ภรรยาโชคร้ายพลัดตกหน้าผา 30 เมตร สามีกลับถ่ายคลิปรอการช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2566 คู่รักชาวสิงคโปร์คู่หนึ่งได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยานอนุรักษ์ธรรมชาติมินเนวาสกา ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แต่กลับกลายเป็นทริปสุดท้ายของเขาและภรรยา เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ภรรยาของเขาลื่นตกหน้าผาสูง 30 เมตร
ราฟ ซาอิด วัย 41 ปี กำลังถ่ายคลิปวิดีโอรีวิวแนะนำอุทยานธรรมชาติอยู่ ภรรยา นูร์ อาอิชะฮ์ เกิดลื่นตกลงไปอย่างไม่คาดคิด ซาอิดผู้เป็นสามีพยายามคว้าเธอไว้แต่สายเกินไป
ซาอิดตะโกนร้องตกใจสุดเสียง หลังจากนั้นก็มีนักท่องเที่ยวได้ยิน จึงปีนเข้าไปยังจุดนั้นเพื่อพยายามช่วยเหลือ ก่อนจะพบว่าภรรยาของเขานอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นด้านล่างหน้าผา ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะยังมีลมหายใจ ทางนักท่องเที่ยวจึงถอดเสื้อคลุมตัวให้เธอเพื่อให้ความอบอุ่นและป้องกันภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำ ในระหว่างที่รอหน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ
ในระหว่างนั้น ซาอิดผู้เป็นสามีที่อยู่ด้านบนหน้าผาก็ได้บันทึกภาพและคลิปวิดีโอเอาไว้ ซึ่งตอนที่นำมาโพสต์เขาระบุว่า การช่วยเหลือภรรยาของเขาค่อนข้างลำบาก เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องตัดต้นไม้บางต้นเพื่อให้เฮลิคอปเตอร์สามารถเข้าถึงได้ ก่อนที่จะพาตัวส่งโรงพยาบาล โดยใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมง ในท้ายที่สุดภรรยาของเขาเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บ
ภายหลังจากที่ซาอิดโพสต์เรื่องราวทั้งหมดรวมทั้งข้อความอาลัยจำนวนมาก มีชาวโซเชียลส่วนหนึ่งเข้าไปให้กำลังใจ แต่อีกส่วนก็เกิดความข้องใจและสงสัยในพฤติกรรมของเขา ต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นด้วยความประหลาดใจว่า ภรรยาตกหน้าผา แต่สามียืนถ่ายวิดีโอด้านบนรอการช่วยเหลือ ขณะที่คนแปลกหน้า 3 คนลงไปช่วยเธอ แม้ทีมกู้ภัยมาแล้ว สามีก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากโพสต์อัปเดตเรื่องราวใจสลายลงโซเชียล บรรยายร่ายยาวแสดงว่าเขารักภรรยามากแค่ไหน
เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตั้งคำถามกับเขามากมายเช่นเดียวกัน เนื่องจากสงสัยว่าเขาอาจเป็นฆาตกรในคดีนี้ แต่ภายหลังจากทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพและคลิปวิดีโอที่ถ่ายทั้งหมดในขณะนั้นแล้วก็สรุปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ และย้ำว่าเขาเสียใจมาก ในขณะนั้นสิ่งที่เขาทำได้เพียงอย่างเดียวคือรอการช่วยเหลือ
ความคิดเห็น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุที่น่าสลดใจอย่างยิ่ง ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจความรู้สึกของซาอิดผู้เป็นสามีที่สูญเสียภรรยาไปอย่างกะทันหัน การที่เขาจะเก็บภาพและคลิปวิดีโอของภรรยาเอาไว้ อาจเป็นเพราะต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือเพื่อเป็นหลักฐานในการเรียกร้องค่าชดเชยจากบริษัทประกัน อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของเขาที่ยืนถ่ายวิดีโอด้านบนหน้าผาขณะที่ภรรยากำลังตกอยู่ในอันตราย ย่อมเป็นที่สงสัยและตั้งคำถามจากผู้คนได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ซาอิดเองก็เข้าใจดี และยอมรับว่าเขารู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ท้ายที่สุดแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยในการท่องเที่ยว ระมัดระวังและป้องกันตนเองให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น