หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

มาทำความรู้จักกับกล้วยสายพันธุ์แปลก 9 ชนิด ปลูกกิน ปลูกขาย ปลูกประดับ ได้ทั้งนั้น

โพสท์โดย buay1975

กล้วยสายพันธุ์แปลก 9 ชนิด ปลูกกิน ปลูกขาย ปลูกประดับ

กล้วยเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น นิยมปลูกเพื่อรับประทานผลเป็นหลัก แต่นอกจากกล้วยสายพันธุ์ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว ยังมีกล้วยสายพันธุ์แปลก ๆ อีกมากมายที่มีลักษณะโดดเด่นและน่าสนใจ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับกล้วยสายพันธุ์แปลก 9 ชนิดกันครับ

1.กล้วยรัตกัทลี 

 


ภาพ https://www.kasettambon.com

ชื่อท้องถิ่น รัตกัทลี, กล้วยกัทลีสีส้ม, กล้วยกัทลี, Red dwarf banana, scarlet banana

ลักษณะลำต้น : ลำต้นสูงประมาณ 1-2 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นเทียมน้อยกว่า 15 เซนติเมตร การแตกหน่อถี่ ลำต้นสีเขียวปนเหลืองมีประดำบนลำต้นมาก ไม่มีนวล บริเวณโคนต้นสีเขียว

ใบ : ขอบก้านใบตั้งขึ้นไม่มีสีชมพู เส้นกลางใบสีเขียว บริเวณโคนก้านใบมีปีก บริเวณฐานใบไม่เท่ากัน

ก้านช่อดอก : ก้านช่อดอกไม่โผล่ออกมานอกกาบปลี ช่อดอกหรือปลี รูปไข่ชี้ตั้งขึ้นสีแดง

ลักษณะของใบประดับ : ปลายใบประดับมน ขอบใบประดับม้วนเข้าหากัน ใบประดับไม่มีนวล

ลักษณะดอก : กลุ่มดอกตัวเมียบานเมื่อช่อดอกยังโผล่ไม่พ้นกาบ จำนวนดอกย่อย 1-2 ดอกต่อช่อดอกย่อย ดอกย่อยกลีบรวมสีส้มเข้ม ปลายกลีบเป็นสีเขียว กลีบรวมจะหุ้มกลีบรวมเดี่ยวปิดสนิท กลีบรวมเดี่ยวบาง รูปร่างคล้ายดาบ ไม่มีรอยหยักบริเวณปลายกลีบ

แหล่งที่พบ : พบในจีน พม่า อินโดนีเชีย และอินเดีย

2. กล้วยบัวม่วง



ภาพ https://www.kasettambon.com

กล้วยบัวม่วงเป็นกล้วยสายพันธุ์หนึ่งที่พบมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะลำต้นเตี้ย สูงประมาณ 1-2 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นเทียมน้อยกว่า 15 เซนติเมตร ใบมีสีเขียวปนเหลืองมีประดำบนลำต้นมาก ไม่มีนวล ใบประดับสีม่วงชมพู ช่อดอกเป็นรูปไข่ชี้ตั้งขึ้น ผลสุกสีเหลือง เนื้อแน่น เหนียว มักนำมาทำให้สุกก่อนกิน ไม่มีเมล็ด

กล้วยบัวม่วงเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น นิยมปลูกเป็นไม้ประดับเพราะใบประดับสีม่วงชมพูสวยงาม นอกจากนี้ยังนิยมปลูกเพื่อรับประทานผลอีกด้วย

ข้อมูลจำเพาะของกล้วยบัวม่วง

  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Musa ornata Roxb.
  • ชื่อสามัญ: Water plantain, ornamental banana, ornamental plantain
  • ชื่อพื้นเมือง: กล้วยบัว, กล้วยบัวสวรรค์
  • ถิ่นกำเนิด: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
    • ลำต้น: ลำต้นเทียมสูงประมาณ 1-2 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นเทียมน้อยกว่า 15 เซนติเมตร
    • ใบ: ใบมีสีเขียวปนเหลืองมีประดำบนลำต้นมาก ไม่มีนวล ใบประดับสีม่วงชมพู
    • ดอก: ช่อดอกเป็นรูปไข่ชี้ตั้งขึ้น
    • ผล: ผลสุกสีเหลือง เนื้อแน่น เหนียว มักนำมาทำให้สุกก่อนกิน ไม่มีเมล็ด

ประโยชน์ของกล้วยบัวม่วง

  • ปลูกเป็นไม้ประดับเพราะใบประดับสีม่วงชมพูสวยงาม
  • รับประทานผลสุก
  • ใบอ่อนใช้เป็นอาหารได้
  • ลำต้นและใบใช้ทำยาได้

3.กล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่าง 

 


ภาพ www.nanagarden.com

กล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่างเป็นกล้วยสายพันธุ์หนึ่งในตระกูลกล้วยน้ำว้า มีลักษณะเด่นคือ มีใบและผลที่มีลายด่างขาวปนสีเขียวคล้ายกับไอศกรีม จึงเป็นที่มาของชื่อ "ไอศกรีม" นั่นเอง

กล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่างมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พบครั้งแรกที่จังหวัดจันทบุรี ต่อมาได้แพร่กระจายไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย นิยมปลูกเพื่อรับประทานผลเป็นหลัก เนื่องจากมีรสชาติหวานหอมอร่อย เนื้อแน่น เหนียว

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่าง

  • ลำต้น: ลำต้นเทียมสูงประมาณ 3-5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นเทียมประมาณ 20-30 เซนติเมตร
  • ใบ: ใบมีสีเขียวปนเหลือง มีลายด่างขาวปนสีเขียวคล้ายกับไอศกรีม ใบกว้างประมาณ 20-30 เซนติเมตร ยาวประมาณ 60-90 เซนติเมตร
  • ดอก: ช่อดอกเป็นรูปไข่ชี้ตั้งขึ้น ดอกมีสีขาว
  • ผล: ผลมีสีเขียวปนเหลือง มีลายด่างขาวปนสีเขียวคล้ายกับไอศกรีม ผลยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางผลประมาณ 5-7 เซนติเมตร

ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่าง

  • รับประทานผลสุก รสชาติหวานหอมอร่อย เนื้อแน่น เหนียว
  • ใบอ่อนใช้เป็นอาหารได้ เช่น แกงหยวกกล้วย แกงส้มใบกล้วย
  • ลำต้นและใบใช้ทำยาได้ เช่น แก้ท้องเสีย แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ

การขยายพันธุ์กล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่าง

กล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่างสามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งแบบใช้หน่อและแบบใช้เมล็ด

การขยายพันธุ์แบบใช้หน่อ

  • เลือกหน่อที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • ปักชำหน่อลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การขยายพันธุ์แบบใช้เมล็ด

  • เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • เพาะเมล็ดลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลรักษากล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่าง

กล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่างเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องการน้ำปานกลาง ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี

การให้น้ำ

ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 2-3 วัน/ครั้ง ในช่วงที่กล้วยกำลังออกดอกและติดผล ควรให้น้ำมากขึ้น

การให้ปุ๋ย

ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 1-2 กิโลกรัม/ต้น/เดือน ในช่วงที่กล้วยกำลังเจริญเติบโต

การกำจัดวัชพืช

กำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นกล้วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นกล้วย

การใส่ไม้ค้ำยัน

เมื่อกล้วยเริ่มสูง ควรใส่ไม้ค้ำยันไว้เพื่อป้องกันกล้วยหัก

โรคและแมลงศัตรูพืช

โรคและแมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่าง ได้แก่

  • โรคใบจุด
  • โรคใบไหม้
  • โรคราแป้ง
  • โรคราสนิม
  • หนอนเจาะลำต้น
  • หนอนเจาะผล

การป้องกันและกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช

  • ตัดแต่งใบและกิ่งที่เป็นโรคหรือถูกแมลงทำลายทิ้ง
  • ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

กล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่างเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรสชาติอร่อย รับประทานง่าย ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น จึงทำให้กล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่างเป็นพืชที่ได้รับความนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย

4.กล้วยฮัวเมา 


ภาพ www.nanagarden.com

กล้วยฮัวเมา หรือ กล้วยฮัวอามูอา เป็นกล้วยสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างกล้วยบัวชมพูกับกล้วยบัวสีส้ม โดยนายสุทธิพันธุ์ บุญใจใหญ่ เกษตรกรชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2557

กล้วยฮัวเมามีลักษณะเด่นคือ มีลำต้นสูงใหญ่ ผลใหญ่ ผลรูปทรงรี ผิวผลเรียบ เปลือกผลบาง ผลสุกมีสีเหลือง เนื้อสีเหลืองนวล เนื้อแน่น รสชาติหวานหอมอร่อย

กล้วยฮัวเมาเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำดี ต้องการน้ำปานกลาง นิยมปลูกเพื่อรับประทานผลเป็นหลัก

ระยะเวลาการปลูกกล้วยฮัวเมาตั้งแต่ปลูกจนออกผลใช้เวลาประมาณ 8-9 เดือน ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 2-3 ตัน

ประโยชน์ของกล้วยฮัวเมา

  • รับประทานผลสุก รสชาติหวานหอมอร่อย
  • ใบอ่อนใช้เป็นอาหารได้ เช่น แกงหยวกกล้วย แกงส้มใบกล้วย
  • ลำต้นและใบใช้ทำยาได้ เช่น แก้ท้องเสีย แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ

การขยายพันธุ์กล้วยฮัวเมา

กล้วยฮัวเมาสามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งแบบใช้หน่อและแบบใช้เมล็ด

การขยายพันธุ์แบบใช้หน่อ

  • เลือกหน่อที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • ปักชำหน่อลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การขยายพันธุ์แบบใช้เมล็ด

  • เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • เพาะเมล็ดลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลรักษากล้วยฮัวเมา

กล้วยฮัวเมาเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องการน้ำปานกลาง ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี

การให้น้ำ

ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 2-3 วัน/ครั้ง ในช่วงที่กล้วยกำลังออกดอกและติดผล ควรให้น้ำมากขึ้น

การให้ปุ๋ย

ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 1-2 กิโลกรัม/ต้น/เดือน ในช่วงที่กล้วยกำลังเจริญเติบโต

การกำจัดวัชพืช

กำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นกล้วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นกล้วย

การใส่ไม้ค้ำยัน

เมื่อกล้วยเริ่มสูง ควรใส่ไม้ค้ำยันไว้เพื่อป้องกันกล้วยหัก

โรคและแมลงศัตรูพืช

โรคและแมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกล้วยฮัวเมา ได้แก่

  • โรคใบจุด
  • โรคใบไหม้
  • โรคราแป้ง
  • โรคราสนิม
  • หนอนเจาะลำต้น
  • หนอนเจาะผล

การป้องกันและกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช

  • ตัดแต่งใบและกิ่งที่เป็นโรคหรือถูกแมลงทำลายทิ้ง
  • ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

กล้วยฮัวเมาเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรสชาติอร่อย รับประทานง่าย ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น จึงทำให้กล้วยฮัวเมาเป็นพืชที่ได้รับความนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย

5.กล้วยนมสาว


ภาพ https://www.kasettambon.com

กล้วยนมสาวเป็นกล้วยสายพันธุ์หนึ่งที่พบมากในภาคใต้และภาคตะวันตกของประเทศไทย มีลักษณะเด่นคือ มีลำต้นสูงใหญ่ ผลใหญ่ ผลรูปทรงรี ผิวผลเรียบ เปลือกผลบาง ผลสุกมีสีเหลืองอมส้ม เนื้อสีเหลืองนวล เนื้อแน่น รสชาติหวานหอมอร่อย

กล้วยนมสาวเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำดี นิยมปลูกเพื่อรับประทานผลเป็นหลัก

ระยะเวลาการปลูกกล้วยนมสาวตั้งแต่ปลูกจนออกผลใช้เวลาประมาณ 9-10 เดือน ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 2-3 ตัน

ประโยชน์ของกล้วยนมสาว

  • รับประทานผลสุก รสชาติหวานหอมอร่อย
  • ใบอ่อนใช้เป็นอาหารได้ เช่น แกงหยวกกล้วย แกงส้มใบกล้วย
  • ลำต้นและใบใช้ทำยาได้ เช่น แก้ท้องเสีย แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ

การขยายพันธุ์กล้วยนมสาว

กล้วยนมสาวสามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งแบบใช้หน่อและแบบใช้เมล็ด

การขยายพันธุ์แบบใช้หน่อ

  • เลือกหน่อที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • ปักชำหน่อลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การขยายพันธุ์แบบใช้เมล็ด

  • เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • เพาะเมล็ดลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลรักษากล้วยนมสาว

กล้วยนมสาวเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องการน้ำปานกลาง ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี

การให้น้ำ

ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 2-3 วัน/ครั้ง ในช่วงที่กล้วยกำลังออกดอกและติดผล ควรให้น้ำมากขึ้น

การให้ปุ๋ย

ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 1-2 กิโลกรัม/ต้น/เดือน ในช่วงที่กล้วยกำลังเจริญเติบโต

การกำจัดวัชพืช

กำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นกล้วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นกล้วย

การใส่ไม้ค้ำยัน

เมื่อกล้วยเริ่มสูง ควรใส่ไม้ค้ำยันไว้เพื่อป้องกันกล้วยหัก

โรคและแมลงศัตรูพืช

โรคและแมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกล้วยนมสาว ได้แก่

  • โรคใบจุด
  • โรคใบไหม้
  • โรคราแป้ง
  • โรคราสนิม
  • หนอนเจาะลำต้น
  • หนอนเจาะผล

การป้องกันและกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช

  • ตัดแต่งใบและกิ่งที่เป็นโรคหรือถูกแมลงทำลายทิ้ง
  • ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

กล้วยนมสาวเป็นพืชที่มีประโยชน์หลากหลาย นิยมรับประทานสดหรือนำไปทำอาหารหลากหลายเมนู จึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อประเทศไทย

6.กล้วยผาปลีม่วง (แดง) 

กล้วยผาปลีม่วง (แดง) เป็นกล้วยสายพันธุ์หนึ่งที่พบมากในภาคเหนือของประเทศไทย มีลักษณะเด่นคือ มีลำต้นเตี้ย สูงประมาณ 1-2 เมตร ใบมีสีเขียวปนเหลือง มีประดำบนลำต้นมาก ไม่มีนวล ใบประดับสีแดงสดหรือสีแดงอมชมพู ช่อดอกเป็นรูปไข่ชี้ตั้งขึ้น ผลสุกสีเหลือง เนื้อแน่น เหนียว มักนำมาทำให้สุกก่อนกิน ไม่มีเมล็ด

กล้วยผาปลีม่วงเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น นิยมปลูกเป็นไม้ประดับเพราะใบประดับสีแดงสดสวยงาม นอกจากนี้ยังนิยมปลูกเพื่อรับประทานผลอีกด้วย

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกล้วยผาปลีม่วง

  • ลำต้น: ลำต้นเทียมสูงประมาณ 1-2 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นเทียมน้อยกว่า 15 เซนติเมตร
  • ใบ: ใบมีสีเขียวปนเหลือง มีประดำบนลำต้นมาก ไม่มีนวล ใบประดับสีแดงสดหรือสีแดงอมชมพู
  • ดอก: ช่อดอกเป็นรูปไข่ชี้ตั้งขึ้น
  • ผล: ผลสุกสีเหลือง เนื้อแน่น เหนียว มักนำมาทำให้สุกก่อนกิน ไม่มีเมล็ด

ประโยชน์ของกล้วยผาปลีม่วง

  • ปลูกเป็นไม้ประดับเพราะใบประดับสีแดงสดสวยงาม
  • รับประทานผลสุก
  • ใบอ่อนใช้เป็นอาหารได้
  • ลำต้นและใบใช้ทำยาได้

การขยายพันธุ์กล้วยผาปลีม่วง

กล้วยผาปลีม่วงสามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งแบบใช้หน่อและแบบใช้เมล็ด

การขยายพันธุ์แบบใช้หน่อ

  • เลือกหน่อที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • ปักชำหน่อลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การขยายพันธุ์แบบใช้เมล็ด

  • เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • เพาะเมล็ดลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลรักษากล้วยผาปลีม่วง

กล้วยผาปลีม่วงเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องการน้ำปานกลาง ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี

การให้น้ำ

ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 2-3 วัน/ครั้ง ในช่วงที่กล้วยกำลังออกดอกและติดผล ควรให้น้ำมากขึ้น

การให้ปุ๋ย

ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 1-2 กิโลกรัม/ต้น/เดือน ในช่วงที่กล้วยกำลังเจริญเติบโต

การกำจัดวัชพืช

กำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นกล้วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นกล้วย

การใส่ไม้ค้ำยัน

เมื่อกล้วยเริ่มสูง ควรใส่ไม้ค้ำยันไว้เพื่อป้องกันกล้วยหัก

โรคและแมลงศัตรูพืช

โรคและแมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกล้วยผาปลีม่วง ได้แก่

  • โรคใบจุด
  • โรคใบไหม้
  • โรคราแป้ง
  • โรคราสนิม
  • หนอนเจาะลำต้น
  • หนอนเจาะผล

การป้องกันและกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช

  • ตัดแต่งใบและกิ่งที่เป็นโรคหรือถูกแมลงทำลายทิ้ง
  • ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

กล้วยผาปลีม่วงเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีสีสันสวยงาม รสชาติอร่อย รับประทานง่าย ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น จึงทำให้กล้วยผาปลีม่วงเป็นพืชที่ได้รับความนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย

7.กล้วยร้อยหวี 


ภาพ www.nanagarden.com

กล้วยร้อยหวีเป็นสายพันธุ์กล้วยที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะเด่นคือ มีลำต้นสูงประมาณ 3-5 เมตร มีใบสีเขียวอมเหลือง ผลมีสีเขียวปนเหลือง ผลยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางผลประมาณ 5-7 เซนติเมตร ผลสุกมีสีเหลือง เนื้อแน่น เหนียว รสชาติหวานหอมอร่อย

กล้วยร้อยหวีเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น นิยมปลูกเพื่อรับประทานผลเป็นหลัก เนื่องจากมีรสชาติอร่อย รับประทานง่าย ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น จึงทำให้กล้วยร้อยหวีเป็นพืชที่ได้รับความนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย

ประโยชน์ของกล้วยร้อยหวี

  • รับประทานผลสุก รสชาติหวานหอมอร่อย
  • ใบอ่อนใช้เป็นอาหารได้ เช่น แกงหยวกกล้วย แกงส้มใบกล้วย
  • ลำต้นและใบใช้ทำยาได้ เช่น แก้ท้องเสีย แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ

การขยายพันธุ์กล้วยร้อยหวี

กล้วยร้อยหวีสามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งแบบใช้หน่อและแบบใช้เมล็ด

การขยายพันธุ์แบบใช้หน่อ

  • เลือกหน่อที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • ปักชำหน่อลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การขยายพันธุ์แบบใช้เมล็ด

  • เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • เพาะเมล็ดลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลรักษากล้วยร้อยหวี

กล้วยร้อยหวีเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องการน้ำปานกลาง ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี

การให้น้ำ

ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 2-3 วัน/ครั้ง ในช่วงที่กล้วยกำลังออกดอกและติดผล ควรให้น้ำมากขึ้น

การให้ปุ๋ย

ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 1-2 กิโลกรัม/ต้น/เดือน ในช่วงที่กล้วยกำลังเจริญเติบโต

การกำจัดวัชพืช

กำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นกล้วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นกล้วย

การใส่ไม้ค้ำยัน

เมื่อกล้วยเริ่มสูง ควรใส่ไม้ค้ำยันไว้เพื่อป้องกันกล้วยหัก

โรคและแมลงศัตรูพืช

โรคและแมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกล้วยร้อยหวี ได้แก่

  • โรคใบจุด
  • โรคใบไหม้
  • โรคราแป้ง
  • โรคราสนิม
  • หนอนเจาะลำต้น
  • หนอนเจาะผล

การป้องกันและกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช

  • ตัดแต่งใบและกิ่งที่เป็นโรคหรือถูกแมลงทำลายทิ้ง
  • ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

8.กล้วยเทพพนม 


ภาพ www.nanagarden.com

กล้วยเทพพนมเป็นสายพันธุ์กล้วยที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย มีลักษณะเด่นคือ มีลำต้นสูงประมาณ 3-5 เมตร มีใบสีเขียวอมเหลือง ผลมีสีเขียวปนเหลือง ผลยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางผลประมาณ 5-7 เซนติเมตร ผลสุกมีสีเหลือง เนื้อแน่น เหนียว รสชาติหวานหอมอร่อย

กล้วยเทพพนมเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น นิยมปลูกเพื่อรับประทานผลเป็นหลัก เนื่องจากมีรสชาติอร่อย รับประทานง่าย ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น จึงทำให้กล้วยเทพพนมเป็นพืชที่ได้รับความนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย

ประโยชน์ของกล้วยเทพพนม

  • รับประทานผลสุก รสชาติหวานหอมอร่อย
  • ใบอ่อนใช้เป็นอาหารได้ เช่น แกงหยวกกล้วย แกงส้มใบกล้วย
  • ลำต้นและใบใช้ทำยาได้ เช่น แก้ท้องเสีย แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ

การขยายพันธุ์กล้วยเทพพนม

กล้วยเทพพนมสามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งแบบใช้หน่อและแบบใช้เมล็ด

การขยายพันธุ์แบบใช้หน่อ

  • เลือกหน่อที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • ปักชำหน่อลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การขยายพันธุ์แบบใช้เมล็ด

  • เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • เพาะเมล็ดลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลรักษากล้วยเทพพนม

กล้วยเทพพนมเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องการน้ำปานกลาง ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี

การให้น้ำ

ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 2-3 วัน/ครั้ง ในช่วงที่กล้วยกำลังออกดอกและติดผล ควรให้น้ำมากขึ้น

การให้ปุ๋ย

ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 1-2 กิโลกรัม/ต้น/เดือน ในช่วงที่กล้วยกำลังเจริญเติบโต

การกำจัดวัชพืช

กำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นกล้วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นกล้วย

การใส่ไม้ค้ำยัน

เมื่อกล้วยเริ่มสูง ควรใส่ไม้ค้ำยันไว้เพื่อป้องกันกล้วยหัก

โรคและแมลงศัตรูพืช

โรคและแมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกล้วยเทพพนม ได้แก่

  • โรคใบจุด
  • โรคใบไหม้
  • โรคราแป้ง
  • โรคราสนิม
  • หนอนเจาะลำต้น
  • หนอนเจาะผล

การป้องกันและกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช

  • ตัดแต่งใบและกิ่งที่เป็นโรคหรือถูกแมลงทำลายทิ้ง
  • ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

ข้อแตกต่างระหว่างกล้วยเทพพนมและกล้วยร้อยหวี

กล้วยเทพพนมและกล้วยร้อยหวีเป็นสายพันธุ์กล้วยที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมาก แต่ก็มีความแตกต่างบางประการ ดังนี้

ลักษณะกล้วยเทพพนมกล้วยร้อยหวี
ลำต้น สูงประมาณ 3-5 เมตร สูงประมาณ 3-5 เมตร
ใบ สีเขียวอมเหลือง สีเขียวอมเหลือง
ผล มีสีเขียวปนเหลือง ผลยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางผลประมาณ 5-7 เซนติเมตร มีสีเขียวปนเหลือง ผลยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางผลประมาณ 5-7 เซนติเมตร
ผลสุก มีสีเหลือง เนื้อแน่น เหนียว รสชาติหวานหอมอร่อย มีสีเหลือง เนื้อแน่น เหนียว รสชาติหวานหอมอร่อย
รสชาติ หวานหอมอร่อย หวานหอมอร่อย
ช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยว ประมาณ 8-9 เดือนหลังปลูก ประมาณ 8-9 เดือนหลังปลูก
ผลผลิตต่อไร่ ประมาณ 2-3 ตัน ประมาณ 2-3 ตัน
โรคและแมลงศัตรูพืช โรคใบจุด โรคใบไหม้ โรคราแป้ง โรคราสนิม หนอนเจาะลำต้น หนอนเจาะผล โรคใบจุด โรคใบไหม้ โรคราแป้ง โรคราสนิม หนอนเจาะลำต้น หนอนเจาะผล

โดยสรุปแล้ว กล้วยเทพพนมและกล้วยร้อยหวีเป็นสายพันธุ์กล้วยที่มีรสชาติอร่อย รับประทานง่าย ปลูกง่าย

9.กล้วยเปรี้ยว


ภาพ www.technologychaoban.com

กล้วยเปรี้ยว เป็นชื่อเรียกของกล้วยหลายสายพันธุ์ที่มีรสชาติเปรี้ยว เมื่อสุกแล้วจะมีเนื้อนุ่ม ฉ่ำน้ำ นิยมรับประทานสดหรือนำไปทำอาหาร เช่น กล้วยฉาบ กล้วยอบน้ำผึ้ง กล้วยทอด กล้วยเชื่อม เป็นต้น

กล้วยเปรี้ยวที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ได้แก่

  • กล้วยน้ำว้าเปรี้ยว
  • กล้วยไข่เบา
  • กล้วยส้ม
  • กล้วยเล็บมือนาง
  • กล้วยหอมเขียว

กล้วยเปรี้ยวเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำดี นิยมปลูกเพื่อรับประทานผลเป็นหลัก

ประโยชน์ของกล้วยเปรี้ยว

  • รับประทานผลสุก รสชาติเปรี้ยว ฉ่ำน้ำ
  • ใบอ่อนใช้เป็นอาหารได้ เช่น แกงหยวกกล้วย แกงส้มใบกล้วย
  • ลำต้นและใบใช้ทำยาได้ เช่น แก้ท้องเสีย แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ

การขยายพันธุ์กล้วยเปรี้ยว

กล้วยเปรี้ยวสามารถขยายพันธุ์ได้ทั้งแบบใช้หน่อและแบบใช้เมล็ด

การขยายพันธุ์แบบใช้หน่อ

  • เลือกหน่อที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • ปักชำหน่อลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การขยายพันธุ์แบบใช้เมล็ด

  • เลือกเมล็ดที่สมบูรณ์แข็งแรง
  • เพาะเมล็ดลงในแปลงปลูกที่เตรียมไว้
  • รดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลรักษากล้วยเปรี้ยว

กล้วยเปรี้ยวเป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น ต้องการน้ำปานกลาง ดินร่วนซุย ระบายน้ำดี

การให้น้ำ

ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 2-3 วัน/ครั้ง ในช่วงที่กล้วยกำลังออกดอกและติดผล ควรให้น้ำมากขึ้น

การให้ปุ๋ย

ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 1-2 กิโลกรัม/ต้น/เดือน ในช่วงที่กล้วยกำลังเจริญเติบโต

การกำจัดวัชพืช

กำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นกล้วยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นกล้วย

การใส่ไม้ค้ำยัน

เมื่อกล้วยเริ่มสูง ควรใส่ไม้ค้ำยันไว้เพื่อป้องกันกล้วยหัก

โรคและแมลงศัตรูพืช

โรคและแมลงศัตรูพืชที่พบบ่อยในกล้วยเปรี้ยว ได้แก่

  • โรคใบจุด
  • โรคใบไหม้
  • โรคราแป้ง
  • โรคราสนิม
  • หนอนเจาะลำต้น
  • หนอนเจาะผล

การป้องกันและกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช

  • ตัดแต่งใบและกิ่งที่เป็นโรคหรือถูกแมลงทำลายทิ้ง
  • ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

กล้วยเปรี้ยวเป็นพืชที่มีประโยชน์หลากหลาย นิยมรับประทานสดหรือนำไปทำอาหารหลากหลายเมนู จึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อประเทศไทย

กล้วยสายพันธุ์แปลกทั้ง 9 ชนิดที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นกล้วยที่มีรสชาติอร่อย ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้น นิยมปลูกเพื่อรับประทานผลเป็นหลัก แต่บางสายพันธุ์ยังสามารถนำมาปลูกประดับได้อีกด้วย ใครที่สนใจปลูกกล้วยพันธุ์แปลก ๆ ลองหามาปลูกกันดูนะคะ รับรองว่าจะได้กล้วยที่อร่อยและแปลกตาอย่างแน่นอน

โพสท์โดย: buay1975
อ้างอิงจาก:
เว็บไซต์ "สมบัติอาณาจักรกล้วย"
เว็บไซต์ "บ้านสวนพอเพียง"
เว็บไซต์ "เกษตรกรรมไทย"
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
buay1975's profile


โพสท์โดย: buay1975
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: buay1975
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"เปิด3คุณสมบัติ"เงินดิจิตอลวอลเลทเฟส 2น่านไง รู้แล้ว "หนุ่ม กรรชัย" ลาไปไหนศาลสั่งจำคุกคนขับเทสล่า พร้อมริบรถสีสันยามค่ำแลง ถนนคนเดินเชียงคาน จังหวัดเลยDune Prophecy: สู่จักรวาลใหม่ที่เต็มไปด้วยการเมืองและการปกครองของผู้หญิงเปิดศึกพระ-ชี ทะเลาะกัน เหตุพระทวงค่าไฟ แต่แม่ชีไม่ยอมจ่าย เฮ่อ!เสพติดการออกกำลังกาย สัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังเสพติดการออกกำลังกายประวัติและความหมายที่แท้จริงของวันคริสต์มาสแจกสูตรผัดกระเพรา:เมนูสามัญประจำครัวไทยที่ไม่มีวันตกเทรนด์"เคาะแล้ว! เงินดิจิทัล 10,000 เฟส 2 แจกเงินสดเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป"สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา: ดินแดนแห่งความสยองขวัญใต้มหาสมุทร"มาม่าอบใส่หมูหมักไข่เห็ดเข็มทอง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ประกาศแล้ว กลุ่มที่ถูกตัดสิทธิเงินดิจิตอล"เคาะแล้ว! เงินดิจิทัล 10,000 เฟส 2 แจกเงินสดเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป"ประตูสู่นรกแห่งเติร์กเมนิสถาน : ปริศนาลุกไหม้ไม่เคยมอดมาม่าอบใส่หมูหมักไข่เห็ดเข็มทอง"เปิด3คุณสมบัติ"เงินดิจิตอลวอลเลทเฟส 2ประวัติและความหมายที่แท้จริงของวันคริสต์มาส
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
5. "ค้นพบภายใน: การเชื่อมโยงระหว่างธรรมะและวิทยาศาสตร์ประวัติและความหมายที่แท้จริงของวันคริสต์มาสวิศวลาดกระบัง ดันวิศวกรรุ่นใหม่สู่มืออาชีพ เสริมสร้างทักษะ ตอบสนองความต้องการอุตสาหกรรมอย่างแท้จริงสัตว์ประหลาดขนทองเเห่งท้องทะเลลึก
ตั้งกระทู้ใหม่