โรคระบาดครั้งแรกของโลก
โรคระบาดครั้งแรกของโลกที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์คือ โรคฝีดาษ (smallpox) โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่ติดต่อผ่านทางละอองฝอยจากการไอจามหรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย
โรคฝีดาษมีอาการเริ่มต้นคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หลังจากนั้นจะมีผื่นขึ้นตามใบหน้า ลำตัว และแขนขา โดยผื่นจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง ต่อมาตุ่มจะกลายเป็นตุ่มหนองและตกสะเก็ด ผู้ป่วยบางรายอาจเสียชีวิตจากโรคนี้
โรคฝีดาษระบาดครั้งแรกในทวีปแอฟริกา เมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล และแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โรคนี้คร่าชีวิตผู้คนไปนับล้านคน
ในปี ค.ศ. 1796 แพทย์ชาวอังกฤษชื่อ เอ็ดเวิร์ด เจนเนอร์ ค้นพบว่าการนำเชื้อฝีดาษวัวมาฉีดให้มนุษย์สามารถป้องกันโรคฝีดาษได้ วัคซีนฝีดาษได้รับการพัฒนาขึ้นและนำไปใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก ทำให้โรคฝีดาษเป็นโรคที่ถูกกำจัดไปจากโลกได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1980
นอกจากโรคฝีดาษแล้ว โรคระบาดอื่นๆ ที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ได้แก่
- โรคกาฬโรค (Black Death) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อผ่านทางเห็บที่อยู่บนหนู โรคนี้ระบาดครั้งแรกในยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 14 และคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 20 ล้านคน
- โรคห่า (Plague) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อผ่านทางสัตว์ฟันแทะ โรคนี้ระบาดครั้งใหญ่ในจีนในช่วงศตวรรษที่ 14 และแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 50 ล้านคน
- โรคอหิวาตกโรค (Cholera) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อผ่านทางน้ำหรืออาหารปนเปื้อน โรคนี้ระบาดครั้งใหญ่ในยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 19 และแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 10 ล้านคน
- ไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish flu) เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ระบาดครั้งแรกในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 1 ในช่วงปี ค.ศ. 1918-1920 ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปทั่วโลกมากกว่า 50 ล้านคน
- โรคเอดส์ (AIDS) เกิดจากเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ที่ติดต่อผ่านทางเลือด สารคัดหลั่งทางเพศ หรือจากแม่สู่ลูก โรคนี้ระบาดครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษที่ 1980 และแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปทั่วโลกมากกว่า 35 ล้านคน
โรคระบาดเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชากรโลก ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งในด้านชีวิตและทรัพย์สิน