นิยายวายเรื่อง 'หวนรักนายแฟนเก่า' EP.1 รักในวันวาน
สวัสดีครับ
ขอฝากนิยายวายเรื่องสั้น ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะครับ
มีทั้งหมด 5 ตอนจบ
................
ตอนที่ 1
รักในวันวาน
มันคงเป็นเรื่องที่แก้ไม่ตกในชีวิตของผู้ชายหลายคนเช่นเดียวกับ ‘โตโต้’ หนุ่มวัยเบญจเพส ผู้ซึ่งครองตัวโสดมานานถึงสิบปีแล้ว แม้จะมีคนมากหน้าหลายตามาขายขนมจีบ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจใครเลย นั่นเพราะมีอดีตฝังใจกับความรักในวันวาน แฟนคนแรกและคนเดียวที่เคยคบแต่จบลงด้วยความไม่เข้าใจกัน จนทำให้ทั้งสองเลิกราในที่สุด
แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับอดีตแฟนหนุ่ม เพราะเป็นเขาเองที่งี่เง่าเอาแต่ใจจนทำให้มีปากมีเสียงทะเลาะกัน พลั้งปากบอกเลิกก่อนจากนั้นอีกฝ่ายก็หายไปจากชีวิต ไม่ได้พบเจอกันอีกเลยมาจนถึงตอนนี้
เขาคนนั้นมีนามว่า ‘ธนา’ จำได้ดีว่าเขาเป็นหนุ่มสุดฮอตของโรงเรียน ผู้หญิงค่อนโรงเรียนที่อยากได้เป็นแฟน โตโต้มักจะลากตัวเพื่อนไปนั่งข้างสนามฟุตธนาเป็นประจำเพื่อดูธนาเล่นฟุตธนา ยอมรับว่าเป็นฝ่ายส่งตาเปรี้ยวตาหวานให้ก่อนและในที่สุดผู้ชายคนนั้นก็ตกหลุมพรางจนได้
“โต้ ไอ้โต้!!”
“หา! ว่ายังไงครับพี่กิ่ง”
“นั่งเหม่ออยู่ได้ วันนี้มีประชุมร่วมกับผู้บริหารคนใหม่ พี่จ๋าให้เราเข้าไปด้วยทุกคน”
“ออครับพี่ ว่าแต่ผู้บริหารคนใหม่ที่ไหนอีก ไม่เคยได้ยินข่าวว่าจะมา”
“ก็ลูกชายท่านประธานยังไงล่ะ เห็นว่าเพิ่งเรียนจบมาจากนอกเลยนะ”
“อุ๊ย! อย่างนี้ก็เป็นที่หมายตาของสาว ๆ น่ะสิ แล้วอย่างนี้พี่กิ่งก็มีสิทธิ์น่ะสิ”
“ย่ะ! แกนั่นล่ะควรจะใช้สิทธิ์นั้น โสดมาตั้งนานควรจะมีสามีได้แล้ว ฉันลูกสองแล้วย่ะหนู” ที่พูดอย่างนั้นเพราะกิ่งดาวรู้ดีว่าเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องมีรสนิยมแบบไหน
เจ้าหล่อนหัวเราะร่วนเมื่อกล่าวจบ เธอสนิทกับโตโต้มาตั้งแต่เข้างานใหม่ ๆ รู้ทุกเรื่องของรุ่นน้องร่วมงาน และก็เธอนี่ล่ะที่พยายามหาหนุ่ม ๆ มาให้ แต่โตโต้กลับไม่สนใจใครเลย นับวันยิ่งทำตัวเหมือนคนวัยทองมากขึ้นทุกที
การประชุมระหว่างฝ่ายจัดซื้อและรองประธานบริษัทคนใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ตอนนี้ทุกคนในฝ่ายมาพร้อมหน้ากันแล้ว นอกจากจาริณีผู้จัดการฝ่าย กิ่งดาวรองหัวหน้าฝ่ายและตัวโตโต้เอง ก็มีอีกสี่ชีวิตที่ช่วยกันทำงานด้านจัดซื้อจัดจ้างในบริษัทแห่งนี้
รองประธานบริษัทยังไม่โผล่หน้ามาด้วยซ้ำ ทั้งที่ตอนนี้ก็เลยเวลาประชุมมาถึงสิบนาทีแล้ว ทุกคนมองหน้ากันด้วยความรู้สึกอึดอัด จะนินทาก็ไม่ได้ด้วยสิ หนึ่งในนั้นก็คือโตโต้ เขากำลังก่นด่ารองประธานบริษัทคนใหม่ในใจ อยากเห็นหน้าซะแล้วสิว่าจะแย่เหมือนนิสัยไหม
“ขอโทษด้วยครับ พอดีผมติดสายลูกค้าคนสำคัญ”
เสียงทุ้มของผู้มาใหม่เรียกความสนใจจากทุกคนในห้อง หันไปมองเจ้าของเสียงนั้นเป็นตาเดียวกัน ความหล่อเหลาบวกกับรูปร่างกำยำสมส่วนในชุดสูทสีกรมท่าเข้ารูปทำให้สาว ๆ ต่างก็มองตาเป็นมัน ความขุ่นเคืองเมื่อครู่มลายหายไปจนหมดสิ้น เว้นเสียแต่โตโต้เท่านั้นที่นั่งครุ่นคิด เพราะรองประธานบริษัทคนใหม่นั้นช่างคุ้นตาเสียจริง
“ไม่เป็นไรค่ะท่านรอง”
จาริณีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเอ่ยขึ้น
“นี่คงเป็นคุณจ๋าผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อใช่ไหมครับ” เขากล่าวหลังจากนั่งลงเก้าอี้ตรงหัวโต๊ะแล้ว
“ใช่ค่ะ”
“ผมธนานะครับ เพิ่งมารับตำแหน่งรองประธานบริษัทวันแรก ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวกับฝ่ายจัดซื้อด้วยนะครับ หวังว่าการประสานงานกันคงจะราบรื่น”
“ยินดีค่ะคุณธนา”
จาริณียิ้มรับด้วยความยินดียิ่ง จากนั้นก็ถึงเวลาที่ต้องแนะนำตัวแล้ว โตโต้ยังคงนั่งคิดว่าเคยเจอเขาคนนี้ที่ไหนมาก่อน จนกระทั่งมาถึงคิวที่ต้องแนะนำตัวแล้ว หากทว่ายังคงนั่งนิ่งอยู่ในห้วงแห่งความคิด
“โต้ถึงคิวแกแล้ว” กิ่งดาวกระซิบบอกเบา ๆ ในขณะที่ทุกคนจ้องมองมา
เมื่อรู้ตัวก็รีบลุกขึ้นแล้วหันไปเอ่ยกับท่านรองประธานบริษัท ได้จ้องตากันแล้วก็ทำให้ความรู้สึกในวันวานหวนคืนมา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าท่านรองประธานบริษัทก็คือแฟนเก่าของเขานั่นเอง
“คือ...ผมชื่อ...วิศิษฐ์ครับหรือเรียกว่าโตโต้ก็ได้”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณโตโต้”
“ยะ...ยินดีเช่นกันครับ”
รอยยิ้มและแววตาอันแพรวพราวทำให้ใบหน้าของเจ้าตัวร้อนผ่าว มือไม้สั่นเป็นเจ้าเข้า รีบหลบตาเขาเพราะไม่แน่ใจว่าธนาจะจำกันได้ไหม แต่เอ๊ะ! ทำไมจะจำไม่ได้ ขนาดเขายังจำได้เลย แต่เอ๊ะ! ทำไมธนามาเป็นท่านรองประธานได้ จำได้ว่าบ้านของธนาไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น และก็ทำเหมือนไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ
กว่าจะจบการประชุมลงได้ทำเอาโตโต้ต้องทนนั่งก้นติดเก้าอี้ด้วยอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องนั่งตัวเล็กลีบอยู่ที่เก้าอี้ไม่เอ่ยปากใด ๆ ตลอดระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็ม ออกมาแล้วรู้สึกโล่งใจมาก กิ่งดาวถามว่าเป็นอะไรทำไมถึงดูกังวลผิดปกติ แน่นอนว่าสำหรับพี่สาวคนนี้เขากล้าบอกความจริงว่าคือแฟนเก่าช่วงวัยมัธยมนั่นเอง
.
.
สัปดาห์แรกผ่านไปดูเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้โตโต้โล่งใจเป็นที่สุด ธนาไม่เพ่งเล็ง ไม่ส่งสัญญาณใด ๆ ว่าจำกันได้ แต่ในใจลึก ๆ กลับรู้สึกน้อยใจที่อีกฝ่ายจำไม่ได้ หรืออาจจะจำได้แต่ไม่อยากจะเสวนากับคนงี่เง่าเอาแต่ใจอย่างตน ในใจอยากจะตะโกนร้องบอกให้รู้ว่าตอนนี้ไม่ได้มีนิสัยแบบนั้นแล้วนะ!
“อุ๊ย! ขอโทษครับ”
เดินเหม่อลอยพร้อมทั้งถือแก้วกาแฟเย็นกำลังจะไปยังซุ้มศาลาที่นั่งประจำในช่วงพักเที่ยง กลับเดินชนใครเข้าอย่างจัง เมื่อเงยขึ้นมองก็พบว่าเป็นคนที่อยู่ในหัวตอนนี้
“ยังซุ่มซ่ามเหมือนเดิมเลยนะ” เขากล่าวพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ
โตโต้ไม่ได้สนใจอะไรนอกเสียจากนำผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบกาแฟที่เลอะเสื้อสูทให้อย่างลนลาน แต่พอนึกย้อนคำพูดของเขาเมื่อครู่ก็ทำให้เกิดคำถามในหัว ขมวดคิ้วแล้วเงยขึ้นมองหน้าเขา
“เมื่อครู่คุณว่าอะไรนะ”
“ยังซุ่มซ่ามเหมือนเดิมเลยนะ”
“อย่าบอกนะว่าคุณจำผมได้ด้วย”
“ก็ใช่น่ะสิใครจะจำแฟนเก่าไม่ได้ เป็นไงสบายดีนะ”
“สะ...สบายดีครับ”
“ไม่ต้องพิธีรีตองขนาดนั้นก็ได้ พูดเหมือนเมื่อก่อนก็ได้นะเราไม่ถือ”
“ไม่ได้หรอกครับ ตอนนี้คุณเป็นถึงท่านรองประธานแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”
กำลังจะก้มหน้าเดินกลับไป แต่อีกฝ่ายเดินเข้ามาขวางหน้าเอาไว้ ทำให้ร่างเล็กปะทะร่างใหญ่เข้าอย่างจัง เซถลาจะล้มลงแต่ธนาช้อนตัวไว้ได้ทันท่วงที สายตาทั้งสองคู่ประสานกันก่อนที่โตโต้จะผละใบหน้าหนี ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย
“โทษที เราแค่อยากคุยกับโต้น่ะ”
“ตอนนี้คงไม่สะดวกแล้วครับ เพราะผมต้องไปทำงานแล้ว”
กล่าวแล้วก็เดินเร็วก้มหน้าเข้าไปยังออฟฟิศ เมื่อพ้นจากระยะสายตาเขาแล้วก็หยุดฝีเท้า พิงหลังที่ผนังทางเดิน ยกมือขึ้นกุมอกด้านซ้ายที่มันกำลังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ร้อนผ่าวไปทั่วทั้งใบหน้าอย่างไร้สาเหตุ ภาพอันแสนหวานในวันวานฉายขึ้นมาในหัว ธนายังคงทำให้เขาหัวใจเต้นแรงได้ทุกครั้ง แต่รู้สึกสงสัยว่าทำไมดูเหมือนอีกฝ่ายไม่โกรธเลย หรือว่าจะแต่งงานมีลูกมีเมียแล้ว
วลีที่ว่าเขามีลูกมีเมียแล้วทำให้โตโต้ครุ่นคิดมาตลอดทั้งวัน แม้กระทั่งเวลาเลิกงานแล้วก็ยังได้ยินเสียงนั้นดังก้องในหัว กลับบ้านด้วยรถเมล์สายประจำก่อนลงที่หน้าปากซอยเพื่อเดินต่อไปอีกประมาณสองร้อยเมตร ก่อนหน้านี้โตโต้อาศัยอยู่กับมารดา หากทว่าท่านเสียไปเมื่อสามปีที่แล้ว
“โฮ่ง ๆ”
เสียงเจ้าโต้งหมาพันธุ์ไทยแท้สีขาวลายน้ำตาลเห่าเพื่อต้อนรับการกลับบ้านของเขาเป็นประจำ เดินยิ้มเข้าไปนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าหลังจากเปิดประตูรั้วเข้าไปแล้ว ยกมือขึ้นลูบกลางกระหม่อมอย่างเอ็นดู ส่วนเจ้าโต้งตอนนี้กำลังยกขาหน้าขึ้นมาวางพาดบนเข่าด้วยความดีอกดีใจ หากไม่มีสุนัขตัวนี้อยู่เป็นเพื่อนคงเหงาน่าดู
“คิดถึงพ่อมากใช่ไหม วันนี้ดื้อไหมเรา”
โตโต้เอ่ยพลางลูบมือบนแผ่นหลังเจ้าโต้ง จากนั้นลุกขึ้นเพื่อเข้าบ้าน ปกติแล้วเจ้าโต้งจะวิ่งตามหลังไปหากทว่าตอนนี้มันกำลังวิ่งกลับไปเห่าใครบางคนที่ยืนอยู่หน้ารั้วบ้าน
“โฮ่ง ๆ”
หันกลับไปมองก็ต้องสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ จะเป็นใครล่ะนอกจากท่านรองประธานบริษัท ตามมาถึงบ้านอย่างนี้เขาต้องการอะไรกันแน่
“โทษที ขอเข้าไปหน่อยสิ”
“คุณมาที่นี่ทำไม มันค่ำแล้วนะ”
“เรามีธุระจะคุยกับโต้น่ะ”
คำพูดคำจาที่เหมือนเดิมทำให้หัวใจฟูขึ้นมาเสียอย่างนั้น ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินไปเปิดประตูรั้วให้เขาจนได้
เข้ามาในบ้านแล้วก็ให้แขกนั่งรอบนโซฟาตัวเก่า ๆ ที่เป็นสมบัติตกทอดมาจากบรรพบุรุษ บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้หลังเก่า ๆ สร้างมาไม่ต่ำกว่าห้าสิบปีแล้ว มันจึงเป็นสถานที่แห่งความทรงจำอันทรงคุณค่าของโตโต้ และแน่นอนว่าเคยพาเขามาหลายต่อหลายครั้ง ทางบ้านเองก็รู้ว่าคบกับผู้ชายคนนี้
“น้ำครับ”
“ขอบใจนะ”
ความเป็นกันเองของธนาทำให้เจ้าตัวรู้สึกอัดอึดอย่างบอกไม่ถูก เขาพยายามทำทุกอย่างให้เป็นเหมือนเดิมเพื่ออะไร หรือจะมาแก้แค้นที่โดนเทไปเมื่อครั้งนั้น ไม่สิ! ธนาต่างหากที่เทเพราะความงี่เง่าของตน
“สรุปว่าคุณมาที่นี่เพราะอะไร”
“ยัง ๆ ยังไม่เลิกเรียกเราว่าคุณอีก”
“ก็ได้ ๆ ธนาต้องการอะไรถึงตามเรามาถึงบ้าน แล้วไปเป็นรองประธานได้ยังไงกัน”
“อย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย เอาตรง ๆ นะคือเราอยากกลับมาคบกับโต้น่ะ แม้เวลาจะผ่านมานานแล้วแต่เราก็ยังรักโต้นะ ส่วนที่เรามาเป็นรองประธานบริษัทได้เพราะแม่เราแต่งงานใหม่ พ่อเลี้ยงเราก็คือประธานบริษัท ไม่สังเกตเหรอว่านามสกุลไม่เหมือนกัน”
ธนาตอบอย่างสบาย ๆ ไม่มีท่าทีอึดอัดหรือตื่นเต้นแต่อย่างใด ราวกับวางแผนล่วงหน้ามานานแล้วสำหรับการมาพบตนถึงที่นี่
“ธนายังรักเราจริง ๆ เหรอ” โตโต้ถามเสียงเบาเหมือนไม่ค่อยมั่นใจนัก
“จริงสิ ถ้าไม่รักคงไม่มาหาถึงที่นี่หรอก”
“แต่...เราเคยทำตัวไม่ดีใส่ธนานะ จนทำให้เราต้องเลิกกัน แล้วทำไมธนายังอยากจะกลับมาคบกับเราล่ะ ไม่ใช่ว่าตอนนี้ธนาแต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้วนะ” โตโต้ลองหยั่งเชิงดูว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างไร หวังว่าคำตอบนั้นจะทำให้มีความหวังกับความรักอีกครั้ง
“ใครบอก เรายังไม่แต่งงานเลย เลิกกับโต้มาตั้งแต่ครานั้นก็มีแฟนบ้างสองสามคน แต่ไม่เคยคิดจะแต่งงานกับใครเลยเพราะเรายังรักโต้”
“เราจะเชื่อได้ไหมเนี่ย มันผ่านมาสิบปีแล้วนะ ธนาจะยังรักเราเหมือนเดิมอยู่เหรอ”
“มันอาจจะฟังดูน่าเหลือเชื่อนะ แต่เรายังไม่เคยลืมโต้เลย ไม่เคยลืมแม้แต่วินาทีเดียว” สายตาที่ส่งมาพร้อมกับคำพูดเหล่านั้นสร้างความเชื่อมั่นให้โตโต้เป็นอย่างยิ่ง เขาจริงจังถึงเพียงนี้เลยหรือกะอีแค่ความรักสมัยยังเป็นวัยรุ่น
แต่คิดตรึกตรองดูแล้วมันก็คงไม่แปลก เพราะตนเองก็ยังไม่เคยลืมธนาเลย หัวใจดวงนี้มันได้มอบให้เขาตั้งแต่ครานั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง มันอาจจะเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้ยังคงมีความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กัน
“เราก็อยากจะเชื่อนะแต่...”
“หรือว่าโต้มีแฟนแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะแต่...เรารู้สึกผิดที่ทำให้ธนารำคาญ หากกลับมาคบกันอีกเรากลัวว่าประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยน่ะสิ”
ได้ยินอย่างนั้นอีกฝ่ายก็กลั้นขำไว้ไม่อยู่
“โทษทีเราอดขำไม่ได้น่ะ”
“มีอะไรน่าขำงั้นเหรอ”
“เราก็แค่คิดว่าโต้เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ตอนนั้นวีนเหวี่ยงเก่งแต่ตอนนี้เรียบร้อยน่ารัก แอบมีความโก๊ะนิดหน่อยดูมีเสน่ห์ขึ้นเยอะเลย”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“อื้ม”
โตโต้ยิ้มเขินเมื่อได้รับคำชมจากเขา สร้างความน่ารักให้ขึ้นเป็นกอง คนที่ส่งสายตามองเอาแต่ยิ้มไม่ยอมหุบ แววตาคมมีเล่ห์กลบางอย่างแอบแฝงซ่อนเร้นโดยที่เจ้าตัวไม่สังเกตเห็นมันเลย
“ถ้าสมมติเรากลับมาคบกันแล้ว เรื่องที่บริษัทจะเอายังไง คนอื่นรู้เข้าธนาจะเสียภาพลักษณ์ไหม”
“ไม่ต้องห่วงหรอกก็แค่คนรักกันจะไปเสียภาพลักษณ์ยังไง หากโต้ให้โอกาสเราอีกครั้ง ก็แล้วแต่โต้ว่าจะยอมคบแบบเปิดเผยไหม สำหรับเรายอมทุกอย่าง”
ได้ยินอย่างนั้นโตโต้ก็ครุ่นคิดภายในใจ รู้สึกแปลก ๆ เพราะทุกอย่างมันดูง่ายไป ตามมาหาถึงบ้านแสดงว่าต้องแอบสะกดรอยตาม แถมตอนนี้ยังจะมาขอคบอีกครั้ง หากไม่คิดมากไปก็เกรงว่าอีกฝ่ายจะมีแผนการบางอย่างที่ไม่ค่อยจะโปร่งใสสักเท่าไหร่
“ทำไม...ธนายังไม่ลืมเราทั้งที่มันก็นานมากแล้วนะ คนระดับธนาหาผู้หญิงดี ๆ รวย ๆ มาเป็นแฟนกี่คนก็ได้นี่นา” เจ้าตัวกล่าวเสียงอ่อย ก้มหน้าไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย
“จำได้ไหมว่าเราเคยสัญญากับโต้ไว้ว่าจะรักตลอดไป เรายังจำมันได้ดีและที่ผ่านมาก็ไม่มีใครทำให้เราลืมโต้ได้เลย”
“แต่นั่นมันสมัยเรายังเป็นเด็กนะ สิบกว่าปีแล้วด้วย”
ธนาส่งมือหนามาคว้ามือเรียวไปกุมไว้อย่างอ่อนโยน ส่งรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์เหมือนเช่นเคยให้ได้อุ่นใจ ว่าเขาพร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับคนนี้คนเดียวและตลอดไป
“ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปีแล้ว แต่หัวใจดวงนี้ยังคงเป็นของโต้เสมอนะ และจะไม่มีวันเปลี่ยนไป”
คำพูดและแววตาอันลึกซึ้งขับกล่อมให้มุมปากของโตโต้ยกขึ้นด้วยความยินดีและดีใจ ได้อยู่ใกล้ชิดกันอีกครั้งความรู้สึกเก่าก็พรั่งพรูออกมาเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ใบหน้าทั้งสองเคลื่อนเข้าหากันอย่างช้า ๆ จนในที่สุดริมฝีปากก็สัมผัสบดเบียดกันอย่างดูดดื่ม ร่วมรำลึกถึงความหลังเมื่อยังวัยเยาว์ด้วยความรู้สึกดี ๆ