กลุ่มข้าราชการที่มีหนี้สิ้นธนาคารมากที่สุดในไทย
ว่ากันว่าข้าราชไทยจำนวนมากมีหนี้ในระบบและนอกระบบ
เมื่อรวมกันแล้วจึงเป็นเม็ดเงินมหาศาล
เนื่องจากค่านิยมในสังคมไทยมองว่า"ครู"เป็นผู้มีหน้ามีตา
ต้องมีบ้าน มีรถ โทรศัพท์ราคาแพงๆ เสียหน้าไม่ได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายทางสังคมอื่นๆ
ครูจำนวนไม่น้อยจึงต้องกู้หนี้ยืมสินจากหลายๆช่องทาง
และโปะหนี้ไปมาจนอยู่ในภาวะหนี้สินเรื้อรังซ้ำซ้อน
ข้าราชการมีทั้งเงินเดือน สวัสดิการเยอะมากมาย
หนี้ที่อาจเกิดจากความฟุ่มเฟือยกับหนี้ที่จำเป็น แม้ว่าครูอายุเยอะแล้ว
เกษียณอายุ 60 ปีและเมื่อเกษียณแล้ว เงินเดือนก็ถูกปรับลดลง
แต่ก็ยังมีภาระหนี้ที่ต้องจ่ายต่ออีกหลายปี
จากการสำรวจพบว่า ครูที่มีหนี้อายุมากสุดที่พบ คือ 103 ปี
"หนี้ครู"หรือ หนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา
เป็นปัญหาที่อยู่ต่อเนื่องมาหลายยุคหลายสมัย
และเป็นปัญหาเรื้อรัง เหมือนดินพอกหางหมูที่ทุกรัฐบาลให้ความสนใจ
ปัจจุบัน ครูทั่วประเทศประมาณ 9 แสนราย
คิดเป็น 80% มีหนี้รวมกัน 1.4 ล้านล้านบาทโดยเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด
คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู วงเงินประมาณ 8.9 แสนล้านบาท
คิดเป็นประมาณ 64% รองลงมา
คือ ธนาคารออมสิน วงเงินประมาณ 3.49 แสนล้านบาท
คิดเป็นประมาณ 25% และอีก 11% เป็นของสถาบันการเงินอื่นๆ
แบ่งเป็น ธนาคารกรุงไทยประมาณ 6 หมื่นล้านบาท และ
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท