สะใภ้ขัดดอก ตอน : แผนการตัวร้าย
สะใภ้ขัดดอก
ตอน : คุณมันตัวร้าย
นิยายออนไลน์ จำหน่ายในรูปแบบ ebook
ลิงค์สำหรับโหลดซื้อ นิยาย(สะใภ้ขัดดอก) - https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTA5NTcwOSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6IjQ3NDE3Ijt9
ราคา ebook 159.-
ตอน...แผนการตัวร้าย
เสียงเจื้อยแจ้วราวกับนกแก้วนกขุนทองของสายบัวดังขึ้นอยู่ตลอดเวลาเส้นทางที่เดินไปด้วยกัน คนรับฟังทำเพียงแต่ตอบรับคำสั้นๆพร้อมกับพยักหน้ารับรู้บ้างเป็นบางครั้ง โดยที่สายตากลมโตราวกวางน้อยให้ความสนใจกับธรรมชาติรอบๆตัวเสียมากกว่าเสียงเจื้อยแจ้วของสาวรุ่นน้อง นิดาชื่นชมกับบรรยากาศภายในไร่ส้มอย่างตื่นตาตื่นใจ เพราะตลอดระยะเวลาตั้งแต่วัยเด็กจนสู่วัยสาว น้อยครั้งนักที่เธอจะได้ออกมาพบเห็นกับสิ่งสวยงามโดยธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมาเองเช่นนี้ได้ เมื่อสถานะเพียงคนใช้ ไม่อาจไปไหนมาไหนอย่างใจปรารถนาได้...
"นายพยัคฆ์ของสายบัวนี่ ดูท่าจะดุมากเลยนะคะ..." นิดาระบายยิ้มอ่อนๆ พยายามนึกตามคำพูดของสายบัว นายพยัคฆ์เจ้าของไร่คงจะมีหน้าตาดุๆสินะ เพราะชื่อก็สื่อให้เห็นอยู่แล้วว่าคงจะดุมากไม่ใช่เล่น
“นายพยัคฆ์เป็นคนดุมากก็จริงอยู่หรอกค่ะ แต่นายจะดุเฉพาะเรื่องงานกับพวกคนเกเรๆเท่านั้นแหละ ถ้านอกเหนือจากเวลางาน นายก็เต็มที่กับทุกคนมากๆเลยล่ะค่ะ...โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่ กับเรื่องปากท้องของคนงานในไร่นี้ อ้อ...ที่สำคัญจะเน้นเรื่องการศึกษาของพวกเราทุกคนเป็นหลัก นายอยากให้พวกเรามีการศึกษา จะได้มีความรู้เอาไปใช้พัฒนาที่ทำกินของตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องมารับจ้างทำงานให้หลังขดหลังแข็งอยู่แต่ในไร่นี้อย่างเดียว นายอยากให้พวกเรามีอนาคตที่ดี เป็นเสาหลักให้กับเด็กๆในวันข้างหน้าได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใครค่ะ...”
“รูปหล่อแถมยังใจดี...” นิดาเอ่ยแซว
“ใช่เลยล่ะค่ะคุณนิ...พวกเราทุกคนในไร่แห่งนี้รักนายใหญ่กับนายพยัคฆ์กันทุกคน ถ้าจะให้สายบัวพูดอย่างเวอร์ๆ ก็แม้แต่ชีวิตพวกเราก็ยอมยกให้นายได้โดยไม่นึกเสียดาย...” คนไม่เสียดายชีวิตแสดงสีหน้าอย่างภาคภูมิใจ
ขนาดนิดาที่ไม่เคยได้รู้จักกับเจ้าของไร่แห่งนี้ ยังอดรู้สึกปลาบปลื้มใจแทนไม่ได้เลย ไม่ใช่เพียงแค่คำพูดที่นิดาสัมผัสถึง แม้แต่แววตาของเด็กสาว ก็ฉายออกมาไม่ต่างจากคำพูดเลยแม้แต่น้อย
สายบัวส่งยิ้มฟันขาวให้นายสาว พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นพี่มืดกวักมือเรียกอยู่ไหวๆ ส่งสัญญาณบางอย่างให้เธอเข้าใจ สายบัวส่งสัญญาณตอบกลับไปให้พี่ชาย เป็นอันว่าตามแผน...
“เอ่อ...คุณนิคะ คุณนิยืนรอสายบัวตรงนี้สักครู่ก่อนนะคะ พอดีสายบัวพึ่งนึกขึ้นได้ สายบัวลืมปิดน้ำตอนออกมาจากห้องครัวนะค่ะ...”
“อ้าวตายจริง!!! งั้นสายบัวรีบไปเถอะ เดี๋ยวนิยืนดูอะไรแถวๆนี้รอก่อนก็ได้จ้ะ”
“งั้นสายบัวรีบไปก่อนนะคะ...” เมื่อสั่งลาเรียบร้อยสายบัวก็รีบวิ่งปรู๊ดหายไปยังทิศทางที่พี่มืดของตัวเองยืนรออยู่
เมื่อสายบัวลับหายไปจากสายตา นิดาจึงค่อยๆเดินสำรวจบริเวณใกล้เคียงอีกรอบ ก่อนจะได้กลิ่นโชยของดอกกุหลาบปะทะเข้ามาทางจมูก หญิงสาวจึงเดินตามกลิ่นหอมนั้นไปเรื่อยๆ จนพบเข้ากับความงดงามของสวนกุหลาบสุดลูกหูลูกตา...
ความงดงามตรงหน้าทำให้สองขาเรียวยาวต้องหยุดชะงักงัน สีแดงบานสะพรั่งของกลีบกุหลาบหลายพันดอก ยิ่งเร่งเร้าให้นิดาก้าวเท้าเดินเข้าไปหามันด้วยสายตาตื่นตะลึง โดยไม่ทันมองว่าตรงบริเวณโคนต้นไม้ใหญ่นั้นมีใครบางคนยืนแอบซุ่มมองอยู่อย่างไม่คาดสายตา...
“อุ้ย!!!” แต่พอเธอกำลังจะโน้มร่างลงดอมดมซุ้มกุหลาบแดงซุ้มใหญ่แสนระรานตาเบื้องหน้า หญิงสาวก็ถึงกับตัวชาวาบเกือบสิ้นสติลง เมื่อพวงแก้มนิ่มเหมือนโดนปลายจมูกใครฝังลงมาโดยไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว
“ฟอด!...” ปลายจมูกโด่งกดลงยังเป้าหมายด้วยความแม่นยำ ก่อนจะสูดเอากลิ่นหอมยิ่งกว่ากลิ่นกลีบกุหลาบเข้าไปเสียเต็มเปา
“ฮ้อม...หอม” น้ำเสียงยียวนชวนให้นิดาโมโห บวกกับแววตาแพรวพราวของคนกวนประสาท ส่งไปให้ร่างบางอย่างท้าทาย นิดาถึงกับผงะถอยหลังออกห่าง ส่วนฝ่ามือน้อยก็ยกแตะลงบนแก้มนิ่มของตัวเอง แววตาแม่กวางน้อยขยายโตขึ้นมองคนฉวยโอกาสหน้าไม่อายอย่างฉุนเฉียว
“คนบ้า...คุณทำอะไรของคุณเนี่ย...” นิดาเหวใส่เสียงดัง ริมฝีปากอิ่มก็เม้มเข้าหากันแน่น รู้สึกเจ็บใจกับการกระทำอันอุกอาจนี้ของชายหนุ่ม คนหน้าไม่อายกระตุกยิ้มยกหัวไหล่ขึ้น ท่าทางยียวนจนนิดาแทบอยากจะตบให้สักฉาดใหญ่
“ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เธอก้มมาดมดอกกุหลาบดอกเดียวกันกับฉันล่ะ ฉันก็อยากจะดมดอกนั้นเหมือนกันนะ...” คนหน้ามึนแถมยังหน้ารกไปด้วยหนวดเคราเพราะยังไม่คิดจะดูแลตัวเอง หลังจากไหวไหล่ขึ้นอย่างไม่ใส่ใจแถมยังเบ้ปากยียวนเสียอย่างนั้น ยิ่งทำให้นิดาอยากจะเข้าไปฉีกเนื้อเขาออกเป็นชิ้นๆแล้วโยนให้หมูหมามันกินนัก
“คนบ้า...คุณๆๆๆๆนี่มัน...เฮ้อ!..คุณก็เห็น ฉันเป็นคนก้มลงไปดมดอกนั้นก่อน ทำไมคุณไม่เปลี่ยนไปดมดอกอื่นเสียล่ะ แบบนี้เขาเรียกเป็นการฉวยโอกาสชัดๆ ฉันไม่อยากคุยกับคนอย่างคุณแล้ว...คนบ้า” คนโดนฉกแก้มหอม โกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่ก็ทำอะไรคนตีมึนจอมฉวยโอกาสไม่ได้ เธอจึงหันหลังคิดจะเดินหนีคนหน้ามึนไปชมแปลงกุหลาบตรงจุดอื่นแทน จุดที่คิดว่าน่าจะอยู่ห่างไกลจากคนชอบฉวยโอกาสอยู่พอสมควร หากขืนเธอยังยืนอยู่ใกล้เขาอีก ก็คงไม่แคล้วคลาดต้องโดนเขาฉวยโอกาสเอาอีกเป็นแน่ๆ
“อ้าวๆนี่แม่หน้าวอก...อย่ามากล่าวหากันลอยๆแล้วคิดจะเดินหนีกันสิ ไหน...ฉันไปฉวยโอกาสกับเธอตอนไหนไม่ทราบ ก็บอกแล้วไง ฉันกำลังจะก้มหน้าไปดมดอกกุหลาบดอกนั้นเข้าพอดี ไม่คิดว่าจะหลงตัวเองเกินไปหน่อยนักหรือไงแม่คุณ...ฮะ”
“ฉันไม่อยากจะคุยกับคุณ จะไปไหนก็ไป ไป๊...” พอไล่เขาไปไกลๆนิดาก็สะบัดหน้าใส่ เดินกระแทกเท้าหน้ามุ่ยไปเดินยังจุดอื่น
“ไม่ไป...มีอะไรมะ...” แต่หน้ามึนยังคงตีเนียน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างน่าหมั่นไส้นัก เอาแต่คอยเดินตามร่างบางไม่ยอมห่าง พอเห็นนิดาหยุดเขาก็หยุดตาม พอเห็นนิดาโน้มตัวเข้าหาดอกกุหลาบงาม เขาก็รีบสาวเท้าเดินไปซ้อนยังบริเวณด้านหลังของเธอ แล้วโน้มร่างใหญ่ตามร่างน้อยไปด้วย จนแผ่นหน้าอกกว้างแนบชิดติดกับแผ่นหลังของนิดา น่านพยัคฆ์ทำทีเป็นเอื้อมมือไปเด็ดดอกกุหลาบผ่านใบหน้างามอย่างหน้าตาเฉย
นิดารีบหันหน้าขวับมามองด้วยแววตาเขียวปั้ด ริมฝีปากอิ่มสีชมพูอ่อนตามธรรมชาติถูกเม้มเข้าหากันอีกหน เมื่อร่างของตัวเองดูเหมือนคล้ายๆจะตกเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มจอมฉวยโอกาสอีกจนได้
“เอ๊ะ! นี่คุณจะเดินตามฉันมาทำไมนักหนาคะ ทางเดินก็มีออกตั้งกว้าง ส่วนแปลงดอกกุหลาบก็มีออกตั้งเยอะ คุณก็ไปดูตรงอื่นสิ จะมาเดินตามฉันทำไมมิทราบคะ...” นิดาสะบัดค้อนใส่ ดูเหมือนสิ่งที่เธอพูดเขาจะทำเป็นหูทวนลมไปเสียอย่างนั้น เมื่อร่างหนายังคงยืนนิ่งเฉยไม่ยอมขยับถอยห่างไปไหนสักก้าวเดียว เป็นเหตุให้นิดาต้องยืนกัดฟันตัวเองกรอดๆเพื่อระงับอารมณ์พุ่งพล่าน...
น่านพยัคฆ์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ยกก้านกุลาบสีแดงขึ้นมาจรดปลายจมูกโด่งเพื่อสูดดมแทนคำตอบ เขาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงไล่จากปากคนสวยขี้โมโห ซึ่งตอนนี้ใบหน้าหวานดูเหมือนจะเปลี่ยนจากขาวนวลกลายเป็นแดงก่ำไปเสียแล้ว เขาเห็นแล้วก็ร่ำๆอยากจะก้มลงไปฟัดให้หายหมั่นเขี้ยวเสียเหลือเกิน ผู้หญิงอะไรยิ่งโกรธก็ยิ่งสวยยิ่งโมโหก็ยิ่งน่ารักเป็นบ้า ชะรอยไอ้ลูกชายตัวดีของเขา มันจะคึกคะนองขึ้นมาอีกแล้ว เดือดร้อนน่านพยัคฆ์ต้องข่มใจตัวเองเอาไว้อย่างยิ่งยวด คอยปลอบประโลมไอ้ลูกชายไม่รักดี ให้มันสงบจิตสงบใจไม่ฟุ้งซ่านจนทำให้นิดาหนีเตลิดไปไหนอีก...
เฮ้ย! หัดใจเย็นลงเสียบ้างไอ้ลูกรัก ไม่ใช่พอได้ใกล้ชิดกับแม่เมียตัวหอมเข้าหน่อย จะมาทำเป็นกระโจนเข้าหาซะทุกครั้งไป ไม่ได้นะโว้ย!...
“ก็ฉันพอใจ มีอะไรม่ะ หรือเธอมีปัญหา ตัวต่อตัวเสื้อผ้าไม่เกี่ยวเอาปะ ฉันพร้อมจะแก้...ถ้าเธอต้องการ...” น่านพยัคฆ์ยักคิ้วยียวน พร้อมกับโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาหาอย่างคุกคาม
“อี้...ไอ้คนทุเรศ...” คนถูกท้ายทายเบี้ยงหน้างามหลบปลายจมูกโด่ง
“แล้วอีกย่างนะ ฉันก็ไม่เห็นว่าจะมีป้ายบอกสั่งห้ามไม่ให้ฉันเดินตามเธอเสียหน่อย...หรือเธอเห็นว่ามี หึ...ว่าไง ไหนล่ะป้ายห้าม...ไหนๆเอามาดูสิ ถ้ามีฉันจะได้ไม่เดินตามเธอไง” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามย้ำ น้ำเสียงยังคงก่อกวนอารมณ์คนฟังอยู่เหมือนเดิม
นิดาต้องกำมือเข้าหากันแน่น ใบหน้าสวยเชิดขึ้นมองตัวก่อกวนอารมร์อย่างหงุดหงิด...
“คนบ้า! ถอยออกไปให้ห่างฉันเลยนะ ถึงไม่มีป้ายบอก ก็หัดมีมารยาทกับเขาเสียบ้าง ไม่ใช่ทำตัวยิ่งกว่าคนเถื่อนอันธพาล คิดอยาจะทำอะไรก็ทำโดยไม่เห็นหัวใคร...” ต่อว่าเขาเสร็จหญิงสาวก็สะบัดหน้าเดินหนีด้วยความโมโหสุดขีด ผู้ชายอะไรนิสัยไม่ดี ชอบหาเศษหาเลยกับเธออยู่เรื่อยเลย คิดแล้วเธอก็อยากจะหาอะไรใกล้ๆมือฟาดลงบนหัวเขาให้แบะนัก คนอะไรเผลอเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวทุกครั้งไปสิน่า มิหนำซ้ำยังยียวนกวนอารมณ์ให้เธอต้องโมโหเป็นที่สุดอีกด้วย...
"ไม่อยากเห็นหัวแต่อยากเห็นอย่างอื่นมากกว่า เธอจะให้เห็นหรือเปล่าล่ะถ้าฉันอยากเห็น...”
“ไอ้บ้า...ถอยออกไปเดี๋ยวนี้เลย แล้วก็ไมต้องมาเดินตามฉันอีกด้วย ฉันไม่ชอบ...”
“แต่ฉันชอบและก็ไม่อยากถอย อยากอยู่ใกล้ ไม่ได้หรือไง หึ...ก็ตัวเธอออกจะฮ้อมหอม ได้กลิ่นแล้วก็ชื่นใจไปหมด อยากจะเด็ดมาดมแบบนี้ทั้งวันเลย..." น่านพยัคฆ์ทำทีเป็นสูดดมดอกกุหลาบในมือพร้อมกับส่งสายตาพราวระยับ ใบหน้างามถึงกับสะบัดร้อนสะบัดหนาวกับคำพูดของชายหนุ่ม
“ทั้งบ้า ทั้งโรคจิตอีกด้วย คนอะไรนิสัยแย่มาก...” นิดาแกล้งพูดต่อว่าเขาออกไปเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอายของตัวเอง ก่อนจะผินใบหน้าของตัวเองแสร้งมองไปยังทิศทางอื่นแทน กลัวชายหนุ่มจะเห็นใบหน้าแดงระเรื่อของเธอเข้า
“ชอบหรือเปล่าแปลงกุหลาบ...” อยู่ดีๆน่านพยัคฆ์ก็ถามขึ้นมาลอยๆ เมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่ยืนทำหน้าบูดหน้าบึ้ง แถมยังหันหน้าหนีเขาอีกด้วย เห็นแล้วก็พาลอยากจะทำมากกว่าหอมแก้มเสียแล้วสิ มือใหญ่ยกขึ้นกอดอกทอดสายตาลงมองยังร่างน้อยตรงหน้าอย่างรอฟังคำตอบ กุหลาบในมือใหญ่ถูกยื่นไปง้อคนแสนงอน แต่ก็ได้รับความเฉยเมยกลับมาแทน...
“เธอโกรธฉันเหรอ...” คนอยากแกล้งเอ่ยถามเสียงหวาน
“ใช่...ฉันโกรธ แล้วก็โกรธคุณมากด้วย” นิดายอมรับอย่างไม่ปิดบัง
“แล้วชอบหรือเปล่าแปลงกุหลาบ...” น่านพยัคฆ์ยิ้มอ่อนเมื่อแม่ตัวหอมของเขาเล่นพูดยอมรับออกมาเสียตรงๆ ไม่ได้ทำแง่งอนเหมือนสาวอื่นทั่วไปเขาทำกัน แต่จนแล้วจนรอดชายหนุ่มก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากปากของสาวเจ้าให้เขาได้ชื่นใจ สรุปเธอชอบหรือไม่ชอบแปลงกุหลาบนี้กันแน่...
“-----------------“
เพราะยังรู้สึกหมั่นไส้เขาอยู่ นิดาเลยทำเป็นไม่ใยดีกับเสียงถาม มองดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย โดยในสายตานั้นพยายามไม่มองคนร่างใหญ่ตรงหน้าให้เสียลูกตา
“ฮึ...ว่าไงชอบหรือเปล่าแปลงกุหลาบ ฉันว่ามันสวยดีนะ เหมาะกับผู้หญิงสวยๆ...” น่านพยัคฆ์ถามซ้ำแต่ปรับน้ำเสียงให้ฟังดูนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ส่วนสายตาสีสนิทมเหล็กก็จับจ้องใบหน้างามอย่างไม่วางตา เขาจงใจบอกความนัยให้เธอได้รู้ แปลงกุหลาบกับสาวสวยนั้นเขาหมายถึงใคร...
แต่คนแสนงอนก็ยังเชิดใบหน้าขึ้น ไม่ตอบโต้อะไรออกไป เขาอยากพูดอะไรก็ปล่อยไป ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดกับผู้ชายบ้าบอคนนี้เลย...
เมื่อถามาเท่าไหร่ แม่เมียตัวหอมของเขาก็เอาแต่เชิดหน้าขึ้น น่านพยัคฆ์เลยตัดสินใจก่อนฉวยเอาข้อมือเล็กของหญิงสาวขึ้นมา แล้วบังคับให้เธอแบมือออก พร้อมกับวางดอกกุหลาบดอกสวยลงบนฝ่ามือน้อยของเธอ ดวงตาดุกร้าวจ้องบังคับให้หญิงสาวกำก้านของกุหลาบเอาไว้ ห้ามทิ้งลงพื้นเด็ดขาด ไม่อย่างงั้นคงจะได้เห็นดีกันแน่ และดูเหมือนนิดาก็พอจะรู้ความหมายในดวงตาดุคู่นั้นของชายหนุ่ม เธอจึงกำก้านดอกกุหลาบเอาไว้ ใจหนึ่งเธอก็อยากขัดคำสั่งเขา แต่พอได้เห็นเจ้าดอกกุหลาบสีแดงสด เธอก็ทำร้ายสิ่งที่ตัวเองรักไม่ลง จำใจต้องรับดอกกุหลาบดอกนั้นไว้อย่างเสียไม่ได้...
“สรุปว่าชอบไหม หึ...” ร่างใหญ่โตโน้มเข้าหาร่างน้อยเพื่อรอฟังคำตอบ
“ชอบค่ะ...” สุดท้ายนิดาก็ยอมรับเสียงเบา ก้มใบหน้างามดอมดมดอกกุหลาบในมืออย่างลืมตัว
“ดี...” ชายหนุ่มตอบรับเพียงสั้นๆ รู้สึกดีใจที่ได้ยินว่านิดาชอบ...
“แล้วชอบมากหรือเปล่าล่ะ..." คนได้คืบจะเอาศอกยังคงรบเร้าจะถามต่อ
เขารึอุตส่าห์สั่งให้คนงานมาเตรียมดินไว้เมื่อหลายวันก่อน ตอนได้รับคำตอบจากวรสิทธิ์กับน้ำฟ้า นิดาตอบตกลงรับจะมาทำงานในใร่แห่งนี้อย่างง่ายดาย และนี้ก็เป็นหนึ่งในแผนการที่เขาคิดมันขึ้นมา ประจวบเหมาะกับข้อมูลของหญิงสาวที่คนของเขาสืบประวัติมาให้ นิดาชอบกุหลาบสีแดงมากเป็นพิเศษ เขาจึงดัดแปลงที่ดินตรงส่วนนี้กว่าครึ่งไร่ เนรมิตสวนกุกลาบสีแดงไว้เพื่อรอเธอ...
นิดารู้สึกกระดากอายหากจะตอบเขาไป...ว่าเธอเองก็รู้สึกชื่นชอบแปลงกุหลาบนี้มากเป็นพิเศษ จึงได้แต่ยืนเงียบ จนคนเจ้าอารมณ์เสียงดังขึ้นมาอีก เมื่อเขายังไม่ได้ยินคำตอบพอใจออกจากปากของนิดาเสียที
“เอ๊ะ!ฉันถาม...ไม่ได้ยินหรือไง หรือต้องการเรียกร้องให้ฉันเข้าใกล้เธออีก ชอบล่ะสิเวลาฉันเข้าถึงเนื้อถึงตัวเธอน่ะ ก็อย่างว่าล่ะนะ ก็ฉันมันทั้งหล่อแล้วก็เร้าใจเสียด้วย...” คนหลงตัวเองไม่พูดเปล่าเพียงอย่างเดียว แต่น่านพยัคฆ์ยังคงขยับเท้าเข้าใกล้หญิงสาว จนนิดาถึงกับถอยหลังร่นด้วยความรวดเร็ว
“จะบ้าหรือไง ไอ้คนหลงตัวเอง ฉันเหม็นขี้หน้าคุณต่างหากล่ะ อย่าได้คิดหลงตัวเองไปหน่อยนักเลย...” เมื่อสาวเท้าออกมายืนห่างจากชายหนุ่มได้พอประมาณ นิดาจึงทำปากขมุบขมิบส่งค้อนวงใหญ่ไปให้คนหลงตัวเอง
หึ... ใครเขาอยากจะอยู่ใกล้กับผู้ชายปากเสียอย่างคุณกันเล่า คนบ้า..
“เธอว่าอะไรนะ? ฉันได้ยินไม่ค่อยถนัดหูสักเท่าไหร่เลย มาพูดให้ฉันได้ยินใกล้ๆหน่อยสิแม่หน้าวอก...” ไม่ใช่ไม่ได้ยินถนัดแต่เขาได้ยินมันเต็มสองหูของเขาเลยนะสิไม่ว่า...
ร้ายนักนะแม่เมียเนื้อหอม...
นิดาไม่ได้ขยับเดินมาตามคำเรียกร้อง แต่กับยืนหันหน้าหันหลัง เพื่อจะหาทางไปให้พ้นจากผู้ชายตรงหน้าเธอเสียที คนบ้าอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้ ทั้งหลงตัวเองเป็นที่หนึ่งแล้วยังจะชอบฉวยโอกาสอีกด้วย...
น่านพยัคฆ์นึกสนุกจึงรีบสาวเท้าเดินตรงไปหาร่างน้อยเมื่อเห็นนิดาเผลอ เลยโน้มใบหน้าเข้าหาใบหน้าหวาน จนริมฝีปากอิ่มเฉียดแก้มรกไปด้วยหนวดเคราเพียงนิดเดียว ดีที่นิดาเบี่ยงหน้าหลบแก้มสากของชายหนุ่มเอาไว้ได้ทันเสียก่อน ไม่อย่างงั้นเธอคงได้หอมแก้มของคนคนหลงตัวเองไปแล้วก็ได้
“อุ้ย! ฉันไม่อยากอยู่ใกล้ๆกับคนบ้าอย่างคุณแล้ว...” นิดาผลักร่างใหญ่อย่างแรง ก่อนจะวิ่งหนีไปยังทิศทางเดิม เมื่อเห็นสายบัวกำลังเดินตรงมาพอดี
ส่วนชายหนุ่มถึงกับหลุดเสียงหัวเราะร่วนออกมาเสียงดังลั่นตามหลังร่างน้อยไปติดๆ นานเท่าไหร่แล้วนะ... ที่หัวใจกับเสียงหัวเราะของเขามันเกิดมีความสุขขึ้นมาพร้อมๆกันเหมือนดั่งเช่นในตอนนี้ ตอนที่เขามีใครอีกคนเดินเข้ามาในชีวิตอันเงียบเหงา...
“ป้าลำเจียกจ๋า...ดูสิ วันนี้สายบัวพาใครมาด้วยเอ่ย” เสียงแจ๋วแหววของสายบัวดังมาก่อนเจ้าตัวจะโผล่หน้าเข้ามาเสียอีก แม่ครัวใหญ่ของไร่ราชพยัคฆ์หันไปตามเสียงเจื้อยแจ้วนั้นก่อนจะวางทัพพีคนแกงในหม้อลง แล้วหันตัวไปมองยังเสียงเรียก ก็พบเข้ากับเจ้าของเสียงเล็กแหลมกับหญิงสาวสวยราวนางฟ้าอีกคนหนึ่ง...
“นั่นเอ็งพาใครมาด้วยน่ะนังสายบัว...” หัวคิ้วย่นของผู้อาวุโสขมวดลงเมื่อนางเห็นหญิงสาวไม่คุ้นหน้าคุ้นตายืนเคียงข้างอยู่กับสายบัว
“ก็คุณนิดาไงป้า...เป็นไง ผิดจากที่สายบัวบอกไหมล่ะจ้ะ “ ป้าลำเจียกจึงมองหญิงสาวข้างๆสายบัว พิจารณารูปร่างหน้าตาโดยละเอียด แววตาของนางอดจะชื่นชมในความงามละมุนละไมอย่างลงตัวของหญิงสาวผู้นี้ไม่ได้
“สวัสดีค่ะป้า...” นิดารีบยกมือไหว้เมื่อเห็นผู้แก่อาวุโสกว่าหันหน้ามามองทางเธอ
“ไหว้พระเถอะจ๊ะแม่คุณ...โธ่ กิริยามารยาทงดงามเหลือเกิน...” ป้าลำเจียกรีบยกมือขึ้นรับไหว้พร้อมกับเอ่ยปากชื่นชมไม่หยุด สายตาของคนผ่านโลกมานานกว่ามองปราดเดียว ก็ให้รู้สึกถูกชะตากับนายหญิงของไร่อย่างบอกไม่ถูก
“เฮ้ยๆ...พวกเอ็งวางมือลงก่อน แล้วมาทางนี้กัน ข้ามีคนจะแนะนำให้พวกเอ็งได้รู้จักเอาไว้” ป้าลำเจียกตะโกนเสียงสั่งการบรรดาลูกมือทั้งหลายให้หยุดมือซักประเดี๋ยว เมื่อนางต้องการจะแนะนำนายหญิงให้ทุกคนได้รู้จักกันเอาไว้
ใบหน้าเหี่ยวตามกาลเวลาระบายยิ้มส่งมาทางนายหญิงเป็นระยะ ผู้หญิงอะไรสวยทั้งรูปร่างหน้าตา สวยทั้งกิริยามารยาท ช่างดูเหมาะสมเหลือเกิน หากได้มายืนเคียงข้างเป็นขวัญและกำลังใจให้นายพยัคฆ์ของนาง ต่อไปนางคงนอนตายตาหลับกับเขาเสียที นายพยัคฆ์เองนางก็รักและห่วงใยไม่ตายจากลูกในอก เลี้ยงดูกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก พอโตขึ้นมาก็ทำให้นางหนักใจอยู่อีกแค่เรื่องเดียว ก็เรื่องการมีครอบครัวกับเขานี่แหละ นางกลัวคุณหนูของตัวเองจะไม่ยอมแต่งงานเอานะสิ...
นายใหญ่นี่ก็ช่างตาแหลมคมไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะ ช่างเลือกหาลูกสะใภ้ได้เหมาะสมกับลูกชายของท่านเสียเหลือเกิน แถมยังถูกใจนางอย่างแรงอีกต่างหากด้วย...
“นี่คุณนิดานะพวกเรา...เธอเป็น....”
“เป็นคนดูแลนายใหญ่ของพวกเรานะจ้ะ...” สายบัวรีบพูดแทรกขึ้น ขยิบตาให้กับหัวหน้าแม่ครัวเป็นการบอกใบ้บางอย่าง
ป้าลำเจียกก็ขมวดคิ้วมุ่นไม่เข้าใจอาการส่งซิกของเด็กสาวสักเท่าไหร่นักหรอก แต่ก็ยอมหุบปากลง เออออตามสายบัวไปก่อน เอาไว้ค่อยถามไถ่กับมันทีหลังก็แล้วกัน ทำไมถึงได้แนะนำนายหญิงเป็นแค่คนดูแลนายใหญ่ไปได้ ทั้งที่ความจริงเขาก็พูดกันไปทั่ว คุณนิคือลูกสะใภ้ที่นายใหญ่เป็นคนหามาให้ลูกชายด้วยตัวของท่านเอง...
“สวัสดีค่ะทุกๆคน นิขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยคนนะคะ ถ้ามีอะไรให้นิช่วยบอกนิมาได้นะคะ นิยินดีช่วยเสมอค่ะ โดยเฉพาะเรื่องอาหารนิถนัดมาก...” นิดายกมือไหว้ทุกคนด้วยกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตน ส่วนบรรดาลุงๆป้าๆที่เป็นลูกมือของป้าลำเจียก ก็รีบยกมือรับไห้วรับกันแทบไม่ทันเช่นเดียวกัน ต่างก็ยิ้มแย้มชอบอกชอบใจกับความอ่อนน้อมถ่อมตนของนายหญิงกันยกใหญ่
“คุณนิ นี่สวยเหมือนนางฟ้าเลยนะคะ...” หนึ่งในคนครัวเอ่ยปากชมหญิงสาว
“ใช่ๆ ฉันเห็นด้วยกับแก่ยายพลิ้ง คุณนิทั้งสวยทั้งเรียบร้อย เหมาะจะมาเป็นน้ำเย็นฉ่ำให้กับไร่เราเหลือเกิน พวกเอ็งว่าเหมือนข้ากันไหมวะพวกเรา...”
“ใช่ๆ ข้าเห็นด้วยกับเอ็งเหมือนกันอีลำใย” ฝ่ายสนับสนุนรีบเออออด้วยไปตามๆกันอีกหลายเสียง
“ขอบคุณค่ะ” นิดายิ้มรับด้วยความขอบคุณ ถึงจะรู้สึกขัดหูกับบางประโยคอยู่บ้างก็ตาม
“ทำอะไรกันอยู่หรือคะ วันนี้นิยังไม่ได้เริ่มงานดูแลคุณสิงห์ งั้นขอนิช่วยทำงานด้วยคนได้ไหม งานครัวนี่เป็นงานถนัดของนิเลยล่ะค่ะ...” หญิงสาวรีบเสนอตัวขันอาสา เมื่อมองไปรอบๆห้องครัว ยังเห็นอุปกรณ์ทำครัวถูกวางไว้ตามจุดต่างๆเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด ทำให้รู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมา เธอไม่ได้ทำครัวมานานเป็นเดือน ก็นึกอยากจะปรุงอาหารขึ้นมาครามครัน
“จะดีหรือคะ ในนี้มันทั้งร้อน ทั้งเหม็น คุณนิจะทนได้หรือเปล่า ป้าว่าคุณนิออกไปเดินเล่นในไร่รอเถอะค่ะ ทางนี้คนงานเราเยอะแยะช่วยกันคนล่ะไม้คนล่ะมือแป๊บเดียวเดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะค่ะ” ป้าลำเจียกพูดห้ามขึ้น เพราะนางเองก็กลัวนายพยัคฆ์จะไม่พอใจเอาได้ หากนางปล่อยให้นายหญิงมาทำงานในก้นครัวร้อนๆแบบนี้
“นั่นสิคุณนิ สายบัวว่าเราออกไปเดินเล่นกันด้านนอกจะดีกว่านะคะ อยู่ข้างในนี้ร้อนจะตายออกค่ะ...” ด้วยมีนิสัยชอบเที่ยวเล่นตามประสาเด็กวัยรุ่น สายบัวจึงเกียจคร้านการทำงานในห้องครัวเป็นที่หนึ่ง
ก็แหมนะ...นายพยัคฆ์อุตส่าห์มอบตำแหน่งคนสนิทนายหญิงให้อีสายบัวแล้วแท้ๆ เรื่องอะไรจะมาทำงานในโรงครัวร้อนๆอีกล่ะ...เด็กสาวคิด
“นิไม่อยากเดินเล่นต่อแล้วล่ะค่ะ ขอนิช่วยงานในนี้ด้วยอีกซักคนนะคะป้าลำเจียกขา...” นิดาใช้น้ำเสียงออดอ้อน นิ้วมือเรียวสวยเกาะเข้ากับลำแขนอวบของแม่ครัวใหญ่ พร้อมกับส่งแววตาเว้าวอนไปยังแม่บ้านใหญ่สุดฤทธิ์ จนป้าลำเจียกถึงกับส่ายหัว ในความน่ารักของนายสาว จนในที่สุดนางจึงพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต ให้นายหญิงอยู่ช่วยทำครัวด้วยอีกคนได้ ส่วนสายบัวนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยเมื่อใบหน้ากลมบล๊อกงอลงทันที ด้วยนึกแสนเสียดายไม่ได้เที่ยวเล่นอย่างที่ใจคิดอีกแล้ว...
“ก็ได้ค่ะ คุณนินี่เดื้อเสียจริงเชียว ถ้าร้อนห้ามบ่นนะคะ ป้าเตือนคุณเอาไว้แล้วด้วย”
“ค่ะ...นิจะไม่บ่นเลยซักคำเดียว ไหนคะจะให้นิช่วยทำอะไร บอกนิมาได้เลย นิทำได้หมดทุกอย่างเลยค่ะ....” นิดาแสดงท่าทางกระตือรื้อร้น ใบหน้าหวานระบายยิ้มอยู่เป็นระยะ คอยช่วยจับโน่นทำนี่อยู่ไม่ขาดมือ เรียกความเอ็นดูจากคนงานในห้องครัวใหญ่ของไร่ไปเลยทุกคน
**********************
จวบจนได้เวลาพักกลางวันของเหล่าบรรดาคนงานในไร่ ซึ่งต่างก็ทยอยกันเดินเข้ามายังโรงอาหาร ทุกๆสายตาล้วนต่างจับจ้องไปยังร่างอรชรของแม่ครัวคนใหม่ตาไม่กระพริบ บ้างก็สะกิดกันชักชวนดู บ้างก็ส่งเสียงชื่นชมไม่ขาดปาก ต่างก็นึกสงสัยนางฟ้าผู้นี้คือใครกันหนอ?
“เฮ้ย!!! นั่นคนหรือนางฟ้ากันแน่วะ...สวยฉิบหายเลยว่ะ” หนึ่งในคนงานชายพูดขึ้นเสียงดัง
“ไอ้หมิ่ง ถ้ามึงยังไม่อยากตกงานตอนนี้ ข้าแนะนำให้เอ็งหุบปากไปเลยจะดีกว่า...นั่นน่ะคุณนิดา ว่าที่เมียของนายพยัคฆ์เขานู่นโว้ย...ไอ้โง่”
“ห๊า!!!ตายห่า เกือบซวยแล้วไหมล่ะกู ถึงว่า สวยยังกับนางฟ้านางสวรรค์ สวยกว่าคุณพยาบาลโฉมฉายตั้งเยอะแน่ะ...พวกมึงว่าจริงปะ” หมิ่งหันไปขอเสียงร่วมกับเพื่อนพ้อง
“เออๆกูเห็นด้วยกับมึงเหมือนกันว่ะไอ้หมิ่ง สวยกว่าจนมองแทบไม่เห็นฝุ่นเลยก็ว่าได้นะพวกเรา...ฮ่า...ฮ่า...” คนงานบางคนก็หัวเราะชอบใจ ไม่มีใครในไร่แห่งนี้ไม่รู้สึกหมั่นไส้คุณพยาบาลประจำตัวของนายใหญ่เลยสักคนเดียว ซึ่งเห็นวันๆนึงก็เอาเวลางานของตัวเอง มาคอยวิ่งตามตื้อตามตอแยแต่กับนายพยัคฆ์ ไม่เห็นจะทำหน้าที่ของตัวเองสักเท่าไหร่...
เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นทั่วทุกทิศทุกทาง จนคนที่กำลังจะสาวเท้าเข้ามาในโรงอาหารถึงกับหยุดชะงักฝีเท้าลงตรงปากทางเข้าพอดี ชายหนุ่มเอี้ยวหน้ามองไปยังจุดตัวต้นเรื่องของชนวนหัวข้อวงนินทาในห้องนี้ และไม่เพียงแต่ฝีเท้าที่หยุดชะงักลง แม้แต่ร่างใหญ่ของเขาก็ต้องมีอันหยุดชะงักตามไปเช่นกัน
“นิดา...”
เมื่อเขาเห็นหญิงสาวในหัวข้อสนทนาอย่างออกรสออกชาติของเหล่าบรรดาคนงาน กำลังหยิบจับอาหาร จาน ชามด้วยความขยันขันแข็งให้กับพวกคนงานอย่างไม่ถือเนื้อถือตัว ใบหน้าหวานสวยนั้นก็ระบายยิ้มให้กับคนงานเกลื่่อนกลาดไปหมด จนต่อมหึงหวงของเขาเริ่มทำงานหนักขึ้นมาทันที...
ไอ้บ้าพวกนี้...เดี๋ยวพ่อจะหักเงินเดือนเสียให้หมดทุกตัวเลยคอยดู มาทำเป็นส่งยิ้มเล็กยิ้มน้อยให้เมียของเขาอยู่ได้ น่านพยัคฆ์ได้แต่ฮึมฮัมอยู่คนเดียวในใจ แต่ก็ไม่อยากเข้าไปด้านในสักเท่าไหร่ ชายหนุ่มจึงเลือกนั่งอยู่ทางด้านนอกห้องแทน ก่อนจะใช้ให้คนงานหนุ่มคนหนึ่ง เดินเข้าไปเอาข้าวราดแกงมาให้เขากิน...
เมื่อนิดาเงยหน้าขึ้นมาจากหม้อแกงด้านหน้า หลังจากที่คนงานเริ่มบางตาลงบ้างแล้ว พลันสายตาหวานก็ปะทะเข้ากับร่างใหญ่แสนคุ้นตาเข้าพอดี เธอเห็นเขานั่งก้มหน้าก้มตาทานอาหารอยู่รวมกับคนงานคนอื่นๆทางด้านนอกห้อง นิดาจึงหันไปหยิบชามแกงใบใหญ่มาไว้ในมือ ก่อนจะตักแกงจืดหมูสับลงไป แล้วไหว้วานสายบัวให้นำไปให้กับชายหนุ่มที
“นายพยัคฆ์คะ แกงจืดค่ะ...คุณนิเธอให้เอามาให้นายพยัคฆ์กับพวกพี่ๆทานกัน...” สายบัวรายงานตามคำบอกกล่าวจากนายสาว แล้วรีบเดินกลับเข้าไปยังโรงอาหารด้านในอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอดันเหลือบไปเห็นสายตาดุของนายพยัคฆ์เข้า จนร่างเล็กเกือบจะเดินขาขวิดกัน...
ส่วนน่านพยัคฆ์ตอนแรกก็ทำทีเป็นไม่สนใจชามแกงจืดสักเท่าไหร่ ตอนสายบัวเอาชามแกงจืดมาวางไว้ตรงหน้าเขา แต่พอสายบัวหันหลังเดินเข้าไปยังโรงอาหารเท่านั้นแหละ ชายหนุ่มก็จ้วงกินจนแกงจืดหมดชามภายในพริบตาเดียว สายตาแข็งกร้าวก็คอยแต่จะส่งเพื่อห้ามปราม คอยกันท่าไม่ให้ไอ้ใครหน้าไหนมันมาแย้งตักแกงจืดในชามนี้ได้ คนงานหลายคนถึงกับทำช้อนตกลงพื้น เมื่อกำลังจะเอื้อมตักแกงจืด ก็เจอเข้ากับสายตาพิฆาตของนายพยัคฆ์เข้าเสียก่อนพอดี...
“เกร็ก!”
******************************
หมายเหตุ...สามารถเข้าอ่านนิยายฉบับเต็มได้ตรงลิงค์ด้านล่าง
ลิงค์เข้าอ่านเนื้อหานิยาย(สะใภ้ขัดดอก) ต่อ (dek-d) - https://dekd.co/w/n/1439520