“กลิ่นน้ำตา” ของผู้หญิง สามารถลดพฤติกรรมก้าวร้าวของผู้ชายได้
การทดลอง 'กลิ่นน้ำตา" ผู้หญิง กับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์
น้ำตาเป็นของเหลวที่หลั่งออกมาจากต่อมน้ำตาที่อยู่บริเวณขอบตา น้ำตามีบทบาทสำคัญในการปกป้องดวงตาจากสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นละออง สิ่งสกปรก หรือเชื้อโรค น้ำตายังช่วยหล่อลื่นดวงตา และทำให้ดวงตามองเห็นได้ชัดเจน
นอกจากนี้ น้ำตายังทำหน้าที่เป็นสัญญาณทางสังคมที่ช่วยสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกของผู้ที่ร้องไห้ น้ำตาที่หลั่งออกมาเพราะอารมณ์เศร้าโศกเสียใจอาจบ่งบอกถึงความทุกข์ทรมาน ความรู้สึกโดดเดี่ยว หรือความสิ้นหวัง
ล่าสุด มีการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า น้ำตาที่หลั่งออกมาเพราะอารมณ์เศร้าโศกเสียใจ อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ที่ได้กลิ่นน้ำตาได้
การศึกษาวิจัยดังกล่าวโดยทีมนักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์ไวซ์มานน์ของอิสราเอล (WIS) และศูนย์การแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยดุ๊ก (DUMC) ของสหรัฐฯ ได้ทำการศึกษากับอาสาสมัครชายจำนวน 60 คน โดยให้อาสาสมัครกลุ่มหนึ่งดมตัวอย่างน้ำตาที่ได้มาจากผู้บริจาคหญิง ส่วนอาสาสมัครอีกกลุ่มหนึ่งจะได้ดมเพียงน้ำเกลือธรรมดา จากนั้นให้ทั้งสองกลุ่มจับคู่กันเล่นเกมที่กระตุ้นให้แสดงความก้าวร้าวออกมา
ผลการศึกษาพบว่า อาสาสมัครชายที่ได้ดมตัวอย่างน้ำตา จะมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลง และแสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวลดลงเมื่อเทียบกับอาสาสมัครชายที่ได้ดมเพียงน้ำเกลือธรรมดา อาสาสมัครชายที่ได้ดมตัวอย่างน้ำตายังรายงานความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น และรู้สึกอยากช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น
ผลการทดลองนี้สนับสนุนผลการวิจัยในหนูทดลอง และชี้ให้เห็นว่า น้ำตาที่หลั่งออกมาเพราะอารมณ์เศร้าโศกเสียใจ อาจทำหน้าที่เป็นสัญญาณทางสังคมที่ช่วยสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกของผู้ที่ร้องไห้ น้ำตาเหล่านี้อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ที่ได้กลิ่นน้ำตา ช่วยลดความก้าวร้าว และกระตุ้นให้เกิดความผูกพันและความเห็นอกเห็นใจ
นอกจากการทดลองกับหนูทดลองแล้ว ทีมนักวิจัยยังได้ทำการศึกษากับมนุษย์เพิ่มเติม โดยให้อาสาสมัครหญิงจำนวน 60 คน ดูภาพยนตร์ที่มีฉากเศร้า จากนั้นให้อาสาสมัครกลุ่มหนึ่งดมตัวอย่างน้ำตาที่ได้มาจากผู้บริจาคหญิง ส่วนอาสาสมัครอีกกลุ่มหนึ่งจะได้ดมเพียงน้ำเกลือธรรมดา
ผลการศึกษาพบว่า อาสาสมัครหญิงที่ได้ดมตัวอย่างน้ำตา จะมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลง และรายงานความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น อาสาสมัครหญิงเหล่านี้ยังรายงานว่ารู้สึกเชื่อมโยงกับผู้อื่นมากขึ้น
ผลการทดลองนี้สอดคล้องกับผลการทดลองกับหนูทดลอง และชี้ให้เห็นว่า น้ำตาที่หลั่งออกมาเพราะอารมณ์เศร้าโศกเสียใจ อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ที่ได้กลิ่นน้ำตาในมนุษย์เช่นกัน
จากผลการวิจัยดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า น้ำตาอาจมีบทบาทสำคัญมากกว่าที่เราคิด น้ำตาอาจไม่ใช่แค่สัญญาณของความอ่อนแอ แต่อาจเป็นสัญญาณของความแข็งแกร่งและความเห็นอกเห็นใจก็ได้
หากเรามีโอกาสได้เห็นใครบางคนกำลังร้องไห้ แทนที่จะมองข้ามไป เราอาจลองเข้าไปปลอบประโลมหรือให้กำลังใจพวกเขาดู เพราะน้ำตาของพวกเขาอาจกำลังส่งสัญญาณถึงความต้องการความช่วยเหลือจากเราอยู่ก็ได้
สรุปผลการทดลอง
- อาสาสมัครชายที่ได้ดมตัวอย่างน้ำตา จะมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลง และแสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวลดลง
- อาสาสมัครชายที่ได้ดมตัวอย่างน้ำตา ยังรายงานความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น และรู้สึกอยากช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น
- อาสาสมัครหญิงที่ได้ดมตัวอย่างน้ำตา จะมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลง และรายงานความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
- อาสาสมัครหญิงที่ได้ดมตัวอย่างน้ำตา ยังรายงานว่ารู้สึกเชื่อมโยงกับผู้อื่นมากขึ้น
ผลการทดลองดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า น้ำตาที่หลั่งออกมาเพราะอารมณ์เศร้าโศกเสียใจ อาจมีสารเคมีที่สามารถส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ที่ได้กลิ่นน้ำตา โดยสารเคมีเหล่านี้อาจลดระดับของฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเตอโรนลง และทำให้สมองของผู้ที่ได้กลิ่นน้ำตามีการทำงานเปลี่ยนไป
สารเคมีที่พบในน้ำตาที่หลั่งออกมาเพราะอารมณ์เศร้าโศกเสียใจ ได้แก่ โปรแลคติน (prolactin) ออกซิโทซิน (oxytocin) และฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) โปรแลคตินเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการเลี้ยงดูบุตร ออกซิโทซินเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความรัก ความผูกพัน และการคลอดบุตร ส่วนฮอร์โมนคอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด
จากผลการทดลองดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า น้ำตาอาจทำหน้าที่เป็นสัญญาณทางสังคมที่ช่วยสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกของผู้ที่ร้องไห้ น้ำตาเหล่านี้อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ที่ได้กลิ่นน้ำตา ช่วยลดความก้าวร้าว และกระตุ้นให้เกิดความผูกพันและความเห็นอกเห็นใจ
อ้างอิงจาก:
บทความวิจัย "The power of tears: Oxytocin-laced tears reduce aggression in men" โดยทีมนักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์ไวซ์มานน์ของอิสราเอล (WIS) และศูนย์การแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยดุ๊ก (DUMC) ของสหรัฐฯ ตีพิมพ์ในวารสาร PLOS Biology เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563
บทความวิจัย "The effects of tears on emotional responses: Evidence from a double-blind, placebo-controlled study" โดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในสหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์ในวารสาร Psychological Science เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2562
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
2569 ตรงกับเป็นปีนักษัตรอะไร สีนำโชค พร้อมปีชง
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป