลี้ยงดูและบำรุงรักษาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก การให้น้ำ ให้ปุ๋ย รวมไปถึงการให้สารอาหารเสริมต่าง ๆ เราจึงจำเป็นต้องรู้ถึงปริมาณที่เหมาะสม อีกทั้งการจัดสถานที่ไว้สำหรับพวกเขาก็สำคัญเช่นกัน ดังนั้นก่อนการตัดสินเลี้ยง ต้นไม้และพืช เราจึงควรศึกษาให้ละเอียดรอบคอบเสียก่อน เพื่อที่จะได้เรียนรู้ถึงพวกเขามากขึ้น และวันนี้เราจะมาพูดถึง กล้วยไม้สกุลแวนด้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสกุลที่วิธีการเลี้ยงไม่ได้ยากหรือซับซ้อนมากเกินไป เราจะมาพูดถึง กล้วยไม้สกุลแวนด้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสกุลที่วิธีการเลี้ยงไม่ได้ยากหรือซับซ้อนมากเกินไป เราจะมาดูว่าวิธีการดูแลรักษาแวนด้าทำได้อย่างไรบ้าง แวนด้า ออกดอกปีละกี่ครั้ง และอะไรคือสิ่งที่แวนด้าชอบ

ห้ามมืดสนิท สำหรับแวนด้า การถูกเลี้ยงกลางแดดหรือในร่มที่มืดสนิท จะไม่ส่งผลดีต่อแวนด้า เพราะแวนด้าชอบที่ที่มีแสงแดดรำไร ถ้าหากปลูกในโรงเรือนก็ต้องมีการพรางแสงให้เขาสักเล็กน้อยค่ะ
ทำเลในการจัดวาง กล้วยไม้ควรนำไปแขวนให้ด้านหนึ่งไปทางทิศตะวันออกและอีกด้านหนึ่งไปทางทิศตะวันตก
ทริคการถ่ายลงกระถาง สำหรับคนที่กำลังจะเตรียมถ่ายกล้วยไม้ลงสู่กระถางก็มีทริคเล็ก ๆ มาฝากกันค่ะ สิ่งสำคัญคือ ห้ามดึงตัวกล้วยไม้ เพราะจะทำให้เสียหายได้ แต่ควรนำไปแช่น้ำ ก่อน จากนั้นจึงค่อยนำลงกระถาง


น้ำ นอกจากนี้น้ำก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สำคัญสำหรับแวนด้า ไม่ควรให้น้ำเยอะไปหรือไม่น้อยไป วิธีเช็คให้ลองม้วนรากดู หากรากมีลักษณะนิ่ม ๆ แปลว่าน้ำเพียงพอ แต่หากรากแตกหัก แปลว่าให้น้ำน้อยไป
ปุ๋ย อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือปุ๋ยนั่นเอง สำหรับสูตรการการให้ปุ๋ยกับแวนด้าแต่ละคนก็มีเทคนิคต่างกันออกไป เช่น บางคนจะให้สูตร 21-21-21 สัปดาห์ละ 1 ครั้ง และอย่าลืมฉีดพ่นยาเพื่อป้องกันโรคและแมลง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน

ฟาแลนนอปซิส

(Moth Orchid,Phalaenopsis)

ฟาแลนนอปซิสเป็นกล้วยไม้ที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว ใบค่อนข้างหนาซึ่งต้องระวังในเรื่องความชื้นที่มีมากไปก็จะทำให้ต้นและใบ
เน่าได้ง่าย สามารถปลูกลงกระถางโดยการปลูกจะต้องให้โคนต้นและรากส่วนบน อยู่เหนือเครื่องปลูกขึ้นมา แต่อยู่ต่ำกว่าระดับขอบกระถาง ซึ่งจะดูสวยงามและป้องกันไม่ให้โคนต้นและโคนใบได้รับความชื้นมากเกินไปจนทำให้เน่า ฤดูที่เหมาะสมในการปลูกประมาณเดือนมีนาคม หรือก่อนเข้าฤดูฝน เพราะถ้าปลูกหลังจากที่เข้าฤดูฝนแล้ว อากาศมีความชื้นสูง อาจทำให้กล้วยไม้อวบน้ำมากเกินไปจนเน่าได้ ดังนั้นจึงต้องควบคุมเรื่องน้ำและความชื้นค่อนข้างมาก หรือบางคนอาจปลูกโดยให้ต้นกล้วยไม้เกาะตอไม้หรือกิ่งไม้ก็สามารถทำได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดปัญหาน้ำฝนที่ตกลงมาขังในส่วนโคนต้นและใบได้ เพราะไม่มีเครื่องปลูกที่อมความชื้นไว้ น้ำที่ขังอยู่ที่ใบก็จะระเหยออกไปอย่างรวดเร็ว
โดยทั่วไปอาจใช้เครื่องปลูกเป็นออสมันดา มะพร้าวสับหรือใยมะพร้าวก็ได้ สำหรับภาชนะทั่วไปใช้กระถางดินเผาแต่ถ้าไม่สะดวกอาจใช้กระถางพลาสติกแทนได้ โดยวางกล้วยไม้ให้โคนต้นอยู่ต่ำกว่าขอบกระถาง สำหรับการใช้ออสมันดาให้ปลูกลงในกระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 นิ้ว ต้องระวังอย่าให้แน่นมากนักพอให้พยุงลำต้นได้ หากต้นโตมากขึ้นให้เปลี่ยนกระถางเป็น 2 นิ้ว การปลูกโดยใช้มะพร้าวสับหรือใยมะพร้าวก็ใช้วิธีการเดียวกันแต่ต้องระวังในเรื่องความสะอาดและความชื้นมิให้ชื้นแฉะทิ้งไว้เป็นเวลานาน การปลูกกล้วยไม้สกุลนี้มักปลูกก่อนฤดูฝนเนื่องจากถ้าปลูกในฤดูฝนอาจทำให้เกิดใบและยอดเน่า

แสงแดด
ควรมีการกรองแสงประมาณ 60 – 70 % อากาศถ่ายเทสะดวก

น้ำ
รดน้ำในเวลาเช้าก่อนแสงอาทิตย์ส่อง โดยใช้หัวฉีดเป็นฝอยละเอียด ในฤดูฝนต้องระวังมิให้ใบโดนน้ำฝนจนช้ำ โดยเฉพาะลูกกล้วยไม้ อาจปลูกโดยแขวนต้นให้สูงจากพื้นมาถึงระดับเอวหรือวางไว้บนโต๊ะ


ปุ๋ย
ให้ปุ๋ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยใช้สูตร 16 – 21 – 27 หรือใช้สูตรอื่นได้แต่ควรเน้นให้มีโพแทสเซียมสูงเพื่อช่วยรักษาความสมบูรณ์แข็งแรงของ

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทางเราคิดว่าคุณอาจอยากหันมากปลูกกล้วยไม้กันบ้างแล้วและเรายังหวังว่าข้อมูลข้างต้นที่จะมีประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านไม่มาก็ก็น้อย

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ote1986's profile


โพสท์โดย: ote1986
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: ote1986
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568จบเห่! DSI สั่งฟ้อง 18 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป ข้อหาอื้อ ฉาวสะเทือนวงการ!คลิปไวรัล คุณยายวัย 95 ปี หัวเราะจนหงายหลัง ชาวเน็ตเเห่ถามคุณยายเป็นอะไรอย่าท้าทายระบบ! "สารวัตรแจ๊ะ" เผยสาเหตุที่ต้องใส่แมสก์ และสวมหมวกตลอดเวลา"เหมือนเป๊ะ! แตงโมจัดเต็มโคฟเวอร์ 'เจ๊มิ่ง' แซ่บเวอร์ทุกดีเทล"โบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี แห่งไซบีเรีย ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาที่รอคำตอบน้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่นBaby V.O.X เกิร์ลกรุ๊ประดับตำนานของเกาหลี คัมแบ๊กในรอบ 14 ปี นำโดย 'ยุนอึนเฮ'เชน ธนา การเงินวิกฤตหนัก ตัดใจประกาศขายออฟฟิศ 3 ตึก ราคารวมเกือบร้อยล้านชั่วขณะสุดท้ายของชีวิต หากถูกประหารด้วยกิโยติน เราจะรู้สึกอย่างไร?ชาวต่างด้าวข้ามฝั่งมาคลอดฟรี คนไทยเสียงแตก งานนี้ใครได้ ใครเสียฮือฮาเหนือท้องฟ้าประเทศไทยหลายพื้นที่! แห่สงสัย มนุษย์ต่างดาว?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
รีบมา! คืนนี้วันสุดท้ายแล้ว "ตำรวจตกน้ำ" ไวรัลสุดเสียวกาชาด 2567 หล่อ เปียก ฮา พุ่งกระจาย!อย่าท้าทายระบบ! "สารวัตรแจ๊ะ" เผยสาเหตุที่ต้องใส่แมสก์ และสวมหมวกตลอดเวลาสั่งพักงานยกชุด! 18 ตำรวจจราจร ปมตั้งโต๊ะจับปรับ 'เจอจ่ายจบ'"ร่วมส่งใจ อาเป็ด เชิญยิ้ม แอดมิตด่วน เจอพิษ “โนโรไวรัส” ยังไม่มียา-วัคซีน ชวนป้องกัน กินสุกลดเสี่ยง ล้างมือบ่อย #ลดเสี่ยงโรคโบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี แห่งไซบีเรีย ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาที่รอคำตอบ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
จริงไหมที่คำว่า ‘Salary’ มาจาก ‘Salt’ เพราะทหารโรมันรับค่าจ้างเป็นเกลือ?อยากโกอินเตอร์? เจาะลึกวิธีหางานต่างประเทศ 2567 แบบถูกกฎหมาย ได้สิทธิเต็มที่ ไม่มีโดนหลอก!ชาวต่างด้าวข้ามฝั่งมาคลอดฟรี คนไทยเสียงแตก งานนี้ใครได้ ใครเสียชั่วขณะสุดท้ายของชีวิต หากถูกประหารด้วยกิโยติน เราจะรู้สึกอย่างไร?
ตั้งกระทู้ใหม่