คุณยายวัย 92ปี กินแต่นม ไม่เคยกินข้าวมานานร่วม 25 ปี ร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณสดใส เต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน
ย้อนดูข่าวเมื่อ 2 ปีที่แล้วนะครับไม่รู้ว่าป่านนี้คุณยายยังจะเป็นอย่างไรบ้าง
แต่ก็เอามาเล่าสู่กันฟังนะครับเป็นความรู้ว่าคนเรานะครับจะกินอะไรอย่างเดียวก็สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ได้โดยเฉพาะตัวอย่างคุณยายท่านนี้นะครับ
แปลก..แต่จริง คุณยายวัย 92ปี กินแต่นม ไม่เคยกินข้าวมานานร่วม 25 ปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณสดใส เต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน ผิดธรรมชาติคนวัยเดียวกัน หู และความจำดีเยี่ยม
ย้อนดูข่าวเมื่อ(19 ก.พ.2564) ที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 13 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง คุณยายชม รอดคืน อายุ 92 ปี หลังทราบว่าคุณยายกินแต่นมที่ทำจากพืชเป็นอาหารหลัก โดยไม่กินข้าวมายาวนานประมาณ 25 ปี โดยที่บ้านหลังดังกล่าวพบว่า คุณยายพักอาศัยอยู่ภายในบ้านอีกหลังหนึ่งที่ปลูกอยู่ใกล้กับบ้านลูกๆ
โดยคุณยายชมมีลูกทั้งหมด 9 คน เสียชีวิตไปแล้ว 3 คน เหลือ 6 คน ทั้งนี้ พบว่าคุณยายชมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดขาว ซึ่งเป็นชุดปกติที่ชอบแต่งขาวทุกวัน สุขภาพยังแข็งแรง อารมณ์แจ่มใส แม้จะปวดแข้งปวดขาตามประสาผู้สูงอายุ ดวงตาเริ่มฝ้าฟางจนมองไม่เห็นมาได้ประมาณ 4-5 ปี
โดยขณะนี้มองเห็นเป็นเงาๆ แต่ยังสามารถเดินเข้าห้องน้ำเองได้ แต่หูยังได้ยินชัดเจน เป็นคนธรรมะธรรมโม เดิมชอบไปปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่าง ๆ แต่หลังจากดวงตาเริ่มฟ้าฟางก็ต้องหยุดเดินทาง
โดยสุขภาพคุณยายแข็งแรง แต่ที่เห็นชัดเจน และไม่น่าเชื่อคือ ผิวพรรณคุณยาย ทั้งใบหน้า และแขนขา ที่สดใส ผิวตึงเรียบเนียน อมชมพู แก้มป่อง ผิดธรรมชาติของคนชราในวัยเดียวกัน ที่เรามักจะพบคือ ผิวหนังเหี่ยวย่นไปตามวัย ทั้งใบหน้าและแขนขา
นอกจากนั้น คุณยายจบแค่ ป.4 แต่สามารถแต่งนิยายธรรมะที่เกี่ยวกับเรื่องบาปบุญคุณโทษไว้นับร้อยเรื่อง เพื่อเอาไว้แจกจ่ายให้ลูกหลาน รวมทั้งเพื่อนฝูงที่เดินทางไปปฏิบัติธรรมด้วยกันอ่าน เพื่อเป็นคติสอนใจ
โดยพบว่าลายมือของคุณยายซึ่งจบแค่ป.4 สวยมาก เขียนตัวอักษรมีหัวทุกตัว และยังมีฝีมือในการวาดรูปประกอบเรื่องได้อย่างสวยงามด้วย ซึ่งสมุดเขียนหนังสือของคุณยายเป็นสมุดเขียนหนังสือของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาสมัยก่อน ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี โดยคุณยายเขียนที่หน้าปกสมุดเขียนที่ให้กรอกชั้นประถมปีที่..ว่า “ไม่สิ้นสุด” แสดงให้เห็นว่าคุณยายชอบเรียน เขียนหนังสือมาตั้งแต่เด็ก
คุณยายชม กล่าวว่า ตนเองชอบปฏิบัติธรรม เคยพบกับอาจารย์คนหนึ่งที่เดินทางมาจากเมืองจีนที่มาสอนเรื่องการปฏิบัติธรรม หลังจากได้ปฏิบัติธรรมก็พยายามเลิกกินเนื้อสัตว์
กินแต่อาหารที่ทำจากโปรตีน พืช และผัก อยู่ต่อมาตนเองก็เลิกกินข้าวเด็ดขาดมาได้มากกว่า 20 ปีแล้ว กินแต่ผัก กินผักได้ทุกชนิด กินเป็นมัดๆเช่น ผักบุ้ง ต้มเผือก มัน และต้มผักทุกชนิดกินมาตลอด และกินนมที่ทำจากพืชเท่านั้น ไม่กินนมที่มาจากสัตว์ เช่น นมถั่วเหลือง นมถั่วเหลืองผสมงาดำ และกินน้ำผลไม้สกัดผสมสมุนไพร โดยตนเองกินข้าวไม่ได้ กลืนไม่ลง
แต่ในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา หลังจากดวงตาเริ่มมองไม่เห็นก็ไม่ได้ออกไปหาผัก จึงเลิกกินผัก หันมากินแต่นมจากพืชเป็นอาหารหลักเท่านั้น วันละ 3 มื้อ โดยกินร่วมกับขนมคุกกี้มื้อละ 1-2 ชิ้น โดยแต่ละวันจะกินแค่ 4 กล่อง คือ กินมื้อเช้า 2 กล่อง มื้อเที่ยง 1 กล่อง และมื้อเย็น 1 กล่อง โดยเกิดความเคยชิน ไม่รู้สึกหิวแต่อย่างใด และมักถูกลูกๆดุ และขอร้องให้กินข้าวและกินอาหารอย่างอื่นบ้าง แต่ตนเองไม่กิน ไม่ขอบกินเพราะระคายคอ และหากใครทำกับข้าวหรือเดินผ่านบ้านใครที่ทำกับข้าวเป็นอาหารคาว ตนเองจะรู้สึกคลื่นไส้ ไม่ชอบกลิ่น ทั้งนี้ สุขภาพตนเองก็ดี ไม่เคยเจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล มีโรคประจำตัวบ้างคือ ปวดเมื่อย แขนขา และเป็นความดันสูงในบางครั้ง แต่ไม่ต้องกินยา และขี้ตกใจ
ทางด้านนางพรทรัพย์ ทรัพย์ส่ง อายุ 55 ปี ลูกสาว (เสื้อสีเทา) กล่าวว่า เดิมก็กินข้าวเป็นปกติ ลูกก็ทำกับข้าวปกติให้กิน แต่มาวันหนี่งแม่รู้สึกไม่ชอบหมู จึงเลิกกินของคาว และเลิกกินข้าวมาตั้งแต่นั้นรวมแล้วประมาณ 25 ปีแล้ว จากนั้นมากินแต่อาหารเจ กินผัก แต่ระยะหลังประมาณ 4-5 ปี ก็เลิกกินผักด้วย กินแต่นมแทนเป็นอาหารหลัก และต้องเป็นนมที่ทำจากพืชเท่านั้นไม่กินนมที่มาจากสัตว์ และระยะหลังชอบกินน้ำผลไม้ผสมสมุนไพรร่วมด้วย
แต่ละเดือนจะต้องกินนมประมาณ 4 ลัง โดยทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล และ อสม.ต.อ่าวตง มาเยี่ยมแม่เป็นประจำ ก็จะตรวจร่างกายพบว่า ร่างกายแม่ปกติทุกอย่าง แข็งแรงดี แค่ปวดเมื่อยเข็ดตามเนื้อตัวบ้าง ไม่มีโรคประจำตัว
ไม่เคยเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมาก่อน แต่พบมีความดันบ้างในบางครั้ง แต่ไม่ได้เป็นโรคความดัน เพียงแต่เป็นในบางครั้ง โดยหมอบอกว่าไม่ต้องกินยา หูได้ยินเสียงดีเยี่ยม ยกเว้นตาที่เริ่มมองไม่เห็น แต่สามารถเดิน ช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งนี้ พวกตนพยายามให้แม่กินข้าว แต่แม่ไม่กิน และสุขภาพก็ดีกว่าคนชราวัยเดียวกัน และรักสนุก ชอบเสียงเพลง
ทางด้านนางลัดดาวัลย์ อินทร์พรม อายุ 53 ปี ลูกสะไภ้ (เสื้อสีแดง) กล่าวว่า เวลามีงานเทศกาลต่างๆ ถ้าลูกหลานพาไปร่วมงานแม่จะชอบเต้นรำ สนุกสนาน สุขภาพแข็งแรง
โดยเฉพาะผิวพรรณและผิวหนังของแม่ จะไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน เหมือนคนชราวัยเดียวกัน โดยคนส่วนใหญหากอายุ 80 -90 ปี ก็จะเหี่ยวย่น แต่ผิวของแม่จะตึงเรียบเนียน ผิวเกลี้ยงใส แก้มป่อง เดิมลูกๆทุกคนพยายามให้แม่กินข้าว แต่แม่ไม่กิน โดยแม่บอกว่ากลืนไม่ลง ระคายคอ ก็จะคายทิ้ง แต่ตนเองเคยได้ข้าวสารใหม่มา นำมาต้มใส่เกลือเอาไปให้ แม่ก็เคยกิน หรือหากเป็นมาม่าเจ ก็จะกิน
แต่ให้กินข้าวสวยปกติจะไม่กิน แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่กิน จะกินนมเป็นอาหารหลัก และขนมมื้อละชิ้นสองชิ้น เคยถามแม่ก็บอกว่าไม่หิว มันเคยชิน ทุกคนเป็นห่วง แต่แม่บอกไม่ต้องเป็นห่วง โดยกินนมอาทิตย์ละ 1 ลัง หรือเดือนละ 4 ลัง
อย่างว่านะครับก็แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคนบางคนก็กินอย่างเดียวได้โดยมีชีวิตอยู่ได้บางคนก็กินไม่ได้..
แม้แต่แป๊ะเจ้าสัวร่ำรวยเงินทองก็ยังกินหลากหลาย เหมือนกันคนจน อดอยาก ปากแห้งไม่มีจะกิน ก็ยังอยากจะกินหลากหลายเหมือนกัน ..
😂ถ้าใครกินอะไรแล้วกินไม่ได้ กินได้อย่างเดียวมันก็ดีไปอย่างไม่เปลือง
อ้างอิงจาก: YouTube,nbtworld.prd.go.th/th/news/