งูปล้องหวายหลังเส้น งูพิษร้ายแรงตัวจิ๋ว
งูปล้องหวายหลังเส้น งูพิษร้ายแรงตัวจิ๋ว
จากข่าวที่เผยแพร่ไปเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่โพสต์ภาพงูตัวเล็กจิ๋วบนฝ่ามือ เพื่อสอบถามว่างูตัวนี้คืองูสายพันธุ์อะไร ปรากฏว่า งูตัวดังกล่าวคือ งูปล้องหวายหลังเส้น ซึ่งเป็นงูพิษร้ายแรงต่อระบบประสาท
งูปล้องหวายหลังเส้น เป็นงูขนาดเล็กมาก ลำตัวยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร พบได้ในประเทศไทย ภาคกลาง สระบุรี ชัยนาท หัวสีเขียวคล้ำ ตัวสีเหลืองอมเขียว มีเส้นสีดำที่กลางหลังตลอดตามความยาวตั้งแต่คอ ถึงปลายหาง ปลายหางขวั้นสีดำ ท้องสีชมพูอ่อน
เขี้ยวพิษของงูปล้องหวายหลังเส้นเล็กมากเท่าเข็มหมุด ทำให้ถ้ากัดจะแทบไม่เห็นรอย พิษของงูชนิดนี้เป็นแบบ neurotoxin มีผลต่อระบบประสาท อาการเฉพาะที่หลังถูกกัด ไม่ค่อยปวด ไม่บวม หรือบวมเล็กน้อย และอาการแสดงทั่วไป ประมาณ 4 ชม.ขึ้นไปหลังถูกกัด จะมีอาการชาอ่อนแรง เป็นอัมพาต เนื้อเยื่อบริเวณที่ถูกกัดตาย หนังตาตก ง่วงนอน ตาพร่า นํ้าลายสอ กลืนไม่ลง พูดไม่ชัด กลืนลำบาก หายใจลำบาก ถ้าอาการรุนแรงมากตายด้วยหัวใจวาย
การรักษา เนื่องจากในประเทศไทยยังไม่มีเซรุ่มเฉพาะสำหรับคนที่ถูกงูพิษชนิดนี้โดยตรง ถ้ารุนแรงมาก อาจต้องทดลองใช้เซรุ่มต้านพิษรวมระบบประสาท (Neuro Polyvalent Snake Antivenin)
จากข่าวนี้ มีข้อควรระวังในการพบงูดังนี้
- อย่าจับงูมือเปล่าเด็ดขาด ไม่ว่างูตัวนั้นจะดูน่ารักหรือตัวเล็กแค่ไหนก็ตาม เพราะงูทุกตัวอาจมีพิษได้
- หากพบงูในบ้านหรือบริเวณใกล้เคียง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดำเนินการ
- หากถูกงูกัด ให้รีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ งูปล้องหวายหลังเส้น เป็นงูพิษที่อันตรายถึงชีวิต ดังนั้นหากพบงูชนิดนี้ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือจับด้วยมือเปล่า และหากถูกงูกัดควรรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
ความคิดเห็นส่วนตัว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่า งูทุกตัวอาจมีพิษได้ ดังนั้นหากพบงูไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือจับด้วยมือเปล่า เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ หากถูกงูกัด ควรรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที เพราะพิษของงูบางชนิดอาจทำให้เสียชีวิตได้
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะครับ