หดหู่! "ตาสละชีวิตให้ยายนำเงินฌาปนกิจใช้หนี้" แต่ยังไม่พอค่าดอกเบี้ย
คุณยายสมัย วัย 63 ชาวจ.อุตรดิตถ์ ติดหนี้นอกระบบ ดอกลอยร้อยละ 20 ต่อวัน มาลงทุนซื้อหอมกระเทียมขายแล้วถูกโกง ทำให้ไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ ต้องหากู้เงินนอกระบบมาหมุนวนจ่าย ทำให้เป็นงูกินหาง รวมแล้วจ่ายดอกวันละ 3,000 กว่าบาท เงินทองหามาได้ไม่เคยได้ซื้ออะไรกินเลย
หากวันไหนไม่ส่งเจ้าหนี้จะโทรมาด่า บุกมาขมขู่คุกคามถึงที่บ้าน ตากับยายกินไม่ได้นอนไม่หลับ มานานหลายเดือน ยายจึงปรึกษากับตาว่าเราถ้ามันไม่ไหวจริงๆเรา 2 คนอาจจะต้องยอมให้ใครตายสักคน จะได้เอาเงินประกันมาใช้หนี้
ต่อมาวันที่ 23 พ.ย.66 มีเจ้าหนี้มาทวงค่าดอก ยายล้วงกระเป๋ามีเงินอยู่เพียง 3 บาท เจ้าหนี้จึงด่าทอทั้งตาและยายด้วยคำพูดที่หยาบคายขึ้นมึงขึ้นกู ข่มขู่ว่าจะทำร้ายยาย ตาเลยตัดสินใจแอบไปสละชีวิตตนเอง เพื่อให้ยายนำเงินฌาปนกิจ มาจ่ายให้เจ้าหนี้นอกระบบ
แต่หลังจากนำเงินฌาปนกิจของตาที่เสียชีวิตไปหลังจากหักค่าทำศพ นำไปจ่ายหนี้นอกระบบก็ยังหักค่าดอกไม่พอ เพราะเจ้าหนี้แต่ละรายอ้างว่ายายค้างค่าดอกมาหลายวัน ทำให้ต้องนำดอกมาคิดเป็นเงินต้น จึงทำให้ค่าดอกต้องเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
เจ้าหนี้จึงมาข่มขู่จะเอาเงินที่ยายเพิ่ม โดยข่มขู่กับยายว่าถ้าหาเงินไม่ได้ก็เตรียมตัวตายตามตาไปจะได้มีเงินมาใช้หนี้ ยายเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากยังมีหลานที่ต้องเลี้ยงอีก 2 คน หมดหนทาง จึงตัดสินใจเดินทางมาขอความช่วยเหลือ
เมื่อนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย/ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด รับเรื่องร้องเรียนแล้ว จะพาคุณยาย เดินทางไปพบ พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อหารือแนวทางในการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้
ฝากเตือนไปยังประชาชนที่ประสบปัญหาหนี้นอกระบบ อย่ายอมจำนนต่อเจ้าหนี้ ควรเข้ารับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะยังมีช่องทางช่วยเหลืออีกมากมาย