คิดจะซื้อรถไฟฟ้า ต้องรู้เรื่องนี้
ทุกวันนี้บนท้องถนนเราจะหารถยนต์ EV ได้ง่ายมาก มีสารพัดยี่ห้อทั้งของไทย ของจีน ของฝรั่ง วิ่งสวนกันอยู่บนถนน และถ้าดูจากยอดขายรถยนต์ของงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา เชื่อได้เลยว่าปีหน้ารถยนต์ EV บนท้องถนนก็น่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก สิ่งหนึ่งที่หลายคนติดใจและยังเป็นข้อค้างคาใจอยู่ในการที่จะเลือกใช้รถยนต์ EV ก็คือการทำประกันรถยนต์ EV เนื่องจาก ปัจจุบันราคาประกันชั้น 1 รถยนต์EV เริ่มต้นที่ประมาณ 20,000 บาท ไปได้จนถึง 80,000 บาท โดยจะขึ้นอยู่กับรุ่นรถ และ ราคารถยนต์คันนั้นๆ ซึ่งทำให้คนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อรถยนต์ EV ต้องคิดหนักหน่อย เหตุผลที่ราคาประกันค่อนข้างสูงเนื่องจากว่าแบตเตอรี่รถยนต์ EV มีราคาแพง ซึ่งแบตเตอรี่ถือเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ EV
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา คปภ. หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยได้ประกาศเกณฑ์ใหม่ ของประกันรถ EV ซึ่งมีผลให้บริษัทประกันภัยสามารถเพิ่มเงื่อนไขต่างๆเข้าไปในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ EV ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งบริษัทประกันภัยทุกบริษัทจะถูกบังคับใช้เงื่อนไขในประกาศฉบับนี้ ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2567
ความคุ้มครองแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนแปลงไป
จากเกณฑ์ใหม่ประกันรถEV ฉบับนี้ ส่วนสำคัญจะมีผลโดยตรงกับความคุ้มครองแบตเตอรี่ High-Voltage ของรถยนต์ EV จากความคุ้มครอง 100% ใน1 ปีแรก ปีต่อไปความคุ้มครองจะลดลงเรื่อยๆ ตามอายุการใช้งานของรถยนต์ EV
*เกณฑ์นี้ใช้ในกรณีเปลี่ยนแบตเตอรี่ High Voltage ใหม่ทั้งชุด
โดยมีเงื่อนไขดังนี้
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่เกิน 1 ปี จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 100% ต่อราคาของแบตเตอรี่จากผู้จำหน่าย
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่เกิน 2 ปี จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 90% ต่อราคาของแบตเตอรี่จากผู้จำหน่าย
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่เกิน 3 ปี จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 80% ต่อราคาของแบตเตอรี่จากผู้จำหน่าย
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่เกิน 4 ปี จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 70% ต่อราคาของแบตเตอรี่จากผู้จำหน่าย
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่เกิน 5 ปี จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 60% ต่อราคาของแบตเตอรี่จากผู้จำหน่าย
อายุการใช้งานแบตเตอรี่เกิน 5 ปี จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนแบตเตอรี่ 50% ต่อราคาของแบตเตอรี่จากผู้จำหน่าย
และเมื่อบริษัทประกันภัยชดใช้ค่าเสียหายตามเกณฑ์นี้เรียบร้อยแล้ว เจ้าของรถและบริษัทประกันภัยจะมีส่วนเป็นเจ้าของซากแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในสัดส่วนเดียวกับเกณฑ์ที่ชดใช้ไป เมื่อแบตเตอรี่ก้อนที่เสียหายถูกขายได้ บริษัทประกันภัย ก็จะต้องแบ่งเงินมาให้กับเจ้าของรถตามสัดส่วนนี้
ตัวอย่าง เกิดอุบัติเหตุกับแบตเตอรี่ High Voltage ในปีที่ 4 ทำให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทั้งชุด
ราคาแบตเตอรี่ 1,000,000 บาท บริษัทประกันจะจ่ายให้ 700,000 บาท ส่วนเจ้าของรถต้องออกเงินเอง 300,000 บาท และ เมื่อซากแบตเตอรี่ก้อนเดิมถูกขายได้ บริษัทประกันจะต้องจ่ายเงินให้เจ้าของรถจากยอดขายแบตเตอรี่ก้อนเดิมเป็นสัดส่วน 30%
ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร แต่ถ้าเจ้าของรถต้องการความคุ้มครองแบตเตอรี่ 100% ตลอดอายุการใช้งาน ก็สามารถซื้อความคุ้มครองแบตเตอรี่เพิ่มได้ โดยแลกกับการจ่ายค่าประกันต่อปีที่สูงขึ้น