(เมื่อไรจะรู้ว่ารัก) ตอน : อารมณ์ปรารถนา
นิยายเรื่อง : เมื่อไรจะรูว่ารัก
จากนามปากกา : มาศอุไร (บ้านนิยายกนกรส)
ลิงค์สำหรับเข้าโหลดซื้อนิยาย (เมื่อไรจะรู้ว่ารัก) : https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTA5NTcwOSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI3Mzk5OCI7fQ
คำโปรย...
ต้องยกถังใบโตใบนี้ขึ้นเทินด้านบนลังไม้นั่น มือทั้งสองข้างเกร็งจนแลเห็นเส้นเลือดโปนเริ่มมีอาการสั่นน้อยๆ เรี่ยวแรงก่อนหน้านั้นก็ค่อยๆถดถอยลง
งามเด่นใจหายวาบตอนถังเปล่าทำท่าจะเอียงล้ม เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ตั้งใจฮึดสู้ใหม่ หากเรียวแขนเล็กมันกลับไม่เป็นดั่งใจ เหมือนจะอ่อนยวบจนทำให้ถังทั้งใบทำท่าจะเอียงล้มทับมายังร่างตัวเอง
หญิงสาวหลับตาปี๋ ทำใจยอมรับความเจ็บปวด กำลังจะเกิดขึ้น หนนี้ไม่แขนก็ขาต้องพิการเป็นแน่...
รอจนกระทั่งเหมือนตัวเองจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมละมุนบางอย่างจากอากาศ แผ่นหลังของเธอก็เหมือนกำลังสัมผัสถูกอะไรแข็งๆแต่ให้ความรู้สึกนุ่มหยุ่น เปลือกตาปิดสนิทจำต้องขยับเปิดขึ้นมอง ใบหน้าขาวใสขมวดมุ่น นี่ตาเธอฟาดหรือสมองได้รับความกระทบกระเทือนตอนถังหล่นใส่
เธอมีแขนสี่แขนตั้งแต่เมื่อไร
แต่เอ๊ะ! ตัวถังยังไม่ล้มกระแทกทับเธอสักหน่อย สมองจะกระทบกระเทือนได้ยังไง...
"ถ้าจะกรุณา ช่วยขยับตัวออกหน่อยจะได้ไหม? มันหนัก"
คำสั่งห้วนสั้นตามแบบฉบับ หากก็ทำให้คนตกใจหันหน้าไปมองขวับ รีบปล่อยมือจากถังพลาสติกหนักอึ้งทันที
"อะ!นายกร!"
สิ้นเสียงตระหนกปลายจมูกโด่งรั้นดันกดเข้าหาแผงอกกว้างเข้าเต็มเปา งามเด่นได้กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำกลิ่นสปอร์ตสำหรับผู้ชาย ผิวแก้มทั้งสองข้างเห่อร้อน หัวใจเต้นระทึกครึกโครมกับอุบัติเหตุไม่คาดฝัน เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเขา กรกนกกำลังก้มมองมายังเธอด้วยนัยน์ตาเอือมระอา หัวคิ้วเขาขมวดมุ่น เพราะว่าต้องรับน้ำหนักของถังทั้งใบที่ถูกโอนมายังเขาคนเดียว
"จะแต๊ะอั๋งฉันอีกนานไหม ถ้านาน ก็ช่วยหลบให้ฉันยกถังขึ้นเก็บให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน เพราะว่ามันหนัก..."
(อารมณ์ปรารถนา)
มีสายเรียกเข้ามาตอนแสงพระอาทิตย์กระทบถูกผ้าม่าน ก่อนลำแสงนั้นจะค่อยๆผ่านรอยแยกลามเลียมาถึงภายในห้องคับแคบ จนถูกใบหน้าขาวสะอาด งามเด่นนิ่วหน้ารำคาญ เธอกลิ้งตัวหลบแดดอย่างเคยทำมาทุกวัน
กลิ้งจนกระทั่งแผ่นหลังบอบบางสัมผัสถูกผนังห้องอีกด้าน ตอนนั้นเองมีเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือ มันดังแผดลั่นรบกวนคนนอนหลับเพลินๆ ไม่อยากกดรับหากก็ทนรำคาญไม่ไหวเช่นกัน
งามเด่นงัวเงียกดรับสาย หากหนังตาหนักอึ้งทำให้เธอยังไม่คิดจะลืมขึ้น เธอควานมือหาโทรศัพท์เครื่องจิ๋วบนหัวเตียงนอน อารมณ์หงุดหงิดเพราะถูกปลุกทั้งที่เธอยังง่วงอยู่เจ้าตัวจึงได้แต่ส่งเสียงจิจ๊ะ หญิงสาวหรี่ตาขึ้นข้างหนึ่ง หยีมองดูหน้าจอว่าเป็นใครกันที่โทรมาปลุกเธอแต่เช้า
“พี่งามเหรอ...โทรมาทำไมกันแต่เช้า...”
คนถูกปลุกรำพันชื่อของคนโทรมาพร้อมกดรับสาย คนโทรเข้ามาเป็นพี่สาวคนรองของเธอ เธอกับงามละเมียดเป็นพี่น้องคนละพ่อ อันที่จริงเธอยังมีพี่ชายอีกคนซึ่งรายนั้นก็เป็นลูกของอีกพ่อหนึ่ง
แม่ของเธอมีสามีถึงสี่คน สามคนแรกท่านมีลูกด้วยกันคนละคน ลูกแต่ละคนถูกฝั่งของสามีรับไปเลี้ยงดู งามเด่นเป็นลูกคนสุดท้อง เธอใช้ชีวิตอยู่กับบิดาตามลำพัง ท่านทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งหัวหน้า
ส่วนฝ่ายแม่...พอท่านได้สามีคนที่สี่ที่ค่อนข้างจะเป็นถึงมหาเศรษฐีจากต่างแดน ท่านก็ตัดขาดเธอกับพ่อโดยทันที ในเวลานั้นงามเด่นอายุยังไม่ถึงขวบด้วยซ้ำ จำหน้าแม่ไม่ได้หรอก แต่ว่างามเด่นยังโชคดีเพราะว่างามเด่นยังมีคุณป้าที่เป็นพี่สาวของพ่อแล้วก็ยังมีคุณปู่กับคุณย่า ทุกคนต่างสลับกันมารับงามเด่นไปเลี้ยงตอนพ่อต้องออกไปทำงาน
งามเด่นทาบหูโทรศัพท์กับหู แล้วก็หลับตานอนต่อ ทำเพียงส่งเสียงอืออาให้ปลายสายรับรู้ว่าเธอฟังบทสนทนา แม้นอันที่จริงเธอไม่ใคร่ตั้งใจฟังสักเท่าไหร่ ส่วนตัวเธอกับพี่งามละเมียดไม่ค่อยได้เจอกันนัก จะบอกว่าไม่ค่อยสนิทสนมก็คงใช่ แต่งามเด่นก็พอรู้เรื่องราวของอีกฝ่ายเข้าหูอยู่เนืองๆ ไม่ใช่รู้มาจากใครหรอก ก็จากปากของเจ้าตัวเขานั่นแหละ...
งามละเมียดโทรมาโอ้อวดว่าตนกำลังจะได้สามีร่ำรวย อยากมองหาบ้านและรถใหม่สักคัน งามเด่นส่ายหน้ากับโทรศัพท์ทั้งที่ตายังปิดสนิท รู้สึก เสียเวลานอนของเธอชะมัด...
เพราะถ้าให้นับนิ้วมือกับประโยคบอกเล่าเชิงโอ้อวดนี้ เธอเองก็จำแทบไม่หวาดไม่ไหว สุดท้ายพี่สาวเธอก็ต้องหนีบรรดาเมียหลวงชนิดหัวซุกหัวซุนตามเคย เฉียดเป็นเฉียดตายมาก็หลายครั้ง ก็ยังไม่เข็ดหลาบสักที
พี่งามละเมียดเป็นผู้หญิงสวยผิวพรรณผุดผ่องเหมือนกับแม่ แต่ก็มักใช้ความสวยในทางที่ผิดเสมอ อาจเป็นเพราะพ่อของพี่งามแกเป็นนักพนันตัวยง เงินทองหามาได้ก็ไม่เคยพอใช้ คนเดือดร้อนก็หนีไม่พ้นลูกสาว ต้องคอยหาเงินมาคอยใช้หนี้แทนคนเป็นพ่อเสมอ
งามเด่นทนนอนฟังพี่สาวพล่ามพรรณนาอีกไม่กี่คำเธอก็ขอตัวกดวางสาย ก่อนจะพาตัวเองลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว...
-------------------------------
“เฮ้!นายกร...”
เสียงเรียกนั้นมาพร้อมกับร่างกลมกลึงในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มสีน้ำตาลเข้ม วันนี้เจ้าหล่อนกระโดดเข้ามาขว้างหน้าเขาไว้ คนถูกขวางทางหรี่ตาลงมองใบหน้าเนียนใสไร้เครื่องสำอางที่มีกิริยาราวกับม้าดีดกะโหลก
งามเด่นสูงเพียงหน้าอกเขา เธอจึงต้องแหงนคอตอนพูด พอได้มองผิวหน้าเขาแบบใกล้จนแทบเห็นเข้าไปในรูขุมขน ต่อมอิจฉาก็ชักอยากทำงานขึ้นมาตงิดเสียอย่างนั้น
งามเด่นนิ่วหน้า ช้อนสายตาพิจารณาไปทั่วใบหน้าขาวสะอาด
เฮอะ! ผู้ชายแท้บ้าอะไร ผิวหน้าดันใสเสียยิ่งกว่าก้นเด็ก ผิดกับเธอราวฟ้ากับเหว...ทั้งที่เกิดมาเป็นผู้หญิงแท้ๆ ขนาดเสียเงินซื้อครีมพอกหน้ายี่ห้อดังๆแพงๆมาบำรุง ผิวหน้ายังใสได้ไม่เกินครึ่งของหน้าหมอนี่...
เพราะงั้น...ก็ไม่ต้องแปลกหรอก ถ้าสมองหมอนี่จะสั่งการให้คิดหลงตัวเองเข้าขั้นหนักเอาการ
และอาจเป็นเพราะแรงริษยาแสดงออกผ่านทางสีหน้ามากไปหน่อย ดวงตาดำของคนถูกมองถึงได้เข้มจัดขึ้น จนเรียกสติคนขี้อิจฉาให้กลับมาคงที่
งามเด่นยิ้มแหย่พลางล้วงเงินในกระเป๋า...
“ฉันเอาเงินค่าไก่ทอดมาคืนนาย...ไม่ได้คิดจะมาอ่อยหรอกนะอย่าเพิ่งเข้าใจผิด” เงินจำนวนเท่าราคาของไก่ทอดถูกยื่นส่งมาให้ตรงหน้า ส่วนประโยคหลังงามเด่นพูดอยู่ในลำคอ
กรกนกพยักหน้าแล้วรับเงินมาจากมือนุ่ม ปลายนิ้วเรียวยาวของเขาสัมผัสโดนนิ้วเล็กของเจ้าหล่อน จังหวะเล็กน้อยนั้นกรกนกยังอุตส่าห์ชักหนีในทันที
“อืม...” เขารับคำ ทำทีเป็นสอดมือเก็บเงินใส่กระเป๋ากางเกง แล้วก็หมุนตัวเดินต่อ อาทิตย์นี้เขาไม่กลับบ้านก็จริงทว่าก็มีกิจกรรมต้องร่วมทำกับทางมหาวิทยาลัยในฐานะเดือนคณะ คนถูกเมินคล้ายกับรังเกียจถึงกับอ้าปากค้าง กดสายตาเขม้นมองแผ่นหลังกว้างอย่างขุ่นเคืองใจ
“ชิ!พ่อคนเนื้อทอง แตะนิด โดนหน่อยไม่ได้เลย....”
เดือนของคณะตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อด้วยท่าทางมั่นคง จงใจไม่ให้ค่าสาวเจ้าอย่างที่เขาเคยปฏิบัติมาโดยตลอดหนึ่งปี แม้นจะรู้สึกฝืนใจ เพราะถ้าเป็นก่อนหน้านั้นงามเด่นคือเพื่อนร่วมห้องของเขาคนหนึ่ง จนมาเกิดเรื่องสารภาพรักโดยเขาไม่ทันตั้งตัว เจ้าความรู้สึกในใจของเขากลับไม่เหมือนเดิม
แต่กรกนกจะไม่มีวันยอมให้ความรู้สึกไม่เหมือนเดิมนั้น เล็ดลอดจนถูกอีกฝ่ายจับความรู้สึกแท้จริงได้เป็นอันขาด...
-------------------------
* สามารถเข้าอ่านนิยายฉบับเต็มได้ตามลิงค์นี้เลยนะคะ (ธัญวลัย) * - https://www.tunwalai.com/story/692703
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/1520893