หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ชายผู้กินหัวใจพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แฟรงค์ บัคแลนด์ นักเปิบพิศดาล

โพสท์โดย Stephen wat0234

        นักสืบรสชาติสารพัดสัตว์เขาสรรหาสารพัดสัตว์มาปรุงเป็นอาหารเพื่อแนะนำแหล่งโภชนาการสำหรับมนุษย์โลก  

แฟรงค์  บัสแลนด์  (Frank Buckland )เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน  คริสตศักราช 1826 ที่อ๊อกฟอร์ด อังกฤษบิดาของเขาคือ (วิลเลี่ยม บัคแลนด์)Williams Buckland นักธรณีวิทยาผู้มีชื่อเสียงในการส่งเสริมให้ชาวอังกฤษชื่นชอบกับป่าเขาลำเนาภัย   รวมทั้งการเอาสัตว์แปลกๆมาทำอาหาร   ในบรรดาแขกบ้านบัสคแลนด์จะได้รับอาหารมื้อต่างๆด้วยเนื้อสัตว์หลากหลายชนิด  ตั้งแต่  หนู  นกกระจอกเทศ  หมาน้อย  จระเข้  หอยทาก   

ความพิศดาลในการชิมอาหารของวิลเลี่ยมในหนหนึ่งคือ  เมื่อเขาได้ไปเยือนศักศิทธิ์  ซึ่งร่ำลือกันว่าที่พื้นวิหารนั้นมี "โลหิต" นักบุญ (Saint)หยดอยู่อย่างสดๆตลอดเวลาไม่เคยระเหยหรือเหือดหายไป

วิลเลียมได้ใช้ลิ้นของเขาทดสอบรสชาติของหยดโลหิตเหล่านั้น    แล้วประกาศว่าแท้จริงก็คือเยี่ยวค้างคาวนั่นเอง   มิใช่สิ่งใดอื่น  จึงเป็นที่ประทับใจของแฟรงค์ที่มีต่อพ่อของเขา  และเจริญรอยตามพ่อ

แฟลงค์เติบโตขึ้นมากลางชีวิตป่าเขา  เมื่อสูงวัยเขาได้เขียนเล่าถึงอดีตว่าตอนเป็นได้มีคนขับรถม้านำเอาจระเข้ใกล้ตายตัวหนึ่งมาให้   เขาจึงนำมันไปปล่อยลงในสระสี่เหลี่ยมข้างโบสถ์คริสเตียน   แฟลงค์บอกว่ามันไม่ค่อยจะยอมฟื้นตัว  ดังนั้นผมจึงขึ้นขี่มันไปรอบๆ

ที่โรงเรียนแฟรงค์ตัดเอาชิ้นส่วนอวัยวะของสัตว์ต่างๆมาทดลองปรุงเป็นอาหารรับประทานและเมื่อเข้าศึกษาต่อใน อ๊อกซ์ฟอร์ด ทางด้านศัลยกรรม   แฟรงค์ก็มักไปเยี่ยมเยียนโรงพยาบาลท้องถิ่น   ทำความรู้จักมักคุ้นกับคณะทำงานที่นั่น   แล้วนำเอาปลาไหลกับปลาเทร้าต์ไปขอแลกกับชิ้นส่วนมนุษย์ที่โรงพยาบาลตัดหรือชำแหละทิ้ง

ตั้งแต่ปี 1859 เป็นต้นมาแฟรงค์ก็หันไปอุทิศชีวิตให้กับการประมงเขาพัฒนาพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขึ้นและเขียนบทความต่างๆซึ่งเป็นที่นิยมอ่านกันแพร่หลายตระกูลบัคแลนด์นั้นต่อต้านการสูญเสียพื้นที่เกษตรกรรมที่เปลี่ยนไปอุตสาหกรรมโดยตลอด  เพราะมีผลทำให้แหล่งอาหารโปรตีนจากสัตว์ต้องลดน้อยถอยลงไปด้วย   

แฟรงค์ได้ดำเนินการก่อตั้งสมาคมอนุรักษ์สัตว์  The Acclimatization of Animals Society ขึ้นในอังกฤษโดยมีจุดประสงค์ในการสรรหาและส่งเสริมแหล่งสัตว์ที่เป็นอาหารจัดเลี้ยงครั้งหนึ่งของสมาคม  อาหารที่นำมาเสิร์ฟล้วนมีรสชาติจัดจ้านและน่าตื่นตาตื่นใจ  ประกอบด้วยเนื้อจิงโจ้แกะ  หมูป่า  หมูไซเรีย และอื่นๆ

แต่สำหรับของตัวแฟงค์เองสนใจในปลามากกว่า   เขาและพรรคพวกเคยเฉือนเอาเนื้อจากหัวปลาโลมามาต้มและย่าง หากทว่าว่าแฟรงค์ยอมรับว่ารสชาติของมันพะอืดพะอมเหมือนเคี้ยวไส้ตะเกียงน้ำมัน

อีกครั้งในปี 1868 เขาจะเลี้ยงเนื้อม้าล้วนๆสำหรับแขกรับเชิญ 160 คนเพื่อเป็นการโปรโมทในสาธารณชนหันมาสนใจบริโภคเนื้อม้า  หลังงานเลี้ยงเลิกราแฟลงค์ก็ต้องยอมรับอีกครั้งว่ารสชาติเนื้อม้านั้นไม่ได้เรื่องเลย   ปลุกกระแสผู้คนไม่สำเร็จ  แต่แฟรงค์ก็ยังเดินหน้าในการหาแหล่งอาหารสัตว์ทุกชนิดต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง   นำเอาหมูย่างมาเสิร์ฟหายในอ๊อกฟอร์ด   ถัดไปก็เป็นทั้งต้มเปื่อย  พายเนื้อแรด  นกกระจอกเทศย่างทั้งตัว  ซึ่งรายการหลังนั้น  ภริยาของเซอร์ริชาร์ด โอเว่น นักสัตวศาสตร์ผู้โด่งดังวิจารณ์ว่า "เนื้อของมันคล้ายเนื้อไก่หยาบๆของไก่งวงมาก"

อาหารที่เห็นแล้วน่าขยะแขยงที่สุดที่มาเสนอได้แก่  ปลิงทะเลตัวดำๆยึกยือ  อย่าว่าแต่จะชิมเลย  แค่แตะต้องตัวมันบางคนก็ยังไม่กล้า  ส่วนจิ้งหรีดนั้นผู้ที่ได้ลิ้มรสต่างออกปากตรงกันว่า "ขมจนดีจะแตกเลย" แต่ถ้าจิ้งหรีดในภาคอีสานนี้แซบนัวหลายเด้อ กรอบๆหอมกินกับข้าวเหนียว  เสียดายแฟลงค์ไม่ได้กินเมนูนี้ 

ส่วนสตูตุ่นก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมเช่นกันกับซุปแมลงวันหัวเขียวและหอยทากในสวน  รายได้หลักของแฟลงค์มาจากการบรรยายตามที่ต่างๆรวมทั้งการเขียนและพิมพ์หนังสือที่อ่านแล้วสนุกเพลิดเพลินทำให้ผู้อ่านสนใจในวิถีชีวิตธรรมชาติ   อาทิ ตอนหนึ่งที่เขาเล่าว่าในวันอังคารราว5โมงเย็น คุณกรูฟที่อยู่ถนนบอนด์ ได้ส่งข่าวมาว่าเขาได้ ปลาสเตอร์เจียนตัวงามมา 1 ตัว  แน่นอนผมรีบไปดูมันทันที  ขนาดของมันยาวร่วม 3 เมตร   ผมต้องการจะหล่อตัวมันไว้ดู  เขาก็ยินดีมอบให้ผมยืมหนึ่งคืนและจะต้องนำมาส่งมันที่ร้านตอน 10 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น

หลังจากขนย้ายมันมาอย่างยากลำบากทุลักทุเลแล้ว   ผมก็คิดอ่านเอาตัวมันลงไปไว้ในห้องครัว   ดังนั้นจึงเอาเชือกผูกหางของมันแล้วค่อยๆปล่อยให้มันเลื่อนไหลลงไปเองตามขั้นบันไดหิน   เริ่มต้นก็ดูดีแต่เดี๋ยวเดียวผมก็สุดที่จะเหนี่ยวรั้งเชือกได้อีกต่อไป  ตัวของมันจึงเลื่อนหัวทิ่มไหลลงไปเองอย่างรวดเร็วราวกับหิมะบนยอดมองต์บลังถล่มทลายลงมา   

มันพึ่งชนประตูเปิดผางแล้วพรวดเข้าไปในครัว    กระทั่งพึ่งไปชนโต๊ะจึงจอดสนิทหมดฤทธิ์อยู่ตรงนั้น  การปรากฏตัวของมันอย่างฉับพลันและไม่คาดฝันเจ้ายักษ์ใหญ่จากทะเลได้สร้างความกลาโหมอลหม่านให้เกิดขึ้น   แม่ครัวกรีดร้องลั่นหญิงแม่บ้านเป็นลมล้มตึง   แมวกระโดดขึ้นไปบนจานอาหาร   หมาเผ่นถอยหลังไปตั้งหลักแล้วเห่า   ส่วนลิงแตกตื่นด้วยความตกใจและเจ้านกแก้วในกรงก็ไม่เคยเปิดปากจ้ออีก  แม้แต่คำเดียวนับแต่นั้นมา   

หนังสือที่แฟลงค์เขียนมีอาทิ  The field,Fish hatching ,Coriosities of natural  history ฯลฯ

ขอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ตรวจการประมงปลาแซลมอนในปี 1867 และตำแหน่งนี้จนตลอดชีวิต

นอกจากนี้แฟร้งยังหลงใหลในการสะสมสิ่งของแปลกๆหายาก  สิ่งที่เขาเก็บรักษาไว้ก็อย่างเช่น  กระดูกเท้าของ  "เบนจ์ จอห์นสัน" กวีและนักเขียนคนสำคัญของอังกฤษชิ้น   ส่วนหนังที่ได้จากช้างแมมมอธ  ซึ่งพบแช่แข็งในไซบีเรีย  แม้จนกระทั่งกระจุกเส้นพระเกศาของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 4

ในปี 1887 เขาได้รับเตียง 4 เสา  ครั้งหนึ่งเคยเป็นของ "จอห์น ฮันเตอร์"ศัลยแพทย์สมัยศตวรรษที่ 18 และเป็นอาจารย์ที่แฟรงค์เลื่อมใสนับถืออย่างยิ่ง  เขาจึงบรรจงตัดเตียงนั้นเอาไม้มาทำเก้าอี้  ปัจจุบันเก้าอี้ตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์วิทยาลัยหลวงศัลยแพทย์แห่งกรุงลอนดอน

ครั้งหนึ่งในร่วมดินเนอร์กับเพื่อนสนิทแฟรงค์ออกปากว่าผมเคยกินอะไรแปลกๆมาตลอดชีวิต แต่ยังไม่เคยกินหัวใจของพระราชามาก่อนเลย" แต่สิ่งที่อยู่บนจานเบื้องหน้าของเขาก็คือ พระหทัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งถูกขโมยมาจากสุสานหลวงในระหว่างปฏิวัติของฝรั่งเศส

คู่ชีวิตของแฟรงค์เป็นหญิงตระกูลต่ำต้อยนามว่า "ฮานา แป๊บส์" ลูกชายด้วยกันหนึ่งคนในปี 1851 แต่ทั้งสองเข้าพิธีแต่งงานในปี 1863 ลูกคนนี้แต่เยาว์วัย

แฟรงค์เองก็มีสุขภาพไม่สมบูรณ์เขาตกเลือดในปอดซึ่งอาจเป็นอาการบ่งชี้ถึงวัณโรคหรือมะเร็งปอดก็เป็นได้  ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะไม่รอด     ทำให้แฟรงค์เสียชีวิตในวันที่ 19 ธันวาคมปี 1880 อายุได้ 54 ปีชีวิตอาจจะไม่ยืนยาวนะแต่เรื่องราวของเขายังเป็นที่จดจำของชาวอังกฤษจนถึงทุกวันนี้

โพสท์โดย: Stephen wat0234
อ้างอิงจาก: อุดร จารุรัตร์ ,ต่วยตุ่น
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Stephen wat0234's profile


โพสท์โดย: Stephen wat0234
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: Stephen wat0234
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เพจดังเปิดภาพพระสงฆ์ ควงแขนผู้ชาย ชาว เน็ตวิจารณ์ยับเชน ธนา การเงินวิกฤตหนัก ตัดใจประกาศขายออฟฟิศ 3 ตึก ราคารวมเกือบร้อยล้านเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568เมืองไทยมี ฮวังอินยอบ❤️🫶 ยินดีต้อนรับ #ฮวังอินยอบ ที่ตัวจริงหล่อกว่าในซีรีส์สู่ประเทศไทย 🇹🇭 ค่าน้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่นวันสุดท้ายแล้วสำหรับงานกาชาด 2567 ร้อนแรงทะลุสวนลุม! "ตำรวจตกน้ำ" ไฮไลต์เด็ดที่ทุกคนต้องไม่พลาดชั่วขณะสุดท้ายของชีวิต หากถูกประหารด้วยกิโยติน เราจะรู้สึกอย่างไร?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เฮ! เงินไร่ละพันยังมาต่อเนื่อง! ชาวนารับเงินช่วยเหลือ ธ.ก.ส. กันอยู่หรือเปล่า? มาอัปเดตกันหน่อย!รีบมา! คืนนี้วันสุดท้ายแล้ว "ตำรวจตกน้ำ" ไวรัลสุดเสียวกาชาด 2567 หล่อ เปียก ฮา พุ่งกระจาย!อย่าท้าทายระบบ! "สารวัตรแจ๊ะ" เผยสาเหตุที่ต้องใส่แมสก์ และสวมหมวกตลอดเวลาสั่งพักงานยกชุด! 18 ตำรวจจราจร ปมตั้งโต๊ะจับปรับ 'เจอจ่ายจบ'"ร่วมส่งใจ อาเป็ด เชิญยิ้ม แอดมิตด่วน เจอพิษ “โนโรไวรัส” ยังไม่มียา-วัคซีน ชวนป้องกัน กินสุกลดเสี่ยง ล้างมือบ่อย #ลดเสี่ยงโรค
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
จริงไหมที่คำว่า ‘Salary’ มาจาก ‘Salt’ เพราะทหารโรมันรับค่าจ้างเป็นเกลือ?อยากโกอินเตอร์? เจาะลึกวิธีหางานต่างประเทศ 2567 แบบถูกกฎหมาย ได้สิทธิเต็มที่ ไม่มีโดนหลอก!ชาวต่างด้าวข้ามฝั่งมาคลอดฟรี คนไทยเสียงแตก งานนี้ใครได้ ใครเสียชั่วขณะสุดท้ายของชีวิต หากถูกประหารด้วยกิโยติน เราจะรู้สึกอย่างไร?
ตั้งกระทู้ใหม่