หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ของใต้มีกลิ่นแต่หรอยแรง

โพสท์โดย buay1975

ของหรอยคนใต้ แต่กลิ่นแรง

1.สะตอ

สะตอ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Parkia speciosa) เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ถั่ว (Fabaceae) มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนชื้นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย รวมถึงทางตอนใต้ของไทย และพม่า โดยสะตอเจริญเติบโตได้ดีตามเชิงเขาที่มีสภาพป่าสมบูรณ์ ที่มีความชื้นในอากาศสูง

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

สะตอเป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 5-10 เมตร ลำต้นเป็นสีน้ำตาลอ่อน เปลือกเรียบ มีกิ่งก้านสาขามากมาย ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ใบย่อยเรียงตรงข้าม มี 31-38 คู่ รูปขอบขนานแคบ กว้าง 1.8-2.2 มม. ยาว 6-9 มม. ดอก ออกเป็นช่อ แบบช่อกระจุกห้อยลง ดอกสมบูรณเพศอยู่ตอนปลาย ดอกเพศผู้อยู่ตอนล่างของช่อดอก ฝัก แบน กว้าง 3-5 ซม. ยาว 36-45 ซม. บริเวณที่มีเมล็ดจะโป่งพอง

การเจริญเติบโตและช่วงเก็บเกี่ยว

สะตอเป็นพืชที่มีอายุยืนยาว ใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี จึงจะเริ่มออกดอกและติดฝัก ฝักสะตอจะสุกประมาณ 3 เดือนหลังดอกบาน สะตอแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์หลัก ๆ คือ สะตอข้าว และสะตอดำ

  • สะตอข้าว มีลักษณะฝักเป็นเกลียว มีขนาดเล็ก เรียวยาว เป็นเกลียว เปลือกบาง นิยมทานเพราะเมล็ดมีกลิ่นไม่ฉุนนัก แต่เนื้อเมล็ดไม่ค่อยแน่น มีความกรอบหวานมัน
  • สะตอดำ มีลักษณะฝักเป็นฝักตรง มีขนาดใหญ่กว่าสะตอข้าว เปลือกหนา เนื้อเมล็ดแน่น นิยมทานเพราะเมล็ดมีกลิ่นฉุน หอมมัน

การใช้ประโยชน์

สะตอเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่หลายชนิด นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ เช่น แกงป่าใส่สะตอ สะตอผัดกุ้ง สะตอผัดกะปิกุ้งสด เป็นต้น สะตอยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นสะตอดองได้อีกด้วย

ประโยชน์และสรรพคุณ

สะตอมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น

  • ช่วยขับลมในลำไส้
  • ช่วยเจริญอาหาร
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • แก้ปัสสาวะพิการ
  • แก้ไตพิการ
  • แก้ปัสสาวะมีสีขุ่นข้น เหลือง หรือแดง
  • แก้อาการแน่นท้อ
  • แก้อาการผิดปกติของไต

ข้อควรระวังในการรับประทานสะตอ

สะตอมีสารประกอบบางชนิดที่ทำให้ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารได้ จึงควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่ควรรับประทานสะตอดิบ เพราะอาจทำให้ท้องเสียได้ นอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่ว ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานสะตอ

สรุป

สะตอเป็นพืชพื้นเมืองของไทยที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสรรพคุณทางยามากมาย นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ สะตอมีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว แต่ก็มีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

2.ลูกเนียง

www.technologychaoban.com

ลูกเนียง หรือ เมล็ดเนียง เป็นพืชพื้นเมืองของไทย พบมากทางภาคใต้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Archidendron pauciflorum เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นมีสีเทาหรือน้ำตาลอ่อนปนเทา เรือนยอดเป็นพุ่มกลมใหญ่ ดอกสีขาว ขนาดเล็ก ออกเป็นช่อ ผลเป็นฝักแบนเป็นเกลียวไปทางเดียวกัน คล้ายรูปเกือกม้า ผิวสีน้ำตาลคล้ำหรือสีน้ำตาลอมม่วง เมล็ดมีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา

blog.arda.or.th

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

  • ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นมีสีเทาหรือน้ำตาลอ่อนปนเทา เรือนยอดเป็นพุ่มกลมใหญ่
  • ใบ ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ใบย่อยเรียงตรงข้าม มี 31-38 คู่ รูปขอบขนานแคบ กว้าง 1.8-2.2 มม. ยาว 6-9 มม.
  • ดอก ออกเป็นช่อ แบบช่อกระจุกห้อยลง ดอกสมบูรณเพศอยู่ตอนปลาย ดอกเพศผู้อยู่ตอนล่างของช่อดอก
  • ฝัก แบน กว้าง 3-5 ซม. ยาว 36-45 ซม. บริเวณที่มีเมล็ดจะโป่งพอง
  • เมล็ด มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา เปลือกเมล็ดสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เมล็ดสีเหลืองหรือสีขาว

การเจริญเติบโตและช่วงเก็บเกี่ยว

ลูกเนียงเป็นพืชที่มีอายุยืนยาว ใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี จึงจะเริ่มออกดอกและติดฝัก ฝักลูกเนียงจะสุกประมาณ 3 เดือนหลังดอกบาน นิยมรับประทานลูกเนียงในช่วงฝักแก่จัด ฝักจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลคล้ำหรือสีน้ำตาลอมม่วง เมล็ดจะมีลักษณะเป็นสีเหลืองหรือสีขาว เนื้อเมล็ดจะเหนียวและมัน

การใช้ประโยชน์

ลูกเนียงเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่หลายชนิด นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ เช่น แกงเลียงลูกเนียง แกงเผ็ดลูกเนียง ยำลูกเนียง เป็นต้น ลูกเนียงยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นลูกเนียงดองได้อีกด้วย

ประโยชน์และสรรพคุณ

ลูกเนียงมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น

  • ช่วยบำรุงกำลัง
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • ช่วยแก้ท้องผูก
  • ช่วยแก้อาการขัดเบา
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ
  • ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย
  • ช่วยแก้อาการบวม

ข้อควรระวังในการรับประทานลูกเนียง

ลูกเนียงมีสารพิษที่เรียกว่า "กรดเจงโคลิก" เป็นกรดอะมิโนที่มีกรดกำมะถันสูง หากรับประทานลูกเนียงดิบหรือรับประทานในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะลำบาก เป็นต้น ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่ว ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานลูกเนียง

สรุป

ลูกเนียงเป็นพืชพื้นเมืองของไทยที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสรรพคุณทางยามากมาย นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ ลูกเนียงมีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ควรรับประทานอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันอาการอาหารเป็นพิษ

3.ลูกเหรียง

ลูกเหรียง หรือ เมล็ดเหรียง เป็นพืชพื้นเมืองของไทย พบมากทางภาคใต้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Parkia timoriana เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูงประมาณ 30-50 เมตร ลำต้นมีสีเทาปนเขียวอ่อน เปลือกเรียบและหนา ดอกสีขาว ขนาดเล็ก ออกเป็นช่อ ผลเป็นฝักแบน ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เมล็ดมีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

  • ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูงประมาณ 30-50 เมตร ลำต้นมีสีเทาปนเขียวอ่อน เปลือกเรียบและหนา
  • ใบ ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ใบย่อยเรียงตรงข้าม มี 18-33 คู่ รูปขอบขนาน กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 5-10 เซนติเมตร
  • ดอก ออกเป็นช่อ แบบช่อกระจุกห้อยลง ดอกสมบูรณเพศอยู่ตอนปลาย ดอกเพศผู้อยู่ตอนล่างของช่อดอก
  • ฝัก แบน ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เมล็ดเรียงกัน 2 แถว เมล็ดมีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา เปลือกเมล็ดสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เมล็ดสีเหลืองหรือสีขาว

การเจริญเติบโตและช่วงเก็บเกี่ยว

ลูกเหรียงเป็นพืชที่มีอายุยืนยาว ใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี จึงจะเริ่มออกดอกและติดฝัก ฝักลูกเหรียงจะสุกประมาณ 3 เดือนหลังดอกบาน นิยมรับประทานลูกเหรียงในช่วงฝักแก่จัด ฝักจะมีลักษณะเป็นสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เมล็ดจะมีลักษณะเป็นสีเหลืองหรือสีขาว เนื้อเมล็ดจะเหนียวและมัน

การใช้ประโยชน์

ลูกเหรียงเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่หลายชนิด นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ เช่น แกงเลียงลูกเหรียง แกงเผ็ดลูกเหรียง ยำลูกเหรียง เป็นต้น ลูกเหรียงยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นลูกเหรียงดองได้อีกด้วย

ประโยชน์และสรรพคุณ

ลูกเหรียงมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น

  • ช่วยบำรุงกำลัง
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • ช่วยแก้ท้องผูก
  • ช่วยแก้อาการขัดเบา
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ
  • ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย
  • ช่วยแก้อาการบวม

ข้อควรระวังในการรับประทานลูกเหรียง

ลูกเหรียงมีสารพิษที่เรียกว่า "กรดเจงโคลิก" เป็นกรดอะมิโนที่มีกรดกำมะถันสูง หากรับประทานลูกเหรียงงดิบหรือรับประทานในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะลำบาก เป็นต้น ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่ว ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานลูกเหรียง

สรุป

ลูกเหรียงเป็นพืชพื้นเมืองของไทยที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสรรพคุณทางยามากมาย นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ ลูกเหรียงมีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ควรรับประทานอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันอาการอาหารเป็นพิษ

ความแตกต่างระหว่างลูกเหรียงกับลูกเนียง

ลูกเหรียงและลูกเนียงเป็นพืชในวงศ์ถั่วเหมือนกัน แต่มีลักษณะและรสชาติที่แตกต่างกัน ดังนี้

ลักษณะลูกเหรียงลูกเนียง
ต้น ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ไม้ยืนต้นขนาดกลาง
ฝัก แบน ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร แบน เป็นเกลียวไปทางเดียวกัน คล้ายรูปเกือกม้า ผิวสีน้ำตาลคล้ำหรือสีน้ำตาลอมม่วง
เมล็ด มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา
รสชาติ หวานมัน กลิ่นฉุน หวานมัน กลิ่นไม่ฉุน

ลูกเหรียงมีรสหวานมัน กลิ่นฉุน นิยมนำมาประกอบอาหารในภาคใต้ เช่น แกงเลียงลูกเหรียง แกงเผ็ดลูกเหรียง ยำลูกเหรียง เป็นต้น ส่วนลูกเนียงมีรสหวานมัน กลิ่นไม่ฉุน นิยมนำมาประกอบอาหารในภาคใต้ เช่น แกงเลียงลูกเนียง แกงเผ็ดลูกเนียง ยำลูกเนียง เป็นต้น

4.เนียงนก

สำหรับผู้เขียนของที่มีกลิ่นแรงทั้งหมดนี้ ชอบทานมาก หรอยแรงครับ

โพสท์โดย: buay1975
อ้างอิงจาก: ข้อมูลทางวิชาการ มาจากหนังสือตำราพฤกษศาสตร์ เว็บไซต์ของกรมวิชาการเกษตร
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
buay1975's profile


โพสท์โดย: buay1975
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: buay1975
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ฝรั่งยังผวาความศักดิ์สิทธิ์ "วัดพระแก้ว " ของไทยเขมรโป๊ะแตก! สั่งออนใลน์เอาผ้าปูโต๊ะจากไทยมาทำเป็นสะไบ คิดได้ไงเนี่ย?ยกพลขึ้นบก 6000 นาย ทำเอาพัทยาคึกคักชันจนได้ฉายา " สะพานรถไฟเหาะ "อันตราย 4 โรคต้องห้ามกินทุเรียน..!หากรู้ดีว่าตัวเองโง่..จะมีวิธีไหนบ้างให้ลูกฉลาดกว่าเรา ?พลิกชีวิตเด็กโดนบูลลี่..รวยเป็นเศรษฐีเพราะขนมถังแตกเขมรหัวใส! แอบอ้างฝีมือคนไทยด้วยการเอาภาพไปแปะธงเพื่ออวดชาวเขมรด้วยกันเอง?เมื่อหนุ่มแต่งหน้าไม่เป็น..แต่อยากตามเทรนด์กับเขาดูบ้าง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชันจนได้ฉายา " สะพานรถไฟเหาะ "หากรู้ดีว่าตัวเองโง่..จะมีวิธีไหนบ้างให้ลูกฉลาดกว่าเรา ?เมื่อหนุ่มแต่งหน้าไม่เป็น..แต่อยากตามเทรนด์กับเขาดูบ้าง7สถานที่ขอพร"สมหวัง"สายพราหมณ์-ฮินดูsacred: ศักดิ์สิทธิ์
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เจนนี่ " แมวพยากรณ์ " แห่งเรือไททานิกอาณานิคมผึ้งล่มสลาย เป็นวันที่ไม่มีโลกต่อไปsacred: ศักดิ์สิทธิ์ฝรั่งยังผวาความศักดิ์สิทธิ์ "วัดพระแก้ว " ของไทย
ตั้งกระทู้ใหม่