ลัทธิโยเร
ลัทธิโยเร
ลัทธิโยเร หรือที่รู้จักกันในชื่อ เซไกคีวเซ (Seikaikyousei) เป็นศาสนาใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยเกิดจากการผสมผสานความเชื่อของลัทธิชินโต ศาสนาพุทธนิกายมหายาน และหลักจริยธรรมสากล ก่อตั้งโดยโมกิจิ โอกาดะ (Mokichi Okada) เมื่อปี พ.ศ. 2478
คำว่า "โยเร" มีความหมายว่า "ชำระล้าง" และคำว่า "เร" มีความหมายว่า "จิตวิญญาณ" ดังนั้น ลัทธิโยเลจึงมีความเชื่อเรื่องการชำระล้างทางจิตวิญญาณ โดยเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ แต่ถูกปกคลุมไปด้วยมลทินและความทุกข์ทรมาน ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนของลัทธิโยเลจึงต้องชำระล้างจิตวิญญาณของตนให้บริสุทธิ์ เพื่อที่จะบรรลุถึงความสุขและความสงบ
ลัทธิโยเรมีความเชื่อหลัก ๆ ดังนี้
- เชื่อในพระเจ้าสูงสุด หรือที่เรียกว่า "เมชุซามะ" (Meishusama) ซึ่งเป็นผู้สร้างสรรทั้งโลกและมนุษย์
- เชื่อในพลังแสงทิพย์ ซึ่งสามารถชำระล้างความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ
- เชื่อในหลักจริยธรรมสากล เช่น ความเมตตากรุณา ความรัก ความสามัคคี
ลัทธิโยเรมีแนวปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้
- การชำระล้างจิตวิญญาณด้วยพลังแสงทิพย์
- การปฏิบัติตามหลักจริยธรรมสากล
- การมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมทางศาสนา เช่น การเข้าร่วมพิธีกรรม การอ่านคัมภีร์ การบริจาค
ลัทธิโยเลเข้าสู่ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2511 โดยคาซูโอะ วากูกามิ (Kazuo Wakui) ศาสนาจารย์คณะผู้เผยแผ่ ลัทธิโยเลมีศาสนิกชนในประเทศไทยประมาณ 20,000 คน กระจายอยู่ทั่วประเทศ
ลัทธิโยเรได้รับความสนใจจากประชาชนในประเทศไทย เนื่องจากมีความเชื่อเรื่องพลังแสงทิพย์ที่สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ อย่างไรก็ตาม ลัทธิโยเรก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบางฝ่ายว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน และอาจนำไปสู่อันตรายได้
เหตุการณ์ล่าสุดที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคมไทย คือ กรณีหญิงสาวคนหนึ่งฆ่าลูกและหลานของตัวเองด้วยยาฆ่าแมลง จากนั้นเธอก็ฆ่าตัวตายตามไปด้วย โดยอ้างว่าได้รับคำแนะนำจากผู้นำลัทธิโยเลให้ทำเช่นนั้น เหตุการณ์นี้ทำให้สังคมไทยเกิดความกังวลเกี่ยวกับลัทธิโยเรมากขึ้น และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและควบคุมลัทธินี้อย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม ลัทธิโยเรก็ปฏิเสธความเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว และยืนยันว่าลัทธิโยเรสอนให้รักและเมตตาผู้อื่น ไม่ได้สอนให้ทำร้ายผู้อื่นแต่อย่างใด