เกิดแต่ปางก่อน
วันนี้อากาศแจ่มใส เด็กหญิงคนหนึ่งเธอกำลังนั่งคิดถึงฝันของเธอเมื่อคืน เธอยังสับสนว่าเธอคือใคร ทำไมในฝันถึงมีคนเรียกชื่อเธอว่า มัลลิกา ทั้งที่ความเป็นจริงตอนนี้เด็กหญิงเองก็ชื่อว่า นิลามล เธอไม่รู้จะปรึกษาใครในเรื่องที่เธอฝัน พอดีว่าเธอคิดขึ้นได้ว่า เธอรู้จักกับหลวงตา ที่วัดอยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากบ้านเธอนัก คิดได้เท่านั้นเด็กหญิงเธอก็เดินทางไปถึงวัดที่หลวงตาท่านจำอยู่ เด็กหญิงจึงเข้าไปกราบหลวงตา แล้วพร้อมทั้งเอ่ยขอให้ท่านช่วยบอกเรื่องราวที่ฝีนหน่อยว่า หมายถึงอะไรกัน ทำไมอย่างไร เกี่ยวกับเธอไหม หลวงท่านยิ้มด้วยเมตตาแล้วบอกว่า
"เจ้าหนูคนนี้" วาสนาพามาแล้วพาไป
หลวงตาท่านคิดในใจอยู่ครู่ จึงบอกเด็กหญิงว่า เมื่อเจ้าโตขึ้นเจ้าจะได้รู้เองหละ สิ่งที่หลวงตาพูดยิ่งทำให้เด็กหญิงไม่เข้าใจ
จนเวลาผ่านไปจนเด็กหญิงก็ได้ลืมเรื่องราวไปสิ้น จนไม่ได้ฝันถึงคนที่เรียกเธออีกเลย ตอนนี้จากเด็กหญิงตัวเล็กๆ กลายเป็นเด็กสาวที่สวยและหน้าตาดีเลย จนกระทั้งอยู่มาวันหนึ่ง หญิงสาวจะไปทำธุระที่ในตัวเมืองอุทัย เขตอยุธยา เธอได้ผ่านไปทางนั้น และแล้วเธอก็ต้องตกใจ ในระหว่างที่เธอจอดรถอยู่นั้น ก็ได้มีชายเร่ร่อนคนหนึ่ง
ได้เดินเข้ามาหาเธอที่นั่งในรถ แล้วถามว่า
พี่มัลลิกาจะพี่ตามหาน้องมานาน ตั้งแต่ตอนเด็กที่เราพลัดพรากกัน พี่ไม่รู้น้องไปอยู่ที่ใหน กลับบ้านกัน ความจริงชายเร่ร่อนคนนี้ก็คือพี่ชายของเธอนั่นเอง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นเอง
ย้อนกลับไปในเมืองแห่งหนึ่งซึ่ง พ่อของเธอได้เป็นผู้ดูแลหมู่บ้าน เป็นช่วงอาณาจักรล้านนา เป็นยุคเริ่มต้นของพ่อขุนเม็งรายมหาราชนั่นเอง ซึ่งพอจะประมาณได้ว่าตัวเธอ
และพี่ชายชอบเที่ยววิ่งเล่นตามที่ต่างๆ ในบริเวณเขตดูแลของพ่อเธอ แต่แล้วเหตุการณ์สำคัญก็เกิดขึ้น เมื่อเธอและพี่ชายนั้นได้เดินเข้าไปในเขตป่าลึกซึ่งบิดาพ่อของทั้งสองห้ามเข้าไป เพราะเป็นป่าลึกลับ ทั้งสองเข้าไปถึง ก็เจอเสือซึ่งไม่ได้เจอมนุษย์มานานเกิดความกระหายหิว ทั้งสองวิ่งหนี้ พอดีเธอในชื่อมัลลิกาตอนนั้น ได้เกิดถลาลื่นล้มลงหัวไปฟาดเข้ากับหินจึงทำให้เธอสลบไป พี่ชายเข้ามา เห็นก้อนที่น้องกระแทกเปล่งประกายแสงออกมา แปบเดียว ทั้งสองก็หายวับไปจากที่นั่น แต่น่าแปลก เสือที่จะทำร้ายทั้งสองก็ย้อนทะลออกสู่ประตูมิติเดียวกัน แต่สองคนหนึ่งสัตว์ ได้ออกมาจากยุคโน้นสู่ยุคนี้คนละที่
(ตอนแรกมาถึงจุดนี้เชิญติดตามต่อต่อไป)