ทำไมความเร็วของเรือบรรทุกเครื่องบินจึงอยู่ที่30นอต.
เหตุใดความเร็วของเรือบรรทุกเครื่องบินโดยทั่วไปจึงอยู่ที่ประมาณ 30 นอต
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือบรรทุกเครื่องบินถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในสนามรบ แม้ว่าจำนวนเรือบรรทุกเครื่องบินของในสหรัฐอเมริกาจะมีจำนวนมากที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นประเทศที่มั่งคั่งเท่านั้นที่มีเรือบรรทุกเครื่องบิน
แต่จำนวนเรือบรรทุกเครื่องบินในประเทศต่างๆนั้นก็ค่อนข้างจะเริ่มแข็งขันกันในโลกมหาอำนาจ
โดยทั่วไปแล้ว มหาอำนาจอย่างกองทัพเรือสหรัฐฯ นั้นมีจำนวนเรือรบที่ใช้งานได้ทั้งสิ้น 243 ลำ ประกอบด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน 11 ลำ เรือดำน้ำ 68 ลำ เรือลาดตระเวน 22 ลำ เรือพิฆาต 70 ลำ เรือคอร์เวต 21 ลำ เรือทุ่นระเบิด/ต่อต้านทุ่นระเบิด 8 ลำ เรือตรวจตรานอกชายฝั่ง 10 ลำ และเรือยกพลขึ้นบกจู่โจม 33 ลำ มีอายุใช้งานเฉลี่ยที่ 23.3 ปี
แม้ว่าจำนวนเรือบรรทุกเครื่องบินของในสหรัฐอเมริกาจะมีจำนวนมากที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นประเทศที่มั่งคั่งเท่านั้นที่มีเรือบรรทุกเครื่องบิน แต่จำนวนเรือบรรทุกเครื่องบินในประเทศต่างๆนั้นก็ค่อนข้างจะเริ่มแข็งขันกันในโลกมหาอำนาจ
เป็นที่ทราบกันว่า เรือบรรทุกเครื่องบินมีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์สูง ในฐานะที่เป็นฐานทัพเรือสำหรับเครื่องบินที่ใช้เรือบรรทุกเครื่องบิน และเราทุกคนมักจะเรียกเรือบรรทุกเครื่องบินว่า "เจ้าแห่งท้องทะเล"
และเหตุผลที่เรือบรรทุกเครื่องบินน่ากลัวมากก็เนื่องมาจากประสิทธิภาพการรบที่เหนือกว่าในกลุ่มรบเรือบรรทุกเครื่องบิน ภายใต้การคุ้มครองของเรือลำอื่น จนอาจกล่าวได้ว่าเรือบรรทุกเครื่องบินมีศัตรูน้อย(มากๆ)ในทะเล
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีการพัฒนาเรือบรรทุกเครื่องบินในขณะนั้นยังค่อนข้างล้าหลัง เนื่องจากเรือบรรทุกเครื่องบินมีลักษณะเหมือนเรือขนาดใหญ่กว่า
หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ในขณะที่ระดับของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรือบรรทุกเครื่องบินก็มีความก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน การพัฒนาเรือบรรทุกเครื่องบินเป็นเรื่องยากและต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ทั้งกำลังคน วัสดุ และทรัพยากรทางการเงิน
ดังนั้นจึงมีเรือบรรทุกเครื่องบินไม่มากนักในโลก
นอกจากนี้ความเร็วของเรือบรรทุกเครื่องบินส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 30 นอต แล้วทำไมเรือบรรทุกเครื่องบินถึงมีความเร็วประมาณ 30 นอต
หากเปรียบเทียบการขนส่งทางบกความเร็วถึง 30 นอตจะได้เร็วแค่ไหนกันล่ะ?
สำหรับคำถามนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำตอบแล้ว 30 นอต นั่นจะอยู่ที่ประมาณ 55.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากแปลงเป็นการขนส่งทางบก
ความจริงแล้วความเร็วนี้ไม่ได้เร็วมากเมื่ออยู่บนพื้นดิน เมื่อถนนหนทางในเมืองค่อนข้างเรียบ โดยพื้นฐานแล้วรถยนต์ก็สามารถเข้าถึงความเร็วนี้ได้ ถ้าอยู่บนทางหลวงความเร็ว 55.5 กม./ชม. เรียกได้ว่าช้าาาาามาก
อย่างไรก็ตาม 30 นอตไม่ใช่ความเร็วสูงสุดของเรือบรรทุกเครื่องบิน อย่างเป็นที่เข้าใจกันว่าเรือบรรทุกเครื่องบินหลายลำเคยเพิ่มความเร็วสูงสุดของตนเป็น 40 นอตในระหว่างการพัฒนา ในการใช้งานจริงในเวลาต่อมาพบว่าความเร็ว 40 นอตไม่เอื้อต่อการทำงานที่ปลอดภัยของเรือบรรทุกเครื่องบิน
ดังนั้น เรือบรรทุกเครื่องบินทุกลำจึงลดระดับลง และความเร็วของเรือบรรทุกเครื่องบินจึงลดระดับลงอีกครั้ง เป็น 30 นอต เหมือนเดิมเป๊ะ.เนื่องจากเรือบรรทุกเครื่องบินมีขนาดใหญ่มาก ยิ่งแล่นได้เร็วเท่าไร ความเฉื่อยก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ทำให้ง่ายมากที่จะสร้างความเสียหายให้กับตัวเรือบรรทุกเครื่องบินได้
เพื่อให้มีความมั่นใจถึงอายุการใช้งานและความปลอดภัยของตัวเรือบรรทุกเครื่องบิน จึงควรควบคุมความเร็วภายในช่วงที่เหมาะสมนี้ และจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าความเร็ว 30 นอตนั้นเหมาะสมที่สุด
นอกจากนี้ ความเร็ว 30 นอตยังประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าความเร็ว 40 นอต เนื่องจากตัวเรือบรรทุกเครื่องบินเองใช้เชื้อเพลิงมาก จึงเป็นการดีกว่าที่จะเลือกความเร็ว 30 นอต
จากมุมมองของเศรษฐกิจ ในการเดินทางไปที่ๆเดียวกัน 40 นอตใช้เชื้อเพลิงมากกว่า 30 นอตประมาณ 70% ในระยะยาวถือเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาลเชียวนะครับ และมันรวมถึงอายุการใช้งานและความปลอดภัยของตัวเรือบรรทุกเครื่องบินอีกด้วย โดยทั่วไป เรือบรรทุกเครื่องบินจะควบคุมความเร็วที่ประมาณ 30 นอต ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาหลายประการ
เพราะเรือบรรทุกเครื่องบินถือเป็นอาวุธของประเทศมหาอำนาจ และเป็นอาวุธป้องกันประเทศที่สำคัญมาก ด้วยความเร็วประมาณนี้ ไม่เพียงแต่รับประกันการทำงานที่ปลอดภัยของเรือบรรทุกเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังรับประกันการประหยัดเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอีกด้วย