หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ชีวประวัติ “ท่านหมอชีวกโกมารภัจจ์” โดยพิสดาร ตอนที่ 1

โพสท์โดย กรูส์นี่

“........ดอกบัวยังมีชาติกำเนิดมาจากโคลนตมธรรมดาคนจะดีจึงไม่ได้อยู่ที่ชาติกำเนิดที่ดี
หรืออยู่ที่ใด หากแต่อยู่ที่ คุณธรรม ความดี ความเสียสละเพื่อมนุษย์ชาติ ใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่า
เพื่อสาธารณะชนทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม โดยไม่หวังผลตอบแทน”
“.........บุคคลเช่นนี้ได้บังเกิดขึ้นแล้วในอดีตแม้ร่างจะล่วงลับดับขันธ์ไปแต่ชื่อเสียง
เกียรติคุณความดี ของท่านยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของคนในสมัยต่อมา ทั้งในด้านคุณธรรม
ความสามารถ ปาฏิภาณ ความฉลาดเป็นเลิศในทุกด้าน จนได้รับการยกย่องจากพระบรมศาสดาองค์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เป็นเอกอัครอภิมหาบูรพปรมาจารย์แห่งชมพูทวีป เมื่อ ๒,๖๐๐ ปีก่อน
..........ท่านผู้นั้นคือ หมอชีวกโกมารภัจจ์ แพทย์แผนประจำองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้มีชื่อเสียง
ก้อง โลกในทางว่านยาและสมุนไพรรักษาโรค ผู้ถือกำเนิดมาจากหญิงโสเภณีไม่ปรากฏบิดา”
ในสมัยพุทธกาลเกือบ ๓,๐๐๐ ปีมาแล้ว ณ เมืองไพศาลี อันเป็นเมืองที่มั่งคั่ง สมบูรณ์ด้วย
พืชพันธุ์ ธัญญาหาร สิ่งก่อสร้างอันวิจิตรพิสดาร พรั่งพร้อมด้วยปราสาทราชวัง สระโบกขรณีถึง ๗,๗๐๗
อย่าง โดยเฉพาะอุดมพร้อมพรั่งด้วยหญิงงามเมือง จนได้ชื่อว่า “นครโสเภณี” (จะมีจำนวน ๗๗๐๗
คน หรือเปล่านั้นมิทราบได้ เพราะในพระวินัยปิฎกไม่ได้ พรรณนาอธิบายไว้)
ในสมัยนั้นใครเป็นหญิงงามเมืองถือว่าเป็นผู้ทรงเกียรติเพราะเป็นตำแหน่งที่
พระราชาทรงแต่งตั้ง โดยคัดเอาสตรีที่มีเรือนร่างสะคราญตาที่สุดมีความสามารถในทางฟ้อนรำ
ขับร้องประโคมดนตรี จึงจะมีตำแหน่งเป็นหญิงงามเมืองได้ ผิดกับหญิงโสเภณีสมัยนี้ หน้าตาไม่
น่าจะมีราคาแถมยังไม่มี ความสามารถอะไรเลย ก็ยังซื้อขายกันได้เป็นร้อยเป็นพัน

 

นครโสเภณีสมัยนั้น ได้กลายเป็นแหล่งจรรโลงใจของชายหนุ่ม จากเมืองต่าง ๆ
โดยเฉพาะ พ่อค้าวาณิชที่มาติดต่อค้าจากแดนไกลทำให้การค้าขายระหว่างเมืองราชคฤห์กับเมือง
ไพศาลี เจริญรุ่งเรืองขึ้น
ต่อมาความสำคัญของหญิงโสเภณีได้ระบาดเป็นสมัยนิยมขึ้นที่เมืองราชคฤห์เป็นเมืองที่
สอง ซึ่งตรงกับรัชสมัยของ พระเจ้าพิมพิสาร ทรงเห็นชอบด้วยที่จะให้มีหญิงงามเมืองไว้เพื่อดึงดูด
ใจ โดยเฉพาะดึงดูดเงินจากพ่อค้าวาณิชที่ติดต่อค้าขายระหว่างเมือง
พระเจ้าพิมพิสารจึงรับสั่งให้คัดเลือกสตรีงามนางหนึ่งขึ้นมาดำรงตำแหน่งนี้เธอเป็น
สาวงามแรกรุ่นดรุณี มีนามว่า “สาลวดี” มีอัตราค่าตัวสูงสำหรับผู้ร่วมภิรมย์แต่ละคืนมีชาย
หนุ่มมา ลุ่มหลงกันมากมายไม่นานนักนางสาลวดีก็ตั้งครรภ์ขึ้น โดยไม่ปรากฏบิดาเด็กในครรภ์
นางจึงงดรับแขก คอยจนครรภ์แก่จึงคลอดบุตรออกมาเป็นชาย ดึกสงัดของคืนที่ทารกจะลืมดูโลก
โดยไม่มีโอกาสได้เห็นหน้ามารดาอีกเลย เพราะนางได้สั่งให้หญิงรับใช้นำทารกน้อยนั้น ใส่กระด้ง
ไปทิ้งไว้ที่กองขยะนอกเมือง


เดชะบุญที่พรหมลิขิตขีดเส้นให้เจ้าฟ้าอภัยพระราชโอรสของพระเจ้าพิมพิสารเสด็จออก
สูดอากาศในยามรุ่งอรุณของวันนั้น มุ่งพระพักตร์มายังกองขยะเพราะได้ทอดพระเนตรเห็นฝูงแร้ง
กา ต่างบินลงมาที่กองขยะ เมื่อรับสั่งให้ทหารมหาดเล็กไปดู ก็เห็นทารกนอนดิ้นกระแด่วไขว่คว้าหา
ความอบอุ่นอยู่ในกระด้ง เจ้าฟ้าอภัยเกิดความสงสารจับใจ จึงนำมาชุบเลี้ยงเป็นโอรสบุญธรรมทรง
ขนานนามว่า “ชีวกโกมารภัจจ์ ซึ่งแปลว่า บุญยัง หมายความว่า ผู้ยังมีชีวิต”

เดินทางไปศึกษา ณ เมืองตักศิลา
เจ้าหนูน้อย “บุญยัง” เติบโตท่ามกลางลูกเจ้าลูกนายในรั้วในวัง จึงมีความ
เฉลียวลาดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ถือแววฉลาด เอาชนะเพื่อนรุ่นเดียวกันไปเสียทุกอย่าง
ทำให้เกิดความอิจฉา ริษยาในหมู่เพื่อนฝูง เกิดการล้อเลียนถึงชาติตระกูล และดูหมิ่นว่าเป็น
เด็กข้างถนน เด็กไม่มีพ่อแม่
คำพูดนี้เองทำให้เจ้าบุญยังเกิดความมานะ พยายามที่จะหาความรู้ใส่ตัวเพื่อลบล้างปม
ด้อย ต่าง ๆ ให้ได้ แล้ววันนั้นก็มาถึง เขาได้มีโอกาสหนีออกจากวัง เดินทางไปกับพวกพ่อค้าโดย
ไม้ได้ทูลลาเจ้าชาย ผู้เป็นบิดาบุญธรรม มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองตักศิลาอันเป็นแหล่งสรรพวิชาทั่วโลก
เป็นมหาวิทยาลัย แห่งแรกของโลกที่ให้ความรู้ทุกด้านของชาวภารตะ
ณ เมืองตักศิลา เจ้าบุญยังขณะนั้นเป็นหนุ่มแล้วได้เข้าไปหาอาจารย์ทิศาปาโมกข์ มอบตัว
เป็นศิษย์ขอเรียนวิชาแพทย์ศาสตร์ โดยช่วยทำงานรับใช้อาจารย์สารพัด ตั้งแต่ตักน้ำ ผ่าฟืน บีบนวด
หุงหาอาหาร เป็นการตอบแทนค่าสอน ๗ ปีให้หลังที่ชีวกหนุ่ม หรือเจ้าบุญยังที่ถูกแม่โสเภณีนำมา
ทิ้งกองขยะ ก็แตกฉานในสาขาวิชาแพทย์ศาสตร์อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแพทย์แผนโบราณที่ใช้ว่าน
ยาสมุนไพรรักษา


การเรียนในสมัยนั้นต้องมีการสอบเพื่อทดสอบความรู้ก่อนเลื่อนชั้นอาจารย์ทิศาปาโมกข์
จึงใช้ให้หนุ่มน้อยชีวกไปสำรวจดูต้นไม้ทุกต้นหญ้าทุกชนิด ทั่วทั้งสี่ทิศภายในรัศมี ๔๐๐ เส้น ให้ดู
ว่าไม้ชนิดไหนใช้เป็นยาอะไรบ้าง อย่างไหนใช้ไม่ได้เลย แม้แต่ต้นหญ้าก็ให้บอกถึงชนิด และสรรพคุ
ณให้ได้หมดทุกอย่าง หนุ่มน้อยชีวกผู้ชาญฉลาด ได้เดินทางออกจากมหาวิทยาลัยตักกะศิลาขึ้นป่า
ลุยดงไม้นานาชนิด สำรวจไปทั่วทั้ง ๔ ทิศเป็นเวลาทั้งสิ้น ๗ วัน จึงกลับออกมาพร้อมกับคำตอบที่ใ
ห้กับอาจารย์ว่า
“ต้นไม้ใบหญ้าและสมุนไพรใด ๆ ในชมพูทวีปนี้ ที่ใช้ทำยาไม่ได้นั้นไม่มีเลยทุกอย่างเป็น ยาทั้งนั้น ขอรับ”
อาจารย์ยิ้มพร้อมกับเอามือลูบศรีษะด้วยความดีใจพร้อมกับกล่าวว่า “เอาละเป็นอันว่าเธอเรียนจบ
หลักสูตรแล้วขอให้นำวิชานี้ไปใช้ประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บไขได้ป่วย จะเป็นกุศลต่อเธอเอง”

ติดตามตอนต่อไป......

โพสท์โดย: กรูส์นี่
อ้างอิงจาก: หนังสือพงศาวดาร
ห้องสมุด
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
กรูส์นี่'s profile


โพสท์โดย: กรูส์นี่
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชาวเน็ตติง!! “ มีนา ริณา” ให้สัมภาษณ์ มาประกวดมิสแกรนด์แค่ทางผ่าน เพื่อเข้าวงการบันเทิงเฉย ๆ คำพูดตรงเกิ๊น !! 🙂‍↔️หม่าล่า กินบ่อยๆ อันตรายต่อร่างกายหรือไม่?'สาหร่ายเถ้าแก่น้อย'ประกาศไม่เกี่ยวกับร้านชาบูที่เอี่ยวคลิป'แบงค์ เลสเตอร์'เด็กวัย 7 ขวบ ซื้อบ้านหรูในอิแทวอน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาทด้วยเงินสดช่างเต้ บ้านสวนลั่นทำคอนเทนต์ขำๆ คิดว่าแบงค์ เลสเตอร์กินเหล้าปลอม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชาวเน็ตติง!! “ มีนา ริณา” ให้สัมภาษณ์ มาประกวดมิสแกรนด์แค่ทางผ่าน เพื่อเข้าวงการบันเทิงเฉย ๆ คำพูดตรงเกิ๊น !! 🙂‍↔️
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
นายกประกาศคำขวัญวันเด็กปี 2568 😌อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นมาได้อย่างไร"สวนสัตว์มนุษย์" (Human Zoo) บาดแผลในประวัติศาสตร์และบทเรียนของสังคม5 เรื่องแปลกๆ ของoสุจิที่คุณรู้แล้วจะตกใจ!
ตั้งกระทู้ใหม่