ความหมายของตัวเลขบนตั๋วรถเมล์..มีอะไรมากกว่าที่เราคิด!?
การเดินทางที่ถือว่าเป็นที่นิยมมากที่สุด ทั้งราคาและความสะดวก เป็นปัจจัยที่ทำให้คนไทยใช้บริการรถเมล์นั่นเอง ยิ่งเดี๋ยวนี้ ตั๋วรถเมล์เป็นมากกว่ากระดาษธรรมดาๆ ซะแล้ว โดยเฉพาะใครที่มักจะลืมของบนรถเมล์เป็นประจำ แล้วไม่รู้ว่าจะไปตามของที่หายได้จากที่ไหน ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เอาเป็นว่า เพียงแค่คุณเก็บตั๋วรถเมล์ไว้ คุณก็ได้ของคืนแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นเลขรหัสม้วนตั๋ว, เลขหมวดตั๋ว, โลโก้ ที่ปรากฏอยู่บนตั๋วใบเล็กนี่แหละ สามารถสืบทราบถึงสายรถเมล์ กระเป๋ารถเมล์ที่เบิกม้วนตั๋วม้วนนั้น ช่วงเวลาที่คุณใช้บริการรถเมล์สายนั้นๆ ได้ รับประกันได้ว่าถ้าคุณลืมแม้แต่กระเป๋าเหรียญใบกระจิ๊ด ก็ได้คืน
1. เลข 1-15 หมายถึง ตัวเลขแทนช่วงระยะทาง ตัวเลขเหล่านี้หมายถึงระยะทางที่กรมการขนส่งได้กำหนดไว้เป็นมาตรฐาน ซึ่งรถเมล์ทุกสายไม่ว่าจะเป็นเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หรือรถร่วมบริการต้องใช้ร่วมกัน อย่างเช่นเลขที่แทนช่วงระยะทางที่ 1 ก็จะมีระยะทางตั้งแต่ตลาดอตก.3 เลี้ยวถึงถนนประชาราษฎร์ ระยะทางที่ 2 ก็จะมีระยะทางตั้งแต่ถนนประชาราษฎร์ถึงสะพานพระราม 7 เป็นต้น ตัวเลขแทนช่วงระยะทางนี้จะมีมากกว่าหรือน้อยกว่า 15 ช่วงระยะก็ได้ ขึ้นอยู่กับองค์กรที่ให้บริการว่าจะให้บริการเส้นทางที่ใกล้ไกลมากน้อยขนาดไหน
นอกจากจะแทนช่วงระยะทางแล้ว ตัวเลขเหล่านี้ยังสามารถบอกให้กับผู้โดยสารและนายตรวจตั๋วได้รู้อีกว่า ผู้โดยสารขึ้นจากรถเมล์ป้ายไหน และนับเป็นช่วงระยะทางที่เท่าไหร่ และถ้าเป็นรถเมล์ที่จ่ายเงินตามระยะทาง ก็จะบอกถึงราคาในแต่ละระยะทางอีกด้วย
2. โลโก้ของบริษัท บริษัทที่ให้บริการผู้โดยสารขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทว่าจะใช้โลโก้แบบไหน ถ้าหากเป็นรถของขสมก. ก็จะเป็นตราของขสมก. แต่ถ้าเป็นบริษัทเอกชน ก็จะมีตราบริษัทที่ต่างกันออกไป จะเห็นได้จากตั๋วใบนี้ที่โลโก้เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ BSS
3. เลขรหัสม้วนตั๋ว เป็นเลข 3-4 หลักแรก (ซึ่งในแต่ละองค์กรที่ให้บริการจะกำหนดไม่เท่ากัน) ใน 7 หลัก ซึ่งจะแทนเส้นทางการเดินรถที่ทางขสมก.กำหนดขึ้น รวมทั้งยังแทนสายรถเมล์สายนั้นๆ ด้วย
4. เลขจำนวนผู้โดยสาร เป็นเลข 3-4 หลักต่อท้ายจากเลขรหัสม้วนตั๋ว ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 000 ในทุกๆ ม้วนตั๋วและจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ตามจำนวนผู้โดยสารในแต่ละวัน รู้อย่างนี้แล้วใครที่อยากได้ตั๋วที่ลงท้ายด้วย 000 ไปรอกันที่ท่ารถตั้งแต่รถออกได้เลย
5. เลขหมวดตั๋ว เป็นเลขที่แทนรอบการผลิตตั๋วและแทนรถเมล์สายนั้นๆ ซึ่งจะมีตั้งแต่ 1-1000 เลยทีเดียว อย่างเช่นตั๋วรถเมล์ในรูปนี้ เลขหมวดตั๋วคือ 55
6. สีของตั๋ว สีของตั๋วนอกจากจะบอกถึงราคาแล้ว สำหรับรถเมล์ปรับอากาศคำนวณราคาตามระยะทางยังสามารถบอกถึงช่วงระยะในการเดิน ทางของผู้โดยสารอีกด้วย
รู้อย่างนี้แล้ว ลงจากรถเมล์เมื่อไหร่ก็อย่าลืมที่จะเก็บตั๋วมาไว้ด้วยล่ะ เพื่อว่าถ้าลืมของจะได้บอกได้ว่ารหัสม้วนตั๋วคือตรงไหน เลขหมวดตั๋วคือเลขอะไร โอเค้...
สำหรับใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของรถเมล์ขสมก. คงจะพอคุ้นหน้าคุ้นตาคูปองตั๋วโดยสารอยู่บ้าง รายละเอียดบนหน้าตั๋วคูปองโดยสารจะคล้ายกันกับตั๋วรถเมล์ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นสี ราคา หรือเลขรหัสม้วนตั๋ว เพียงแต่ว่าจะมีสองส่วนในคูปองหนึ่งแผ่น เมื่อผู้โดยสารต้องการจะใช้ก็เพียงแค่ฉีกคูปองทั้งแผ่น ซึ่งกระเป๋ารถเมล์จะฉีกส่วนของผู้โดยสารให้เรา และเก็บส่วนของกระเป๋ารถเมล์ไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการใช้ตั๋วคูปองโดยสารของ เรานั่นเอง