พืชเศรษฐกิจตัวใหม่!! "อะบิว" มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ปลูกง่ายรายได้ดี
อะบิว หรือ เอบิว เป็นไม้ผลเขตร้อน มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ พบมากในประเทศบราซิล เปรู และโคลัมเบีย ในประเทศไทยมีการนำเข้ามาปลูกครั้งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีการขยายพื้นที่ปลูกไปยังหลายจังหวัด เช่น เชียงราย ลำพูน ลำปาง และเพชรบูรณ์
อะบิวเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 8-10 เมตร ลำต้นมีเปลือกเรียบสีเทา ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่หรือรูปรี ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ ดอกออกเป็นช่อกระจุกตามกิ่ง ดอกมีขนาดเล็ก สีขาว กลิ่นหอมอ่อน ๆ ผลเป็นผลเดี่ยว รูปกลมหรือรูปรี ผิวผลเรียบ สีเขียวหรือสีเหลือง ผลสุกจะมีสีเหลืองอมส้ม เนื้อผลสีขาว ฉ่ำน้ำ มีเมล็ด 1-2 เมล็ด
อะบิวเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ นิยมรับประทานสด หรือนำมาแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม เยลลี่ หรือไอศกรีม อะบิวเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม และฟอสฟอรัส
การปลูกอะบิว สามารถทำได้ทั้งการเพาะเมล็ดและการตอนกิ่ง การเพาะเมล็ดใช้เวลานานกว่าการตอนกิ่ง ประมาณ 3-4 ปี จึงจะให้ผลผลิต ส่วนการตอนกิ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี จึงจะให้ผลผลิต อะบิวเป็นพืชที่ชอบแสงแดดจัด ต้องการน้ำปานกลาง ทนแล้งได้ดี ดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี
การดูแลรักษาอะบิว ในช่วงแรกควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 2-3 วัน/ครั้ง เมื่อต้นโตขึ้นให้น้ำ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2 ครั้ง ในช่วงฤดูฝนควรห่อผลเพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืช
การเก็บเกี่ยวอะบิว สามารถทำได้เมื่อผลสุกเต็มที่ สังเกตจากสีของผลที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้ม เนื้อผลนิ่ม กลิ่นหอม ผลสุกเก็บไว้ได้ประมาณ 5-7 วัน
อะบิวเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และปลูกง่าย จึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง