เผยที่มา "ผัดกะเพรา"..เมนูอาหารยอดฮิตคนไทย
วันนี้จะกินอะไรดี ? หลายคนก็มักจะได้ยินคำถามนี้อยู่บ่อยๆ และคำตอบส่วนใหญ่ที่ได้ก็คือ "ผัดกะเพรา" เมนูยอดฮิตของคนไทยเลยก็ว่าได้ บางคนก็แอบแซวด้วยว่า เมนูสิ้นคิดหรือเมนูกันตายบ้างนั้น แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า "ผัดกะเพรา" นี้มันมีที่มาที่ไปอย่างไร ? และเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อไหร่ วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน
คนไทยส่วนใหญ่นั้นมักคิดว่า เมนู "ผัดกะเพรา" เป็นเมนูที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยโบราณกาล แต่ในความเป็นจริงแล้ว รู้หรือไม่ว่า เมนู “ผัดกะเพรา” นั้น ก็น่าจะเกิดขึ้นราวๆ สมัยรัชกาลที่ 7 เพราะว่าได้มีคนจีนนำเอามาขายกันในร้านอาหารตามสั่ง อย่างไรก็ดี ผัดกะเพราก็น่าจะเพิ่งได้รับความนิยมราว พ.ศ. 2500 โดยน่าจะดัดแปลงมาจากอาหารจีนอีกด้วย สำหรับตำรับจีน ก็จะเอาเต้าเจี้ยวดำผัดกับกระเทียมเจียวให้หอม แล้วจึงเอาเนื้อสับหรือไก่หั่นเป็นชิ้น ๆ ลงไปผัดกับน้ำปลา และซีอิ๊วดำ บ้างก็ว่าเลียนแบบมาจากเนื้อผัดใบยี่หร่า แต่ผัดกะเพราดั้งเดิมของไทยเราจริงๆ นั้น ก็จะมีเพียงแค่เนื้อสัตว์กับใบกะเพราเท่านั้น
เมนู "ผัดกะเพรา" วัตถุดิบประกอบด้วย เนื้อสัตว์ ใบกะเพรา พริก กระเทียม บ้างก็ใส่ผักชนิดอื่นๆ ลงไปด้วย เช่น ถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อน แครอท หอมหัวใหญ่ และเนื้อสัตว์ที่ใช้ในการทำผัดกะเพรา ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว กุ้ง ปลาหมึก หรือแม้แต่ ปลา หอยแมลงภู่ เนื้อปู ฯลฯ เป็นต้น
สำหรับวิธีการปรุงนั้น ก็เริ่มจากการโขลกพริกกับกระเทียมให้เข้ากันกัน แล้วนำลงไปผัดในน้ำมัน
หลังจากนั้นก็ทำการใส่เนื้อสัตว์ลงไป ผัดให้สุก แล้วตามด้วยการใส่ใบกะเพรา โดยไม่มีการใส่ผักชนิดอื่นๆ ผสม เหมือนเช่นในปัจจุบันที่บางร้านก็ใส่ถั่วฝักยาว เห็ดหอม แครอต ตามหลักโภชนาการแล้วก็ถือว่าดี ยังเป็นการเพิ่มคุณค่า และสารอาหารให้กับร่างกายอีกด้วย
ส่วนการปรุงรสนั้นก็ใส่น้ำปลา น้ำตาล บ้างก็ใส่ผงชูรส ซีอิ๊วดำ พริกไทยป่น เติมน้ำสต๊อกพอให้ขลุกขลิก เพื่อรับประทานกับข้าวสวย ร้อนๆ และอาจจะกินกับไข่ดาว มีน้ำปลาพริกเป็นเครื่องปรุงให้รสหอม และเผ็ดยิ่งขึ้น
สำหรับผัดกะเพราที่ปรากฏในตำรากับข้าวยุคปลายทศวรรษ 2520 อย่างใน ตำราอาหารชุดจัดสำรับ ก็ได้ระบุว่า ผัดกะเพราเนื้อจะปรุงด้วยน้ำปลา และผงชูรสเท่านั้น แล้วนำเอาข้าวลงไปผัดคลุกเป็นข้าวผัด กินกับถั่วฝักยาวสดด้วย
และอีกหนึ่งข้อสงสัยคาใจของใครหลายคนก็คือ เพราะเหตุใดผัดกะเพราจึงเป็นเมนูยอดฮิตอันดับ 1 ของคนไทย ทางนักโภชนาการก็ได้ออกมาวิเคราะห์แล้วว่า น่าจะมาจากความอร่อย และเวลาผัดก็จะได้กลิ่นกะเพรา ซึ่งช่วยกระตุ้นความอยาก ทำให้ใครก็ตามพอได้กลิ่นแล้วก็อยากกิน อีกทั้งยังราคาไม่แพง ทำง่าย และได้กินเร็ว แถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการครบอีกด้วย