ตร.จับอีกแล้ว "ภักดี แซ่อั้ง" 18 มงกุฏในตำนาน
ไม่เข็ดยังทำซ้ำเดิม วันที่ 1 ธ.ค.66 จับกุม นายภักดี หรือไท แซ่อั้ง อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหา “วิ่งราวทรัพย์” พร้อมตรวจยึดสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นายสมศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) รวม 3 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายยุทธพิชัย (ขอสงวนนามสกุล) 1 เล่ม บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย 3 ใบ บัตรเครดิต ธนาคารไทยพาณิชย์ 1 ใบ
จับกุมได้บริเวณริมถนนปากซอยสรณคมน์ 2 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.
- สืบเนื่องจาก ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้รับข้อมูลจากสายลับว่าพบชายมีพฤติกรรมน่าสงสัยเข้ามาชักชวนขอหมายเลขบัญชี โดยอ้างว่าตนไม่มีบัญชีธนาคาร ต้องการรับเงินโอนที่ญาติจะโอนเข้ามาในบัญชี แล้วจะให้ค่าโอนผ่านบัญชี ซึ่งเกรงว่าจะเป็นการหลอกโอนเงิน หรือหลอกขายสินค้าทางออนไลน์
- จากการตรวจสอบประวัติ มีหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ และเคยถูกตำรวจไซเบอร์จับกุมเมื่อปี 64 ครั้งนั้นมีผู้เสียหายถูกหลอกขายของออนไลน์นับ 100 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 267,000 บาท และยังเคยถูกจับคดีแจ้งความเท็จ หลอกว่าตัวเองถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ ตำรวจที่รับแจ้งความเกิดความสงสาร ให้เงิน ครั้งละ 300-500 บาท สุดท้ายยอมรับว่าแต่งเรื่อง
- รับ ได้ออกตระเวนขอยืมบัญชีธนาคารเพื่อรับโอนเงินจริง และได้ไปขอยืมบัญชีจากวินจยย. โดยอ้างว่าจะมีเงินโอนมาจากญาติ แต่ตนเองไม่มีบัญชีธนาคาร เมื่อมีเงินเข้ามาก็จะจ้างให้ไปกดเงินออกมาครั้งละ 100-300 บาท และยอมรับว่าเงินที่โอนเข้ามาเป็นเงินที่ตนหลอกขายมือถือให้ผู้เสียหายทางออนไลน์
เจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้โอนเงิน รวมถึงคนที่ถูกหลอกขอยืมบัญชีเพื่อรับโอนอีกหลายราย จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี พร้อมตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ตรวจยึดได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้รับเงินที่หลอกมาจากผู้เสียหายรายใดหรือไม่
อย่าให้คนอื่นยืมบัญชีธนาคารเพื่อรับโอนเงิน จากบุคคลอื่น อาจจะตกเป็นเหยื่อในการนำบัญชีไปรับเงินที่หลอกมาจากผู้เสียหาย (บัญชีม้า) มีโทษตามพระราชกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ