ลดเหนียง
เหนียงเป็นไขมันที่สะสมอยู่ใต้คาง ทำให้เกิดเป็นชั้นไขมันซ้อนกัน ทำให้ใบหน้าดูไม่กระชับ มีหลายวิธีในการลดเหนียง ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดเหนียงและความรุนแรงของปัญหา
วิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติ
-
ลดน้ำหนัก น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ไขมันสะสมในร่างกายมากขึ้น ซึ่งรวมถึงไขมันใต้คางด้วย การลดน้ำหนักจะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินในร่างกาย รวมถึงไขมันใต้คางด้วย
-
ออกกำลังกาย การออกกำลังกายช่วยกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนัง ทำให้ใบหน้าดูกระชับขึ้น การออกกำลังกายที่ช่วยลดเหนียง ได้แก่ การยกคาง การก้มหน้ามองท้อง การเกร็งคอ การยืดคอ เป็นต้น
-
โยคะหน้า โยคะหน้าเป็นวิธีออกกำลังกายใบหน้าที่จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนัง ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น มีท่าโยคะหน้าที่ช่วย ลดเหนียง หลายท่า เช่น
- ท่าจูบเพดาน
จูบเพดาน: เงยหน้ามองเพดาน แล้วยื่นปากจู๋เหมือนจูบเพดาน จนรู้สึกเกร็งทั้งคอและกราม ค้างไว้ 10-15 วินาที ทำอย่างนี้วันละ 3 รอบ
- ท่ายื่นคาง
ตั้งศีรษะให้ตรง แล้วยื่นคางไปข้างหน้าให้ได้มากที่สุดจนรู้สึกตึง ค้างไว้ 5 วินาที ทำติดกันทั้งหมด 8 รอบ
- ท่าจูบเพดาน
วิธีลดเหนียงด้วยแพทย์
-
ฉีดเมโสแฟต เป็นวิธีฉีดสารสลายไขมันเข้าไปในชั้นไขมันใต้คาง สารสลายไขมันจะเข้าไปทำลายเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันตายและถูกดูดซึมไปโดยร่างกาย ผลลัพธ์ของการรักษาจะคงอยู่ประมาณ 1-2 ปี
-
HIFU เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเข้าไปทำลายเซลล์ไขมันใต้คาง คลื่นเสียงความถี่สูงจะเข้าไปทำลายเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันตายและถูกดูดซึมไปโดยร่างกาย ผลลัพธ์ของการรักษาจะคงอยู่ประมาณ 1-2 ปี
-
การผ่าตัดลดเหนียง เป็นการผ่าตัดเอาไขมันใต้คางออก การผ่าตัดเป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจนที่สุด แต่ก็มีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายสูง
-
เลเซอร์ เป็นการใช้เลเซอร์เข้าไปทำลายเซลล์ไขมันใต้คาง เลเซอร์จะเข้าไปทำลายเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันตายและถูกดูดซึมไปโดยร่างกาย ผลลัพธ์ของการรักษาจะคงอยู่ประมาณ 1-2 ปี
วิธีเลือกวิธีลดเหนียง
ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีลดเหนียงที่เหมาะสมกับสาเหตุของการเกิดเหนียงและความรุนแรงของปัญหา แพทย์จะประเมินปัจจัยต่าง ๆ เช่น น้ำหนัก สุขภาพ งบประมาณ เป็นต้น เพื่อเลือกวิธีรักษาที่ดีที่สุด
ข้อควรระวังในการลดเหนียง
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษาทุกวิธี
- หากมีอาการแพ้หรือระคายเคือง ควรหยุดการรักษาและปรึกษาแพทย์
- ควรดูแลตัวเองหลังการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์