เด็กโรงเรียนนานาชาติ เค้าเรียนอะไรกัน

ปัจจุบันผู้ปกครองนิยมส่งบุตรหลานเข้าศึกษาในรร.นานาชาติที่อยู่ในประเทศมากขึ้น เนื่องจากได้ทั้งภาษาและยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมในระดับสากลไปพร้อมๆกัน โรงเรียนนานาชาติเป็นโรงเรียนที่อ้างอิงหลักสูตรการเรียนการสอนจากต่างประเทศ ในบทความนี้ จะเขียนถึงหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติหลัก ๆในประเทศไทย เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกหลักสูตรให้เหมาะสมกับความต้องการและแผนการศึกษาต่อในอนาคต

หลักสูตรโรงเรียนนานาชาติที่นิยมในประเทศไทย

1. หลักสูตรการศึกษาของอเมริกา (US)

เป็นหลักสูตรที่ค่อนข้างมีความหลากหลาย ในแต่ละโรงเรียนจะมีการวัดผลการเรียนด้วยแบบทดสอบของตนเอง ตามมาตรฐานที่ตั้งไว้เนื่องจากสหรัฐอเมริกาในแต่ละรัฐจะมีหลักสูตรแตกต่างกัน จึงมีรูปแบบหลักสูตรหลายแบบ เช่น California Department of Education Curriculum, American Education Reaches Out (AERO) Standards, Common Core State Standards (CCSS) ดังนั้นนักเรียนชั้นเดียวกันที่เรียนวิชาเดียวกันแต่อยู่คนละโรงเรียน จะใช้ข้อสอบคนละชุดกัน (ซึ่งต่างจากระบบอังกฤษที่ทุกโรงเรียนจะใช้แบบทดสอบเดียวกันทั้งหมด) แต่ทุกโรงเรียนจะต้องได้รับการประเมินและรับรองจากองค์กรจากสหรัฐอเมริกาที่เป็นที่รู้จักระดับสากล ได้แก่ Western Association of Schools and Colleges (WASC), New England Association of Schools and Colleges (NEASC) หรือ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (ONESQA) ) หลักสูตรอเมริกา มีการเรียนวิชาหลักและวิชาเลือก ส่งเสริมการคิดแบบมีเหตุผล ความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่จะมีแนวทางการเรียนการสอนที่หลากหลาย สนับสนุนให้นักเรียนมีส่วนร่วม และเน้นกิจกรรมนอกหลักสูตร เพื่อให้นักเรียนได้ค้นพบวิชาหรือสิ่งที่ถนัดและได้ใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ ในประเทศไทย มีโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรอเมริกาประมาณ 40% ของโรงเรียนนานาชาติทั้งหมด รองจากโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษ

การเรียนการสอนตามหลักสูตรนี้ เริ่มที่อายุ 5 ปี หรือในบางโรงเรียนก็เปิดรับนักเรียนในระดับเตรียมอนุบาล (Pre-school อายุ 3-5 ปี ซึ่งไม่ได้เป็นการศึกษาภาคบังคับ) โดยเรียกระดับชั้นเป็น Grade ซึ่งจะแบ่งดังนี้

• ระดับอนุบาล kindergarten (KG)
• ระดับประถมศึกษา Elementary School (Grades 1-5)
• มัธยมศึกษาตอนต้น Middle School (Grades 6-8)
• มัธยมศึกษาตอนปลาย High School (Grades 9-12)

หลักสูตรอเมริกานั้น ในชั้นเรียนปกติ ถ้าจะเรียนต่อในมหาวิทยาลัย นักเรียนจะต้องสอบ ACT หรือ SAT เพื่อนำคะแนนไปยื่นให้มหาวิทยาลัยด้วย แต่ในบางโรงเรียนจะมีการสอนหลักสูตร AP หรือ Advanced Placement เพิ่มขึ้นมา ซึ่งเป็นการสอนรายวิชาที่เป็นระดับสูง เป็นหลักสูตรเตรียมความพร้อมเพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย และจะมีการจัดสอบวัดระดับ AP ด้วย ข้อดีคือ ผลคะแนนของ AP จะช่วยในการคัดเลือกนักเรียนในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในอเมริกา และในบางรายวิชาที่คะแนน AP ผ่าน อาจได้รับการยกเว้นไม่ต้องเรียนวิชานั้นได้ และบางโรงเรียนยังเพิ่มทางเลือกให้นักเรียนเลือกเรียนในหลักสูตร IB Diploma ได้อีกด้วย ซึ่งจะมีประโยชน์ในกรณีที่ผู้ปกครองและตัวนักเรียนวางแผนที่จะศึกษาต่อมหาวิทยาลัยในประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากประเทศสหรัฐอเมริกา

ตัวอย่างโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอเมริกาในประเทศไทย

International School of Bangkok

Ruamrudee International School

BASIS International School Bangkok

American School of Bangkok

Berkeley International School

Bangkok Adventist International School

Ekamai International School

 

2. หลักสูตรแห่งสหราชอาณาจักรอังกฤษและเวลส์ หรือ ระบบอังกฤษ (UK)

เป็นระบบการศึกษาที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานที่สุด โดยการสอนจะอิงตามกระทรวงศึกษาธิการของอังกฤษ มีรูปแบบการสอนและแบบเรียนตามกฏตามกระทรวงศึกษาธิการของประเทศอังกฤษ โดยหลักสูตรจะเน้นการใช้ภาษาที่ถูกต้อง และเน้นการเรียนมากกว่ากิจกรรม เมื่อเรียนถึงชั้นมัธยมตอนต้นก็จะใช้หลักสูตรที่เรียกว่า International General Certificate of Secondary Education (IGCSE) ซึ่งจะเรียนราว 8-9 วิชา เป็นวิชาบังคับอย่างน้อย 3 วิชา ได้แก่ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ โดยข้อสอบ IGCSE จะเป็นข้อสอบสากลที่ใช้สอบร่วมกันทั่วโลก

โดยปกติแล้วโรงเรียนนานาชาติในระบบอังกฤษจะเริ่มเรียนในช่วงอายุ 5 ปีขึ้น ไป แต่บางแห่ง อาจรับนักเรียนอายุ 3-4 ปี โดยใช้ชื่อว่า Early Years Foundation Stage โดยแบ่งการเรียนรู้(Key Stage) ออกเป็น 6 ช่วง สำหรับการแบ่งช่วงชั้นเรียนของหลักสูตรแบบอังกฤษจะเรียกระดับชั้นเป็น Year ดังนี้

•  Early Years Foundation Stage (3-4 ปี )
•  Key Stage 1 :Year 1-2 (อายุ 5-6 ปี )
•  Key Stage 2 :Year 3-6 (อายุ 7-10 ปี )
•  Key Stage 3 :Year 7-9 (อายุ 11-13 ปี )
•  Key Stage 4 (นิยมเรียกว่า IGCSE) :Year 10-11 (อายุ 14-15 ปี )
•  Key Stage 5 (นิยมเรียกว่า A-Level หรือ Sixth Form) : Year 12-13 (อายุ 16-17 ปี )

นักเรียนที่ต้องการจะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ต้องเรียนต่อใน Key Stage 5 โดยเลือกเรียนเฉพาะวิชาที่จะใช้ในการสมัครเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยหลังจบหลักสูตร 2 ปีสุดท้าย

โรงเรียนนานาชาติในไทยที่ใช้หลักสูตรอังกฤษ เมื่อถึงระดับ Key Stage 5 จะมีทางเลือกให้เด็กเลือกว่าจะเลือกเรียน A-Level หรือ IB Diploma เพื่อให้ตรงกับมหาวิทยาลัยที่ต้องการจะไปเรียนต่อ ถ้าอยากเรียนต่อที่อังกฤษ ก็เลือกไปทางหลักสูตร A-Level แต่ถ้ายังไม่แน่ใจ IB Diploma จะเปิดกว้างกว่าในการเลือกมหาวิทยาลัย

ตัวอย่างโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษในประเทศไทย 

Bangkok Patana School

Bangkok Prep International School

Brighton College Bangkok

Denla British School

Harrow International School Bangkok

King’s College International School Bangkok

Regent’s International School Bangkok

Shrewsbury International School

St. Andrews International School Bangkok

Wellington College International School Bangkok

 

3. หลักสูตรนานาชาติ International Baccalaureate (IB)

เป็นการศึกษาที่ถูกใช้ในประเทศเยอรมนีมากว่า 50 ปี หลักสูตร IB เป็นหลักสูตรที่จัดตั้งโดย International Baccalaureate Organization (IBO) ปัจจุบันมีโรงเรียนนานาชาติมากกว่า 156 ประเทศที่ใช้หลักสูตรนี้ ซึ่งจะแบ่งหลักสูตรออกเป็น 3 ระดับ คือ

• หลักสูตรประถมศึกษา (IB Primary Years Programme, PYP) สำหรับเด็กนักเรียนอายุ 3-11 ปี
• หลักสูตรมัธยมต้น  (IB Middle Years Programme, MYP) สำหรับเด็กนักเรียนอายุ 11-16 ปี
• หลักสูตรอนุปริญญา  (IB Diploma Programme, IBDP) สำหรับเด็กนักเรียนอายุ 16-19 ปี

หลักสูตร IB เป็นหลักสูตรระดับสากลที่มีเนื้อหาวิชาหลากหลายมากกว่าโรงเรียนทั่วไป วิชาเหล่านั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาความรู้ บุคลิกภาพ อารมณ์ และทักษะการเข้าสังคมของนักเรียน เน้นการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรม  และการศึกษาแบบองค์รวม นักเรียนต้องลงมือเรียนรู้เองเพื่อจะได้เติบโตทางด้านอารมณ์และสังคม พร้อมจะเข้าไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นไม่ว่าจะในประเทศใดก็ตาม เป็นหลักสูตรที่ได้ประยุกต์มาจากระบบการศึกษาต่าง ๆ จึงทำให้เป็นที่ยอมรับจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก

ตัวอย่างโรงเรียนนานาชาติหลักสูตร IB ในประเทศไทย

KIS International School

NIST International School

Prem Tinsulanonda International School

Concordian International School

Ruamrudee International School  

Regent’s International School

St.Andrews International School Bangkok

Wells International School

สำหรับผู้ปกครองที่สนใจจะส่งบุตรหลานเข้าเรียนในรร.นานาชาติ ลองพิจารณาดูว่า หลักสูตรไหนที่เหมาะสมกับความต้องการ ถ้าอยากได้วิชาการอาจจะลองหาข้อมูลของรร.ที่ใช้หลักสูตรUKเพิ่มเติม แต่ถ้าอยากให้เด็กทำกิจกรรมควบคู่ไปกับวิชาการก็ลองดูข้อมูลของรร.ที่ใช้หลักสูตรของUS หรือถ้าต้องการให้เด็กมีโอกาสเรียนรู้หลักสูตรสากลที่ประยุกต์จากหลักสูตรทั่วโลกก็ต้องดูข้อมูลของรร.ที่ใช้หลักสูตรIB นอกจากนี้ควรมองถึงแผนการศึกษาต่อในอนาคตด้วย โดยหาข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอนที่มหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้าศึกษาต่อให้การยอมรับและพิจารณาเพื่อรับสมัครเข้าเรียนต่อ เพื่อจะได้เลือกหลักสูตรที่ตรงตามความต้องการทั้งปัจจุบันและในอนาคต