ของใต้มีกลิ่นแต่หรอยแรง
ของหรอยคนใต้ แต่กลิ่นแรง
1.สะตอ
สะตอ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Parkia speciosa) เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ถั่ว (Fabaceae) มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนชื้นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย รวมถึงทางตอนใต้ของไทย และพม่า โดยสะตอเจริญเติบโตได้ดีตามเชิงเขาที่มีสภาพป่าสมบูรณ์ ที่มีความชื้นในอากาศสูง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
สะตอเป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 5-10 เมตร ลำต้นเป็นสีน้ำตาลอ่อน เปลือกเรียบ มีกิ่งก้านสาขามากมาย ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ใบย่อยเรียงตรงข้าม มี 31-38 คู่ รูปขอบขนานแคบ กว้าง 1.8-2.2 มม. ยาว 6-9 มม. ดอก ออกเป็นช่อ แบบช่อกระจุกห้อยลง ดอกสมบูรณเพศอยู่ตอนปลาย ดอกเพศผู้อยู่ตอนล่างของช่อดอก ฝัก แบน กว้าง 3-5 ซม. ยาว 36-45 ซม. บริเวณที่มีเมล็ดจะโป่งพอง
การเจริญเติบโตและช่วงเก็บเกี่ยว
สะตอเป็นพืชที่มีอายุยืนยาว ใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี จึงจะเริ่มออกดอกและติดฝัก ฝักสะตอจะสุกประมาณ 3 เดือนหลังดอกบาน สะตอแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์หลัก ๆ คือ สะตอข้าว และสะตอดำ
- สะตอข้าว มีลักษณะฝักเป็นเกลียว มีขนาดเล็ก เรียวยาว เป็นเกลียว เปลือกบาง นิยมทานเพราะเมล็ดมีกลิ่นไม่ฉุนนัก แต่เนื้อเมล็ดไม่ค่อยแน่น มีความกรอบหวานมัน
- สะตอดำ มีลักษณะฝักเป็นฝักตรง มีขนาดใหญ่กว่าสะตอข้าว เปลือกหนา เนื้อเมล็ดแน่น นิยมทานเพราะเมล็ดมีกลิ่นฉุน หอมมัน
การใช้ประโยชน์
สะตอเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่หลายชนิด นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ เช่น แกงป่าใส่สะตอ สะตอผัดกุ้ง สะตอผัดกะปิกุ้งสด เป็นต้น สะตอยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นสะตอดองได้อีกด้วย
ประโยชน์และสรรพคุณ
สะตอมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น
- ช่วยขับลมในลำไส้
- ช่วยเจริญอาหาร
- ช่วยขับปัสสาวะ
- แก้ปัสสาวะพิการ
- แก้ไตพิการ
- แก้ปัสสาวะมีสีขุ่นข้น เหลือง หรือแดง
- แก้อาการแน่นท้อ
- แก้อาการผิดปกติของไต
ข้อควรระวังในการรับประทานสะตอ
สะตอมีสารประกอบบางชนิดที่ทำให้ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารได้ จึงควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่ควรรับประทานสะตอดิบ เพราะอาจทำให้ท้องเสียได้ นอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่ว ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานสะตอ
สรุป
สะตอเป็นพืชพื้นเมืองของไทยที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสรรพคุณทางยามากมาย นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ สะตอมีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว แต่ก็มีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
2.ลูกเนียง
www.technologychaoban.com
ลูกเนียง หรือ เมล็ดเนียง เป็นพืชพื้นเมืองของไทย พบมากทางภาคใต้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Archidendron pauciflorum เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นมีสีเทาหรือน้ำตาลอ่อนปนเทา เรือนยอดเป็นพุ่มกลมใหญ่ ดอกสีขาว ขนาดเล็ก ออกเป็นช่อ ผลเป็นฝักแบนเป็นเกลียวไปทางเดียวกัน คล้ายรูปเกือกม้า ผิวสีน้ำตาลคล้ำหรือสีน้ำตาลอมม่วง เมล็ดมีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา
blog.arda.or.th
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
- ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นมีสีเทาหรือน้ำตาลอ่อนปนเทา เรือนยอดเป็นพุ่มกลมใหญ่
- ใบ ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ใบย่อยเรียงตรงข้าม มี 31-38 คู่ รูปขอบขนานแคบ กว้าง 1.8-2.2 มม. ยาว 6-9 มม.
- ดอก ออกเป็นช่อ แบบช่อกระจุกห้อยลง ดอกสมบูรณเพศอยู่ตอนปลาย ดอกเพศผู้อยู่ตอนล่างของช่อดอก
- ฝัก แบน กว้าง 3-5 ซม. ยาว 36-45 ซม. บริเวณที่มีเมล็ดจะโป่งพอง
- เมล็ด มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา เปลือกเมล็ดสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เมล็ดสีเหลืองหรือสีขาว
การเจริญเติบโตและช่วงเก็บเกี่ยว
ลูกเนียงเป็นพืชที่มีอายุยืนยาว ใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี จึงจะเริ่มออกดอกและติดฝัก ฝักลูกเนียงจะสุกประมาณ 3 เดือนหลังดอกบาน นิยมรับประทานลูกเนียงในช่วงฝักแก่จัด ฝักจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลคล้ำหรือสีน้ำตาลอมม่วง เมล็ดจะมีลักษณะเป็นสีเหลืองหรือสีขาว เนื้อเมล็ดจะเหนียวและมัน
การใช้ประโยชน์
ลูกเนียงเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่หลายชนิด นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ เช่น แกงเลียงลูกเนียง แกงเผ็ดลูกเนียง ยำลูกเนียง เป็นต้น ลูกเนียงยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นลูกเนียงดองได้อีกด้วย
ประโยชน์และสรรพคุณ
ลูกเนียงมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น
- ช่วยบำรุงกำลัง
- ช่วยขับปัสสาวะ
- ช่วยแก้ท้องผูก
- ช่วยแก้อาการขัดเบา
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ
- ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย
- ช่วยแก้อาการบวม
ข้อควรระวังในการรับประทานลูกเนียง
ลูกเนียงมีสารพิษที่เรียกว่า "กรดเจงโคลิก" เป็นกรดอะมิโนที่มีกรดกำมะถันสูง หากรับประทานลูกเนียงดิบหรือรับประทานในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะลำบาก เป็นต้น ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่ว ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานลูกเนียง
สรุป
ลูกเนียงเป็นพืชพื้นเมืองของไทยที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสรรพคุณทางยามากมาย นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ ลูกเนียงมีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ควรรับประทานอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันอาการอาหารเป็นพิษ
3.ลูกเหรียง
ลูกเหรียง หรือ เมล็ดเหรียง เป็นพืชพื้นเมืองของไทย พบมากทางภาคใต้ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Parkia timoriana เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูงประมาณ 30-50 เมตร ลำต้นมีสีเทาปนเขียวอ่อน เปลือกเรียบและหนา ดอกสีขาว ขนาดเล็ก ออกเป็นช่อ ผลเป็นฝักแบน ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เมล็ดมีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
- ลำต้น เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูงประมาณ 30-50 เมตร ลำต้นมีสีเทาปนเขียวอ่อน เปลือกเรียบและหนา
- ใบ ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ใบย่อยเรียงตรงข้าม มี 18-33 คู่ รูปขอบขนาน กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 5-10 เซนติเมตร
- ดอก ออกเป็นช่อ แบบช่อกระจุกห้อยลง ดอกสมบูรณเพศอยู่ตอนปลาย ดอกเพศผู้อยู่ตอนล่างของช่อดอก
- ฝัก แบน ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร เมล็ดเรียงกัน 2 แถว เมล็ดมีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา เปลือกเมล็ดสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เมล็ดสีเหลืองหรือสีขาว
การเจริญเติบโตและช่วงเก็บเกี่ยว
ลูกเหรียงเป็นพืชที่มีอายุยืนยาว ใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี จึงจะเริ่มออกดอกและติดฝัก ฝักลูกเหรียงจะสุกประมาณ 3 เดือนหลังดอกบาน นิยมรับประทานลูกเหรียงในช่วงฝักแก่จัด ฝักจะมีลักษณะเป็นสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เมล็ดจะมีลักษณะเป็นสีเหลืองหรือสีขาว เนื้อเมล็ดจะเหนียวและมัน
การใช้ประโยชน์
ลูกเหรียงเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่หลายชนิด นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ เช่น แกงเลียงลูกเหรียง แกงเผ็ดลูกเหรียง ยำลูกเหรียง เป็นต้น ลูกเหรียงยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นลูกเหรียงดองได้อีกด้วย
ประโยชน์และสรรพคุณ
ลูกเหรียงมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น
- ช่วยบำรุงกำลัง
- ช่วยขับปัสสาวะ
- ช่วยแก้ท้องผูก
- ช่วยแก้อาการขัดเบา
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ
- ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย
- ช่วยแก้อาการบวม
ข้อควรระวังในการรับประทานลูกเหรียง
ลูกเหรียงมีสารพิษที่เรียกว่า "กรดเจงโคลิก" เป็นกรดอะมิโนที่มีกรดกำมะถันสูง หากรับประทานลูกเหรียงงดิบหรือรับประทานในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะลำบาก เป็นต้น ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่ว ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานลูกเหรียง
สรุป
ลูกเหรียงเป็นพืชพื้นเมืองของไทยที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสรรพคุณทางยามากมาย นิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะในอาหารไทยภาคใต้ ลูกเหรียงมีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ควรรับประทานอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันอาการอาหารเป็นพิษ
ความแตกต่างระหว่างลูกเหรียงกับลูกเนียง
ลูกเหรียงและลูกเนียงเป็นพืชในวงศ์ถั่วเหมือนกัน แต่มีลักษณะและรสชาติที่แตกต่างกัน ดังนี้
| ลักษณะ | ลูกเหรียง | ลูกเนียง |
|---|---|---|
| ต้น | ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ | ไม้ยืนต้นขนาดกลาง |
| ฝัก | แบน ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร | แบน เป็นเกลียวไปทางเดียวกัน คล้ายรูปเกือกม้า ผิวสีน้ำตาลคล้ำหรือสีน้ำตาลอมม่วง |
| เมล็ด | มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา | มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว 2 ฝา |
| รสชาติ | หวานมัน กลิ่นฉุน | หวานมัน กลิ่นไม่ฉุน |
ลูกเหรียงมีรสหวานมัน กลิ่นฉุน นิยมนำมาประกอบอาหารในภาคใต้ เช่น แกงเลียงลูกเหรียง แกงเผ็ดลูกเหรียง ยำลูกเหรียง เป็นต้น ส่วนลูกเนียงมีรสหวานมัน กลิ่นไม่ฉุน นิยมนำมาประกอบอาหารในภาคใต้ เช่น แกงเลียงลูกเนียง แกงเผ็ดลูกเนียง ยำลูกเนียง เป็นต้น
4.เนียงนก
-
เนียงนก เป็นผักพื้นเมืองของภาคใต้ พบมากในป่าดิบชื้น ลำต้นเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผลเป็นฝักกลมยาวทรงกระบอก เปลือกอุ้มน้ำมีกาบแข็งหุ้ม เยื่อหุ้มสีเหลือง ด้านในมีเมล็ดผิวเปลือกเรียบ เมล็ดขนาดกลางเรียงซ้อนอัดแน่น 6-10 เมล็ด พอแก่สีดำ
-
เนียงนก มีรสชาติอร่อย กรอบ มัน ออกหวานนิดๆ นิยมนำมาประกอบอาหาร เช่น แกงเลียง แกงเผ็ด ยำ กินกับข้าวยำ ขนมจีนน้ำยาใต้ หรือจิ้มน้ำพริกเป็นผักเหนาะ
-
เนียงนก ออกผลผลิตเพียงปีละครั้งเท่านั้น ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนในพื้นที่อื่นๆ อาจมีผลผลิตออกเร็วหรือช้ากว่า
สำหรับผู้เขียนของที่มีกลิ่นแรงทั้งหมดนี้ ชอบทานมาก หรอยแรงครับ
อ้างอิงจาก: ข้อมูลทางวิชาการ มาจากหนังสือตำราพฤกษศาสตร์ เว็บไซต์ของกรมวิชาการเกษตร
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68 มาแล้ว!..รีบส่องเลย ก่อนหมดแผง!!
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
“ย้อนวันวานอาหารจานละ 2-3 บาท กินอิ่มทั้งบ้านด้วยเงินไม่กี่บาท ราคาน่ารักที่วันนี้หาไม่ได้แล้ว”
ทำไมต้องหย่ากัน หลังถูกคดีความ? เหตุผลที่ฟังดูดราม่า…แต่จริงกว่าที่คิด
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
Unseen ไทยแลนด์ เกาะรูปหัวใจ "ทุ่งทะเลหลวง" สุโขทัย











