เรื่องย่อ พรหมลิขิต ตอนที่ 3
เรื่องย่อ พรพรมลิขิต ตอนที่ 3
พุดตานพร้อมกับคนงานขุดเจอหีบโบราณภายในหีบบรรจุคัมภีร์กฤษณะกาลี เธอจึงใช้มือแตะไปที่คัมภีร์นั้นเพียงปลายนิ้วสัมผัสพุดตานได้ยินคล้ายกับเสียงบทสวดเธอจึงวางมือลง คนงานคะยั้นคะยอให้เธอเปิดห่อผ้านั้นออกมาดูว่าภายในคืออะไร พุตตานรวบรวมวามกล้าอีกครั้งหนึ่งเปิดห่อผ้านั้น เมื่อห่อผ้าถูกเปิดออกได้เกิดสุริยุปราคาขึ้นมากะทันหัน เมื่อแสงของดวงอาทิตย์ดับลงร่างของพุดตานพร้อมกับคัมภีร์ได้หายไปทันที คนงานตกใจและเรียกหาพุดตาน
กรุงศรีอยุธยาสมัยพระเจ้าท้ายสระ หมื่นมหาฤทธิ์ลูกชายของออกญาวิสูตรสาครกับคุณหญิงการะเกดได้เห็นแสงประหลาดที่ท้ายสวนของยายกุยจึงรีบมาดู พุดตานโผล่ขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดหมื่นมหาฤทธิ์ เขาตกใจมากจึงถีบพุดตานออกจากตัวทันที พุดตานปรากฏตัวต่อหน้าหมื่นมหาฤทธิ์พยายามแย่งคัมภีร์กฤษณะกาลีเพราะเธอคิดว่าคัมภีร์นั้นจะทำให้เธอกลับบ้านได้แต่หมื่นมหาฤทธิ์ไม่ยอมให้ทำให้ทั้งสองคนมีปากเสียงกันเล็กน้อย ยายกุยและแม่กลิ่นรีบตามมาดูแสงประหลาดที่ปรากฏขึ้นทำให้ได้พบกับพุดตานและหมื่นมหาฤทธิ์กำลังทะเลาะกันจึงเข้ามาห้าม
ก่อนหน้านี้ยายกุยเคยฝันเห็นชีปะขาวและท่านฝากให้ดูแลผู้หญิงคนหนึ่ง ยายกุยนึกขึ้นได้พุดตานคือผู้หญิงคนนั้น เธอจึงพาพุดตานไปอยู่ด้วยสร้างความไม่พอใจให้กับแม่กลิ่นเป็นอย่างมากแวบแรกที่แม่กลิ่นเห็นพุดตานเธอรู้สึกไม่ถูกชะตากับพุดตานอย่างแรกด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อชาติที่แล้วนางกลิ่นคือนางแดงบ่าวรับใช้ของแม่หญิงจันทร์วาดที่ถูกแม่หญิงการะเกดล่มเรือจนจมน้ำตายเมื่อชาติที่แล้วเพราะเหตุนี้ทำให้เธอเกลียดพุดตาน
พุดตานตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงงตกใจมากที่ทุกอย่างดูเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไม่เหมือนกับสิ่งที่ตัวเองเคยเห็นมาก่อน ยายกุยนั่งอยู่ในห้องของพุดตาน เธอถามยายกุบว่าที่นี้คือที่ใดและใครเป็นเป็นพระมหากษัติริย์ ยายกุยบอกว่าที่นี้เป็นสมัยอยุธยา พระเจ้าท้ายสระเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
ยายกุ้ยจึงเล่าความฝันให้พุดตานฟัง เธอได้แต่สงสัยว่าเทวดาตนนั้นเป็นใครและมีความเกี่ยวข้องกับตนอย่างไรแล้วทำไมต้องเจอกับยายกุย แล้วทำไมต้องโผล่มาที่นี้ด้วย พุดตานยิ่งคิดยิ่งสับสน ยายกุยเชื่อว่าพุดดานเป็นนางฟ้าจึงทำการต้อนรับเป็นอย่างดีและทำการสร้างเรือนหลังเล็กให้ใหม่พร้อมให้ข้ารับใช้อีกสองคนให้อยู่รับใช้ดูแลพุดตาน
พุดดานนึกถึงคำของพระเรืองฤทธิ์ก็พอจะเดาได้ว่าพระเรืองฤทธิ์รู้เรื่องเหตุการณ์ล่วงหน้าจึงได้เตือนสติให้ตนพอคิดดังนั้นจิตใจก็เริ่มสงบลงและเริ่มออกไปดูโลกภายนอกเพื่อหาทางหนีที่ไล่และต้องตามหาคัมภีร์กฤษณะกาลีที่หมื่นมหาฤทธิ์เอาไปด้วย
ทางด้านหมื่นมหาฤทธิ์หลังจากได้คัมภีร์กฤษณะกาลีมาก็ดีใจมากเพราะคิดว่าเป็นสมบัติของตระกูลแต่บ่าวคนสนิทได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งหมื่นมหาฤทธิ์ยังไม่เกิด คุณหญิงการะเกดเคยสัมผัสคัมภีร์กฤษณะกาลีก็มีอาการเหมือนวิญญาณออกจากร่าง ออกญาโหรราธิบดีปู่พ่อของหมื่นมหาฤทธิ์ต้องทำการสวมมนต์ทั้งวันทั้งคืนจึงจะกลับมาได้
หมื่นมหาฤทธิ์ได้ฟังดังนั้นจึงเก็บคัมภีร์กฤษณะกาลีไว้กับตนเองและไม่บอกเล่าให้พระยาวิสูตรสาครกับคุณหญิงการะเกดฟัง ค่ำวันนั้นที่บ้านของพระญาวิสูตรสาครลูก ๆทุกคนกลับมาเยี่ยมบ้านของตนอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน เมนูปลาสามรสฝีมือของคุณหญิงการะเกดเป็นเมนูที่ลูก ๆ ทุกคนเอ่ยชมว่าอร่อยที่สุดไม่มีใครเทียบได้ทั้งพระนคร
คุณหญิงจำปาผู้เป็นย่าจึงเปิดประเด็นเรื่องการออกเรือนของหลาน ๆ หมื่นเรืองและหมื่นฤทธิ์พูดตรงกันว่าอยากได้เมียที่มีนิสัยเหมือนกับคุณหญิงการะเกดถ้าไม่เช่นนั้นก็จะไม่ยอมออกเรือน
คุณหญิงจำปาก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะถ้ามีหลานสะใภ้แบบคุณหญิงการะเกดเรือนวิสูตรสาครคงวุ่นวายและคงมีเรื่องอะไรแปลก ๆ มากกว่านี้ยิ่งคิดยิ่งกลุ้มทำได้แต่ถอนหายใจยาว ๆ
หมื่นฤทธิ์จึงได้ปรึกษากับหมื่นเรืองผู้เป็นพี่ชายเรื่องคัมภีร์กฤษณะกาลีพร้อมทั้งเล่าว่าตนเองไปเจอผู้หญิงที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับคุณหญิงการะเกดพร้อมทั้งขอให้หมื่นเรืองเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและให้นำคัมภีร์กฤษณะกาลีกลับไปไว้ยังเมืองพิษณุโลกด้วย